บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
432
2 นาที
3 กรกฎาคม 2568
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
 

ถ้าพูดถึงร้านกาแฟเมืองไทย ชื่อของ Starbucks , Cafe Amazon , กาแฟพันธุ์ไทย , แบล็คแคนยอน เป็นที่พูดถึงมากขนาดที่เคยมีการจับเอาแบรนด์เหล่านี้มาเปรียบเทียบว่าใครฮิตกว่ากัน ซึ่งในความเป็นจริงทุกแบรนด์ต่างก็มีฐานลูกค้าของตัวเองและมีจุดเด่น+เอกลักษณ์รวมถึงจุดขายในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งหากจะดูที่ยอดขายพบว่า
  • Starbucks ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 10,513 ล้านบาท 
  • Cafe Amazon ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 16,203 ล้านบาท
  • กาแฟพันธุ์ไทย ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 3,049 ล้านบาท
  • แบล็คแคนยอน ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 1,283 ล้านบาท
  • อินทนิล ในปี 2567 ที่ผ่านมามีรายได้ 1,100 ล้านบาท
สัดส่วนคนดื่มกาแฟในเมืองไทยมีอัตราเฉลี่ยวันละ 1.5 แก้ว หรือประมาณ 340 แก้ว/คน/ปี ในจำนวนนี้ 49% เป็นการดื่มกาแฟทุกวัน และ ผู้ชายดื่มกาแฟที่สัดส่วน 55% ในขณะที่ผู้หญิงมีสัดส่วนการดื่มกาแฟอยู่ที่ 43% 
อย่างไรก็ดีหากไปดูในต่างประเทศ เช่นที่ อิตาลี แบรนด์กาแฟที่ดังในเมืองไทย และตีตลาดได้สำเร็จ แต่แบรนด์ที่น่าจะดีนี้ก็กลับไม่เป็นที่นิยมมากนักในอิตาลีที่ว่ากันว่ามีแบรนด์อื่นที่ดังกว่า 
 
ยกตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือ Starbucks ที่ต้องใช้เวลากว่า 47 ปีจึงจะเปิดสาขาแรกในอิตาลีที่เมืองมิลานในปี 2018 แต่นับถึงตอนนี้ก็ยังมีสาขาในอิตาลีประมาณ 40 แห่งซึ่งถือว่าน้อยมากถ้าเทียบกับสาขาในเมืองไทยที่มีมากกว่า 500 แห่ง สิ่งที่น่าสนใจคือ อิตาลี ไม่ได้เป็นประเทศที่ปลูกกาแฟเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกแต่กลับกลายเป็นประเทศ ที่คิดค้นเครื่องทำกาแฟ Espresso ขึ้นมาแสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบในการดื่มกาแฟของคนอิตาลีว่ามีมากแค่ไหนแต่ Starbucks กลับไม่ใช่แบรนด์ที่ดังสุดเพราะมีอีก 3 แบรนด์ที่ดังกว่าคือ
 
1. Lavazza
 

ภาพจาก www.facebook.com/Lavazza

แบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1895 เป็นแบรนด์กาแฟ ที่ทำรายได้มากที่สุดในอิตาลี โดยในปี 2023 นั้น ทำรายได้ถึง 77,500 ล้านบาท แบรนด์นี้ โด่งดังจาก Coffee Blend หรือกาแฟที่มีส่วนผสมของเมล็ดกาแฟหลาย ๆ สายพันธุ์รวมกัน
 
2. illycaffè
ภาพจาก www.facebook.com/illycaffethailand

มีโลโก้ร้านคือป้ายสีแดง ขาว ที่เขียนว่า “illy” รายได้ของ illycaffè นั้น หากเทียบกับผู้นำอย่าง Lavazza ก็ถือว่าห่างกันอยู่มาก โดยในปี 2023 ทำรายได้ไปประมาณ 22,900 ล้านบาท
 
3. Segafredo Zanetti
 
ภาพจาก www.facebook.com/segafredozanettithailand

ถือเป็นแบรนด์กาแฟน้องใหม่ในบรรดา 3 ยักษ์ใหญ่ของร้านกาแฟในอิตาลี แต่มีเป้าหมายชัดเจนที่ต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมกาแฟสไตล์อิตาลีให้กับคนทั่วโลกในปี 2023 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 41,800 ล้าน (รายได้รวมของบริษัทที่ยังไม่ได้แยกธุรกิจร้านกาแฟ) 
 
แม้ว่าทั้ง 3 แบรนด์นี้จะไม่ได้มีสาขากระจายไปทั่วโลกแบบ Starbucks แต่ก็เป็นแบรนด์ฮิตของคอกาแฟในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา เพราะมีความเป็นต้นตำรับแบบอิตาลีเป็นจุดขาย
 
 
อย่างไรก็ดีแม้ Starbucks จะไม่เป็นที่นิยมในอิตาลีแต่ตรงกันข้ามกับในอเมริกาที่ Starbucks มีสาขามากถึง 16,482 สาขา โดยเป็นสาขาในลักษณะแฟรนไชส์/ลิขสิทธิ์ (Licensed) มีประมาณ 6,324 แห่ง และถ้าไปดูความฮิตของแบรนด์กาแฟในอีกหลายประเทศซึ่งต่างก็มีแบรนด์เด่นๆที่ถูกใจคนในประเทศนั้นๆ เช่น
  • แคนาดา – มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Tim Hortons ที่ขายทั้งกาแฟและนัท
  • สหราชอาณาจักร - มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Costa Coffee มีสาขาทั่วสหราชอาณาจักรและในอีก 37 ประเทศทั่วโลก
  • ฝรั่งเศส - มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Carte Noire และ Nespresso, Nescafé
  • สวีเดน - มีแบรนด์กาแฟเด่นคือ Gevalia , Zoega’s และ Arvid Nordquist
ย้อนกลับมาในตลาดเมืองไทยธุรกิจกาแฟมีการแข่งขันดุเดือดแม้จะเป็นสินค้าที่คนสนใจและมีลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่การเข้าถึงลูกค้าก็เป็นเรื่องสำคัญที่แต่ละแบรนด์ต้องให้ความสนใจ การใช้ไอเดียหรือการตลาดที่ดึงดูดลูกค้าจะเป็นเคล็ดลับสำคัญในการสร้างรายได้มากขึ้น อย่าง “ร็อคเกตแมน” กาแฟร้อนที่เดินขายตามสี่แยกในเมืองเชียงใหม่ ราคาแก้วละ 40-50 บาท ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ฉีกกรอบของการขายกาแฟแบบเดิมๆ ซึ่งในยุคนี้ไอเดียใหม่ๆ ในการขายถือว่ามีความสำคัญมาก

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 


 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
619
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
531
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
488
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
456
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
434
ค้าปลีกญี่ปุ่นไหว? DON DON DONKI เพิ่งกำไร หลังเ..
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด