บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.8K
2 นาที
18 พฤษภาคม 2565
“ยาอมโบตัน” สินค้าคู่คนไทยกว่า 82 ปี รายได้รวมกว่าหมื่นล้าน
 

ยาอมโบตัน แบรนด์สินค้าของบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) สินค้านี้ทำตลาดในเมืองไทยมานานกว่า 82 ปี แต่ความคลาสสิคของยาอมโบตันที่ดูเหมือนจะตกยุค ไม่ทันเทรนด์ แต่ที่จริงเป็นสินค้าที่ขายดีมาก ซึ่งการจะพาสินค้าที่ดูธรรมดากลายมาเป็นสินค้าระดับตำนานถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าวิสัยทัศน์ของผู้บริการ วิธีการทำตลาด และการพัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการของคนยุคใหม่ ล้วนแต่เป็นคีเวิร์ดสำคัญที่ทำให้ยาอมโบตันกลายเป็นสินค้าขายดีที่เมื่อรวมกับสินค้าในกลุ่มอื่นของบริษัท สร้างรายได้รวมกว่าหมื่นล้านบาท
 
ยาอมโบตัน “สินค้าในตำนาน” อายุรวมกว่า 82 ปี
 

ย้อนไปในยุคแรก กับวลีฮิตติดหูในโฆษณาอย่าง “ยา...หย่า...ย่า...ยี...หยี่...ยี่...คุณแม่ซักผ้า คุณยายสระผม ลูกอมโบตัน ยาสีฟันคอลเกต สบู่วิเศษ...ปั๊กกะเป้ายิ้งฉุบ” น่าจะเป็นประโยคที่ถึงทุกวันนี้เราก็ยังจำกันได้ดี จากร้านขายยา “เต๊กเฮงหยู”ในปี 2435 ที่มีสินค้าแจ้งเกิดคือ ยากฤษณากลั่น ที่ยี่ห้อในปัจจุบันนี้คือตรากิเลน ที่ทำให้ร้านยาเต็กเฮงหยู ได้รับความนิยมและใช้ชื่อว่า “โอสถสถานเต็กเฮงหยู”

กระทั่งทายาทรุ่นที่ 2 เข้ามาสานต่อธุรกิจ จึงได้มีการคิดค้นสูตรยาสามัญประจำบ้านอื่น ๆ เพิ่มอีกหลายชนิด เช่น ยาธาตุ 4, ยาอมโบตัน รวมไปถึงการผลิตยาสมัยใหม่สูตรจากอังกฤษ อย่าง ยาทันใจ แต่ถ้ามองดูประวัติของบริษัท ที่มีการพูดถึงความนิยมของลูกอมโบตันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ก็เป็นไปได้ว่า อายุของลูกอมโบตัน น่าจะไม่น้อยกว่า 82 ปี
 
จุดเด่นสินค้าและความน่าสนใจของ “ยาอมโบตัน”
 

ยาอมโบตันแม้เป็นสินค้าหนึ่งของโอสภสภา แต่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้สินค้าอื่น จุดเด่นของยาอมโบตันคือใช้ส่วนผสมที่เป็นสมุนไพรจริงจากธรรมชาติมาผลิต ไม่ใช่แค่สารสกัด และยังการันตีว่าใช้แหล่งสมุนไพรคุณภาพสูง จึงทำให้ชุ่มคอได้นานกว่า ละลายช้าโดยมี 2 ส่วนผสมที่น่าสนใจมาก คือ รากชะเอมบด และสะระแหน่ ที่ถือว่าเป็นวัตถุดิบระดับพระเอกของยาอมโบตันเลยก็ว่าได้
 
เมื่อส่วนผสมดี การออกแบบบรรจุภัณฑ์ก็ต้องให้น่าสนใจ ซึ่งต้องยอมรับว่าทำได้ดีมากในจุดนี้ มีการใช้โทนสีที่ส่งเสริมกันให้สินค้าดูเด่นยิ่งขึ้น ทั้งสีแดง สีเหลือง และสีเขียว ซึ่งแต่ละสีก็มีความหมายดีๆ เช่นสีแดงหมายถึงโชคลาภ สีเหลืองหมายถึงแสงสว่าง สีเขียวหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น
 
การแจ้งเกิดของยาอมโบตันอาจต้องย้อนประวัติศาสตร์ไปถึงสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามที่ออกกฎให้คนไทยเลิกกินหมาก จึงทำให้ลูกอมได้เข้ามาแทนที่การเคี้ยวหมาก ทำให้ลูกอมโบตันในยุคแรกๆ ได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างมาก ไม่นับรวมการตลาดในยุคปัจจุบันที่เน้นการสื่อสารในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การติดประกาศตามต้นไม้ ท่าน้ำ ร้านค้า ร้านขายยา
 
 
การใช้กลยุทธ์รถเร่ฉายหนังขายยา ไปจนถึงการแจกสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้ เป็นสปอนเซอร์สนับสนุนในงานใหญ่ของจังหวัดต่าง ๆ ล้วนแต่มีผลในด้านการตลาดที่ทำให้สินค้าเป็นภาพจำของลูกค้าได้ทั่วประเทศ
 
นอกจากนี้โอสถสภายังได้มีการหันกลับมาทำตลาดเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาโบราณ รวมถึงโบตันเพิ่มมากขึ้น และได้จัดทำพิพิธภัณฑ์ร้านขายยา “กิเลน เต๊กเฮงหยู” ณ ล้ง 1919 ขึ้นมาเมื่อปี 2562 เพื่อรำลึกถึงรากเหง้าต้นกำเนิดของธุรกิจในยุคเริ่มต้นที่ดำเนินมากว่า 129 ปี มีการอิงกับกระแสของละครดังและภาพยนตร์ต่างๆ การนำนักแสดงคนรุ่นใหม่มาช่วยโปรโมตสินค้า ไปจนถึงการผลิตสินค้า Limited Edition และปรับปรุงรูปโฉมใหม่ของผลิตภัณฑ์ขึ้นมาด้วย
 
การพัฒนาสูตรยาอมโบตันให้ก้าวทันสมัยมากขึ้น
 

อย่างไรก็ดี ยาอมโบตัน ไม่ได้หยุดนิ่งและพอใจกับยอดขายที่มีอยู่ แต่มีการพัฒนาต่อเนื่องอย่างน่าสนใจในส่วนของรสชาติ สำหรับโบตันแบบคลาสสิกนั้น ยังคงรักษาสูตรและคุณภาพไว้เหมือนเดิม ปัจจุบันมีจำหน่ายหลายรูปแบบทั้งแบบซองและแบบตลับโดยโบตันตลับขาว เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบรสชาติดั้งเดิม แต่ต้องการความสะดวกสบายในการพกพา ส่วนตลับเหลือง หรือโบตันพลัส มีการปรับรสชาติให้หวานขึ้นด้วยชะเอม เพื่อให้กินง่าย
 
รวมถึงการพัฒนาสินค้าอย่าง Botan Mint Ball ด้วยการนำสารเคลือบความหวานที่ไม่ใช่น้ำตาล และความหอมเย็นมาเคลือบไว้ ส่วนด้านในยังคงเป็นโบตันรสดั้งเดิม ที่ได้รับความสนใจแม้หลายคนจะมองว่ารสดั้งเดิมแบบคลาสสิคจะน่าสนใจมากกว่าแต่การปรับรูปแบบใหม่ก็เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่ามีการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง
 
รายได้รวมไม่ธรรมดาสูงกว่าหมื่นล้านบาท
 

ภาพจาก www.facebook.com/botanfans

ในปี 2564 บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) แม้จะเจอปัญหาการแพร่ระบาดโควิด 19 แต่ภาพรวมก็ยังสามารถทำยอดขาย 26,762 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,255 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่ารายได้ดังกล่าวนับรวมสินค้าในเครือของบริษัท แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายาอมโบตันก็เป็นสินค้าระดับแนวหน้าที่มีส่วนในการดันยอดขายและสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างมาก และที่สำคัญเป็นแบรนด์สินค้าที่เป็นเหมือนหน้าตา และเป็นสินค้าที่สะท้อนถึงความเป็นโอสภสภาได้อย่างดี แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่จุดเริ่มของโอสถสภาคือมาจากยาสามัญประจำบ้านและยาอมโบตันก็คือตัวแทนของอดีตที่ต่อยอดมาถึงปัจจุบัน จึงเป็นอีกตำนานสินค้าที่น่าสนใจอย่างมาก
 
เชื่อว่านับจากนี้ยาอมโบตันก็ยังเป็นสินค้าที่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ยิ่งมีการบริหารจัดการที่ดี มีการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และการพัฒนาสินค้าที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่คนรุ่นเก่าเท่านั้นที่จะสนใจสินค้า แม้แต่คนรุ่นใหม่ตอนนี้ชื่อของยาอมโบตันก็เป็นที่รู้จักอย่างดีด้วย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
413
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด