บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
956
2 นาที
21 มีนาคม 2567
ขายอะไรดี! ทาสหมา ทาสแมว ธุรกิจสัตว์เลี้ยง มูลค่า 7.5 หมื่นล้านบาท
 

ธุรกิจ “สัตว์เลี้ยง” ได้รับการคาดการณ์หมายว่าจะเป็นหนึ่งในธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงของปี 2567 และก็ดูว่าจะแรงจริงๆ ถ้าดูตัวเลขจะพบว่า
  • ปี 2566 ตลาดสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าประมาณ 56,000 ล้านบาท เติบโต 12% เมื่อเทียบกับปี 2565
  • ปี 2566 มีการจัดตั้งธุรกิจรวม 494 รายเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 และอัตรากำไรเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าจากปี 2565
  • ปี 2567 คาดว่าตลาดสัตว์เลี้ยงมีมูลค่าประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 12.4% จากปี 2566
ถ้าแยกย่อยตัวเลขลงไปอีกจะพบว่าเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับ “สัตว์เลี้ยง” ยังมีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ในด้านอาหารสัตว์เลี้ยงก็มีอัตราการเติบโตถึง 20 %  ซึ่งตัวเลขด้านการส่งออกก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน ข้อมูลจากสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย (TPFA) ระบุว่า ประเทศไทยกลายเป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกในปี 2021 ด้วยมูลค่าส่งออกกว่า 21,000 ล้านบาท
 
 
ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยงจะเติบโตแบบเฟื่องฟูได้มากขนาดนี้ และแนวโน้ม Pet Humanization ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้มั่นใจว่าธุรกิจนี้ยังไปได้อีกยาวไกลนัก ได้แก่
  • สังคมไทยเป็น Pet Humanization มากขึ้นคนมีลูกน้อยลงหันไปเน้นการมีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวมากขึ้น
  • กระแส Petfluencer หรือการนำเสนอความน่ารักสัตว์เลี้ยงผ่านการเล่าเรื่องหรือการสร้าง Content ในโซเชี่ยลมีเดีย
  • ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่นิยมการยึดติดและผูกมัดรวมถึงความต้องการมีอิสระมากขึ้น ต้องแค่ความสุขเล็กๆ
  • ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ(Aging Society) ซึ่งสัตว์เลี้ยงจะช่วยคลายเหงาและทำให้คนเลี้ยงมีชีวิตชีวามากขึ้น
  • การเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทำให้หาอุปกรณ์ , อาหาร , ข้อมูลการเลี้ยงได้ง่ายขึ้น สั่งซื้อสินค้าก็ง่ายขึ้นด้วย
ในกรณีที่วิเคราะห์ลึกลงไปอีกจะยิ่งเห็นมูลค่าของตลาดสัตว์เลี้ยงที่ชัดเจน อันเนื่องจาก 70% ของผู้เลี้ยงสัตว์ในปัจจุบันให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยง ของตัวเองเสมือนสมาชิกในครอบครัว และอีก 66% ของผู้เลี้ยงมีความรักความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงของตนมาก ในจำนวนนี้ 47% ของผู้เลี้ยงยังมองสัตว์เลี้ยงของตนเป็นเสมือนลูกอีกด้วย
 
ถ้าลองไปดูตัวเลขเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจะพบว่า

  • กรณีเลี้ยงสุนัขต้องมีเงินอย่างน้อย 600 – 10,000 บาท/เดือน/ตัว 
  • กรณีเลี้ยงแมวควรมีเงินอย่างน้อย 350 – 2,600 บาท/เดือน/ตัว 
  • ค่าใช้จ่ายของสุนัชและแมวต่อการเข้ารับบริการในโรงพยาบาลสัตว์ 1,000 – 2,000 บาท/ครั้ง
  • ประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยประมาณ 41,100 บาทต่อตัวต่อปี 
ไม่ใช่แค่นี้คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ประมาณ 65% ของกลุ่มคนอายุ 18 – 34 ปี มีความคิดต้องการเลี้ยงสัตว์เพิ่ม 
มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่น่าลงทุนหลายกลุ่มได้แก่
 
1.กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง 
 

เป็นกลุ่มที่ได้รับการเติบโตจากกระแสรูปแบบการดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization) ที่มากขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ถ้าดูเฉพาะมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2567 มีมูลค่าแตะ 46 พันล้านบาท และมักเป็นอาหารเกรดพรีเมี่ยมมีราคาสูง
 
2.บริการรักษาสัตว์
 

มูลค่าบริการรักษาสัตว์มีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องมูลค่าปี 2567 ประมาณ  6.64 พันล้านบาท สอดคล้องกับบริการรักษาสัตว์ที่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นจากความตระหนักในการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง และต้องรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยของสัตว์เลี้ยงที่ประหนึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัว ค่าเฉลี่ยในการพาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอแต่ละครั้งประมาณ 1,000 บาทขึ้นไปโดย  ขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์เลี้ยงและรูปแบบที่รับบริการ
 
3.อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและบริการดูแลสัตว์เลี้ยง
 

ในกลุ่มนี้ตลาดมีมูลค่าประมาณ 2.29 หมื่นล้านบาท และ 0.66 พันล้านบาท ตามลำดับ รวมถึงมีการพัฒนาด้านนวัตกรรมที่สินค้าหลายอย่างดูมีความน่าสนใจและทำให้เจ้าของอยากซื้อมาให้กับสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากขึ้น
 
4.บริการทำประกันเฉพาะสุนัขและแมว
 

กลุ่มบริษัทประกันก็เอาใจคนรักสุนัขและแมวหลายค่ายเปิดให้ทำประกันมีการให้เลือกได้ทั้งแบบฝังไมโครชิฟและไม่มีการฝังไมโครชิพ เบี้ยประกันก็แตกต่างกันไป เริ่มตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ความคุ้มครองเช่นไปทางอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย เป็นหลัก
 
5.ธุรกิจแบบ Pet-Friendly
 

หลายธุรกิจก็เตรียมรองรับกระแสของ “ทาสหมา-ทาสแมว” (Petriarchy) อย่างกลุ่มเซ็นทรัลเปิดพื้นที่ Pet-Friendly เอาใจทาสหมา แมว กำลังซื้อสูง  มีร้านอาหารกว่า 17 ร้าน ที่เปิดให้สัตว์เลี้ยงเข้าไปทานได้ หรือแม้แต่ในโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงเองก็มี Grooming เปิดพื้นที่ชั้นดาดฟ้าให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้มีพื้นที่ในการใช้เวลาร่วมกัน เป็นต้น
 
สำหรับคนที่มีใจรักในสัตว์เลี้ยง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเหล่านี้จึงน่าจะเป็นอีกการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะทำแล้วประสบความสำเร็จ เพราะต้องเข้าใจภาพรวมก่อนว่าตลาดนี้มีทั้งคนที่ใจรักจริงหรือเข้ามาแล้วก็หายไปตามกระแส การจะโฟกัสกลุ่มเป้าต้องเลือกกลุ่มคนที่เขารักสัตว์เลี้ยงจริงๆ กลุ่มนี้จะยินดีในการจ่าย เหนือสิ่งอื่นใด คุณภาพสินค้าและบริการที่ดีก็เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากด้วย
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
425
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด