บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
266
2 นาที
3 กรกฎาคม 2568
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
 

ถ้าพูดถึงร้านกาแฟเมืองไทย ชื่อของ Starbucks , Cafe Amazon , กาแฟพันธุ์ไทย , แบล็คแคนยอน เป็นที่พูดถึงมากขนาดที่เคยมีการจับเอาแบรนด์เหล่านี้มาเปรียบเทียบว่าใครฮิตกว่ากัน ซึ่งในความเป็นจริงทุกแบรนด์ต่างก็มีฐานลูกค้าของตัวเองและมีจุดเด่น+เอกลักษณ์รวมถึงจุดขายในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งหากจะดูที่ยอดขายพบว่า
  • Starbucks ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 10,513 ล้านบาท 
  • Cafe Amazon ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 16,203 ล้านบาท
  • กาแฟพันธุ์ไทย ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 3,049 ล้านบาท
  • แบล็คแคนยอน ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 1,283 ล้านบาท
  • อินทนิล ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 1,100 ล้านบาท
สัดส่วนคนดื่มกาแฟในเมืองไทยมีอัตราเฉลี่ยวันละ 1.5 แก้ว หรือประมาณ 340 แก้ว/คน/ปี ในจำนวนนี้ 49% เป็นการดื่มกาแฟทุกวัน และ ผู้ชายดื่มกาแฟที่สัดส่วน 55% ในขณะที่ผู้หญิงมีสัดส่วนการดื่มกาแฟอยู่ที่ 43% 
อย่างไรก็ดีหากไปดูในต่างประเทศ เช่นที่ อิตาลี แบรนด์กาแฟที่ดังในเมืองไทย และตีตลาดได้สำเร็จ แต่แบรนด์ที่น่าจะดีนี้ก็กลับไม่เป็นที่นิยมมากนักในอิตาลีที่ว่ากันว่ามีแบรนด์อื่นที่ดังกว่า 
 
ยกตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือ Starbucks ที่ต้องใช้เวลากว่า 47 ปีจึงจะเปิดสาขาแรกในอิตาลีที่เมืองมิลานในปี 2018 แต่นับถึงตอนนี้ก็ยังมีสาขาในอิตาลีประมาณ 40 แห่งซึ่งถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับสาขาในเมืองไทยที่มีมากกว่า 500 แห่ง สิ่งที่น่าสนใจคือ อิตาลี ไม่ได้เป็นประเทศที่ปลูกกาแฟเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกแต่กลับกลายเป็นประเทศ ที่คิดค้นเครื่องทำกาแฟ Espresso ขึ้นมาแสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบในการดื่มกาแฟของคนอิตาลีว่ามีมากแค่ไหนแต่ Starbucks กลับไม่ใช่แบรนด์ที่ดังสุดเพราะมีอีก 3 แบรนด์ที่ดังกว่าคือ
 
1. Lavazza
 

ภาพจาก www.facebook.com/Lavazza

แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1895 เป็นแบรนด์กาแฟ ที่ทำรายได้มากที่สุดในอิตาลี โดยในปี 2023 นั้น ทำรายได้ถึง 77,500 ล้านบาท แบรนด์นี้ โด่งดังจาก Coffee Blend หรือกาแฟที่มีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟหลาย ๆ สายพันธุ์รวมกัน
 
2. illycaffè
ภาพจาก www.facebook.com/illycaffethailand

มีโลโก้ร้านคือป้ายสีแดง ขาว ที่เขียนว่า “illy” รายได้ของ illycaffè นั้น หากเทียบกับผู้นำอย่าง Lavazza ก็ถือว่าห่างกันอยู่มาก โดยในปี 2023 ทำรายได้ไปประมาณ 22,900 ล้านบาท
 
3. Segafredo Zanetti
 
ภาพจาก www.facebook.com/segafredozanettithailand

ถือเป็นแบรนด์กาแฟน้องใหม่ในบรรดา 3 ยักษ์ใหญ่ของร้านกาแฟในอิตาลี แต่มีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมกาแฟสไตล์อิตาลีให้กับคนทั่วโลกในปี 2023 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 41,800 ล้าน (รายได้รวมของบริษัทที่ยังไม่ได้แยกธุรกิจร้านกาแฟ) 
 
แม้ว่าทั้ง 3 แบรนด์นี้จะไม่ได้มีสาขากระจายไปทั่วโลกแบบ Starbucks แต่ก็เป็นแบรนด์ฮิตของคอกาแฟในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา เพราะมีความเป็นต้นตำรับแบบอิตาลีเป็นจุดขาย
 
 
อย่างไรก็ดีแม้ Starbucks จะไม่เป็นที่นิยมในอิตาลีแต่ตรงกันข้ามกับในอเมริกาที่ Starbucks มีสาขามากถึง 16,482 สาขา โดยเป็นสาขาในลักษณะแฟรนไชส์/ลิขสิทธิ์ (Licensed) มีประมาณ 6,324 แห่ง และถ้าไปดูความฮิตของแบรนด์กาแฟในอีกหลายประเทศซึ่งต่างก็มีแบรนด์เด่นๆที่ถูกใจคนในประเทศนั้นๆ เช่น
  • แคนาดา – มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Tim Hortons ที่ขายทั้งกาแฟและนัท
  • สหราชอาณาจักร - มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Costa Coffee มีสาขาทั่วสหราชอาณาจักรและในอีก 37 ประเทศทั่วโลก
  • ฝรั่งเศส - มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Carte Noire และ Nespresso, Nescafé
  • สวีเดน - มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Gevalia , Zoega’s และ Arvid Nordquist
ย้อนกลับมาในตลาดเมืองไทยธุรกิจกาแฟมีการแข่งขันดุเดือดแม้จะเป็นสินค้าที่คนสนใจและมีลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่การเข้าถึงลูกค้าก็เป็นเรื่องสำคัญที่แต่ละแบรนด์ต้องให้ความสนใจ การใช้ไอเดียหรือการตลาดที่ดึงดูดลูกค้าจะเป็นเคล็ดลับสำคัญในการสร้างรายได้มากขึ้น อย่าง “ร็อคเกตแมน” กาแฟร้อนที่เดินขายตามสี่แยกในเมืองเชียงใหม่ ราคาแก้วละ 40-50 บาท ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ฉีกกรอบของการขายกาแฟแบบเดิมๆ ซึ่งในยุคนี้ไอเดียใหม่ๆ ในการขายถือว่ามีความสำคัญมาก

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 


 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สงครามส่งด่วน • เกมส์ • กลยุทธ์ • ธุรกิจ
452
คิดวิเคราะห์ขายอาหารใน Food Court คุ้มหรือไม่
393
“Store Assortment” กลยุทธ์ร้านค้าปลีก ที่เจ้าของ..
389
ไฮเปอร์มาร์เก็ต VS ซูเปอร์เซ็นเตอร์! ใครจะรุ่ง ..
381
“Markdown” วิธีใช้ “ป้ายเหลือง” เพิ่มรายได้ร้านส..
357
3 ทหารเสือ เชนร้านสเต็ก พันล้าน
354
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด