ก้าวสู่ปี 2023 อย่างเต็มรูปแบบคาดว่าในปีนี้เราจะได้พบเจอกับอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องเทคโนโลยี สังคม และเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน อย่างไรก็ดีในแง่ของการลงทุนทำธุรกิจต่าง ๆ
 

www.ThaiFranchiseCenter.com คิดว่าเราต้องจับเทรนด์ที่กำลังมาแรกงและเลือกกลยุทธ์การตลาดได้อย่างถูกต้อง ซึ่งในปี 2023 มีเทรนด์อะไรน่าสนใจและการตลาดที่ดีควรเป็นแบบไหน เรามีข้อมูลมาให้ศึกษาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

เรารู้กันอยู่แล้วว่ายุคนี้คือโลกออนไลน์เต็มรูปแบบ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีออนไลน์นับวันจะยิ่งมากขึ้น และนี่คือเทรนด์สำหรับคนทำธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม ตัวเลขระบุชัดว่าภาพรวมของ 3 สื่อหลักที่มีอิทธิพลต่อคนไทยมากที่สุดได้แก่

ตัวเลขยังบ่งชี้ชัดว่า 92% ของคนไทยเลือกดูมากกว่า 1 แพลตฟอร์ม นอกจากนี้กว่า 26 ล้านคนนิยมดูสื่อในรูปแบบ OTT (over-the-top) ซึ่งเป็นวิธีให้บริการเนื้อหาวิดีโอโดยการสตรีมผ่านอินเทอร์เน็ต

 

2.แพลตฟอร์มออนไลน์คือช่องทางเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด
 

ในปัจจุบันการทำตลาดออนไลน์ต้องเน้นทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มยอดฮิตซึ่งก็มีหลายแพลตฟอร์มเช่น

3.ต้องเลือกโฟกัสกลุ่มลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
 

ในการทำตลาดสำหรับปี 2023 ไม่ควรเน้นการตลาดแบบกระจายเพื่อให้ประหยัดงบด้านการตลาดได้มากขึ้นและมีโอกาสเพิ่มยอดขายสินค้าได้ตรงกลุ่มที่ต้องการซึ่งเราต้องรู้ว่าปัจจุบันในสังคมมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายได้แก่

4.จับจุดเทรนด์ยอดนิยมเพื่อกระตุ้นการขาย
 

การใช้เทรนด์ที่คนฮิตมาเป็นส่วนหนึ่งในการตลาดจะช่วยเพิ่มยอดขายได้มาก เช่น FOMO (Fear of Missing Out) กลุ่มกลัวตกกระแส , Cooking & Baking กลุ่มนิยมการทำอาหารเพื่อความสุข , Health / Fitness / Runners กลุ่มดูแลสุขภาพ , Pet Lovers กลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง เป็นต้น ซึ่งหากธุรกิจจับจุดเทรนด์ในแต่ละกลุ่มจะทำให้มีการเพิ่มกำลังซื้อได้มาก นอกจากนี้ยังมีเทรนด์ที่น่าสนใจอย่าง Nostalgia กลุ่มคนโหยหาอดีต มีความสุขกับวันวาน เช่น นิยมถ่ายกล้องฟิล์ม หรือ Wellness Initiatives กลุ่มคนที่มองหาความสมดุลชีวิต ที่ถือว่ามาแรงในปี 2023 

 

 

ในบรรดาแพลตฟอร์มโซเชี่ยลที่คนนิยม TikTok ถือว่ามาแรงมาก โดยพบว่ามีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคน และ ผู้ใช้หลักอายุ 18-35 ปี ส่วนผู้ใช้อายุ 35-44 ปี ใช้เวลากับ TikTok เพิ่มขึ้น ซึ่ง TikTok เองก็ได้พัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจเช่นการเปิดตัวทั้ง TikTok Shop และฟังก์ชัน Affiliate เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าให้กับผู้สนใจ ทั้งนี้ในฐานะคนทำธุรกิจเจ้าของกิจการก็ต้องรู้จักการใช้ TikTok อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

 

6. การตลาดแบบ Phygital Marketing
 

Phygital Marketing คือ การสร้างประสบการณ์ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ช่วยสร้างประสบการณ์ซื้อสินค้าได้ดีขึ้น เน้นไปยังประสาทสัมผัส ที่โลกออนไลน์ไม่สามารถให้ได้ (รับรส ได้กลิ่น และสัมผัส) การใช้เทคโนโลยีสร้างประสบการณ์บนโลกจริง เพิ่มประสิทธิภาพของการทำการตลาด หรือที่เรียกว่า Real-Life Shopping Experience ที่อาจเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องมีการพัฒนาได้อีกมาก แต่ก็ถือว่าเป็นเทรนด์การตลาดที่จะมีอิทธิพลกับธุรกิจในปี 2023 อย่างมาก

 

Influencer Marketing ยังเป็นการตลาดที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ผ่านมาเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของ Influencer Marketing โดยเฉพาะคนทั่วไปสามารถแจ้งเกิดเป็น Influencer หรือ KOC (Key Opinion Consumer) ได้ไม่ยากและสร้างความน่าเชื่อถือ จนเปลี่ยนคนติดตามให้เป็นคนซื้อ รวมถึงสามารถเลื่อนไปเป็นสาวกของแบรนด์ได้ ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์เองว่าจะมีการเลือกใช้ Influencer Marketing อย่างไรให้ได้ผลมากที่สุด

 

 

ในปี 2023 การสร้างธุรกิจและการขายบรรดาลูกค้าไม่ได้ตัดสินใจที่ความต้องการอย่างเดียว ด้วยตัวเลือกที่มากขึ้น การเข้าถึงที่หลากหลาย สิ่งที่ลูกค้าต้องการคือ “ความประทับใจ” ที่คนทำธุรกิจต้องเน้นให้ลูกค้าประทับใจ ไม่ว่าจะการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่ , การพัฒนาสินค้าที่แตกต่าง หรือการให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าเป็นหลัก หากลูกค้าประทับใจ พอใจ ก็จะนำไปสู่การแชร์ การบอกต่อ ที่ต่อขยายในเรื่องการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

9.เทรนด์ความเสมอภาคและรักษ์สิ่งแวดล้อม มาแรงในปี 2023
 

ยิ่งโลกมีการเปลี่ยนแปลงสังคมก็ยิ่งมีการพัฒนามากขึ้น ความเสมอภาคสิทธิความเท่าเทียมไม่แบ่งแยกเพศ คือหนึ่งในเทรนด์ที่คนทำธุรกิจควรรู้เพื่อนำไปสู่การพัฒนาสื่อโฆษณาที่เจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมถึงนโยบายด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สินค้ารักษ์โลกต่าง ๆ ก็ล้วนแต่มีอิทธิพลต่อความรู้สึก ซึ่งรูปแบบของเทรนด์เหล่านี้อาจไม่ชัดเจนในแง่ของยอดขายทันที แต่คือการสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

 

10.Data คือสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจปี 2023
 

การทำธุรกิจหรือการผลิตสินค้าใดๆ ต่อจากนี้จำเป็นที่เราต้องมี Data รู้ว่าสิ่งที่คนต้องการคืออะไร ดังนั้นเรื่องการจัดเก็บข้อมูลจากลูกค้าถือเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจมองข้ามไม่ได้ เช่นคนยุคนี้มีความต้องการพฤติกรรมไร้สัมผัส (Contractless) อันเกิดจากความเคยชินและความสะดวกสบายที่ได้รับจากเทคโนโลยี จึงเป็นโอกาสที่นักการตลาดจะสร้างประสบการณ์ที่ดีกับผู้บริโภค เป็นต้น

หรือการเก็บข้อมูลในกลุ่มผู้สูงวัยเพื่อให้ทราบว่าต้องการสิ่งใด เช่นแอพธนาคาร, ช้อปปิ้งออนไลน์, บริการขนส่ง, แอพช่วยเหลือต่างๆ, แอพช่วยสื่อสาร ซึ่งการมีข้อมูลที่มากพอก็จะทำให้เราเจาะกลุ่มลูกค้าเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นด้วย

 

หากมองว่ายุคนี้เทคโนโลยีมีอิทธิพลกับการทำธุรกิจ แต่ในความเป็นจริงแล้วคนทำธุรกิจเองต่างหากที่ต้องเลือกใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งหลายอย่างเป็นความรู้ใหม่ที่เราต้องศึกษา การทำธุรกิจแบบเดิมในอดีตไม่สามารถนำมาใช้ได้จริงในยุคนี้ ผู้ประกอบการหรือคนทำธุรกิจต้องใส่ใจในเรื่องข้อมูลข่าวสารและเข้าถึงความต้องการลูกค้าได้อย่างแท้จริง ที่สำคัญต้องเป็นฝ่ายเข้าหาลูกค้าไม่ใช่รอให้ลูกค้าวิ่งเข้าหาเหมือนในอดีต

 

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3jKqRCI , https://bit.ly/3XccUfw 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)