บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    กระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียน
3.6K
2 นาที
14 พฤศจิกายน 2559
9 วิธีลดต้นทุนสำหรับ SMEs


 
คนที่ลงทุนทุกคนน่าจะคิดเหมือนกันหมดคือทำอย่างไรให้เริ่มต้นด้วยงบการลงทุนที่น้อยๆ

รวมถึงระหว่างการทำธุรกิจก็ต้องมีสารพัดวิธีที่เรียกว่าการลดต้นทุนให้กับธุรกิจตัวเอง เหตุผลก็ง่ายๆคือเมื่อกำไร = รายได้-รายจ่าย นั้นหมายความว่าต่อให้รายได้มีเท่าเดิมแต่รายจ่ายลดลงก็ทำให้ธุรกิจมีกำไรได้มากขึ้นเช่นกัน
 
แต่หลักตรรกะทางคณิตศาสตร์ก็เป็นเพียงแนวทางที่ทำให้มองเห็นภาพว่าจะสร้างธุรกิจให้เกิดกำไรขึ้นมาได้อย่างไรแต่ในความเป็นจริงการลดต้นทุนที่ว่านี้ยากมาก

www.ThaiFranchiseCenter.com จึงมี 9 วิธีที่น่าจะใช้ลดต้นทุนให้กับเหล่าSMEs ได้บ้างแม้จะไม่ใช่วิธีที่เลิศเลอนักแต่การลดรายจ่ายได้บ้างสักเล็กน้อยนั้นก็หมายถึงกำไรที่อาจจะเพิ่มมากขึ้นแล้วเช่นกัน
 
1.วางแผนงบประมาณและเข้มงวดการใช้จ่ายให้ตามแผน

คงต้องเริ่มกับการมารื้อแผนงานค่าใช้จ่าย งบประมาณในด้านต่าง ๆ ว่ามีความเหมาะสม พอควร มีความรัดกุมมากน้อยขนาดไหน หรือว่าทุกวันนี้ธุรกิจเราคิดจะจ่ายอะไรก็จ่าย จะซื้ออะไรก็ซื้อ

ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องวางกรอบจัดทำแผนงานทุกอย่างให้ชัดเจนก่อน “จ่ายเงิน” คิดให้จบในกระดาษ ก่อนที่จะลงมือจ่ายเงินจริงนอกจากวางแผน ที่ชัดเจนแล้วสิ่งที่สำคัญไม่ย่อหย่อนไปกว่ากันคือ การเข้มงวดในการปฏิบัติตามแผนค่าใช้จ่ายเหล่านั้นด้วย
 
2.ใช้วิธีการ Barter แลกเปลี่ยนสินค้าแทนเงิน

นี่คือวิธีลดต้นทุนที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย การแลกเปลี่ยน สินค้าหรือบริการแทนการใช้เงิน ยกตัวอย่างเช่น เราขายมือถือ เพื่อนเราทำบัญชี แทนที่เราจะจ้างเพื่อนทำบัญชีด้วยเงินทุนก้อนใหม่

เราก็ใช้วิธีการจ่ายเป็นมือถือ แล้วเพื่อนก็ทำบัญชีให้เรามันเป็นวิธีแบบโบราณที่เรียกว่า “หมูไป ไก่มา” แลกเปลี่ยนกันด้วยความเท่าเทียบและเหมาะสม โดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่ม ถ้าพิจารณาให้ดีๆคิดว่ามีอีกหลายธุรกิจที่พร้อมจะทำ Barter กับเราได้แน่นอน

3.ใช้สินค้ามือสองบ้างก็ดี
เรียกว่าอย่ายึดติดกับความเพอเฟคจนเกินไป โดยเฉพาะการเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อใช้ทางธุรกิจปัจจุบันราคาสินค้ามือสองนั้นมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะออนไลน์หรือออฟไลน์ ราคาอย่างน้อย ๆ น่าจะประหยัดไปกว่า 30-40% เลยทีเดียว

และนั่นก็หมายความว่าเมื่อต้นทุนเราลดเท่าไหร่โอกาสของกำไรเราก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้นที่สำคัญอุปกรณ์มือสองยุคนี้สภาพใกล้เคียงของใหม่ในราคาสบายกระเป๋ากว่ากันเยอะ
 
4.ไม่จำเป็นต้องจ้างทุกสิ่งทุกอย่าง
 
เรื่องบางเรื่องเราก็สามารถทำเองได้การใช้เงินซื้อความสำเร็จอาจจะดูเป็นเรื่องสะดวกสบายแต่นั่นก็คือการแฝงค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกินความจำเป็นรวมอยู่ด้วยโดยเฉพาะการจ้างบางอย่างก็ใช่ว่าผลตอบแทนกลับมาจะคุ้มค่ากับที่คาดหวังเช่นการจ้างบริษัทโฆษณาเพื่อทำตลาดออนไลน์

หากเราไม่รู้ว่าเงินที่จ้างแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งใดได้บ้างงานนี้คงเป็นทุนที่บานปลายทางที่ดีคือไปลงเรียนคอร์สเหล่านี้แล้วมาฝึกทำเองจะดีกว่าและยิ่งทำมากความชำนาญก็เกิดอาจค้นพบเส้นทางธุรกิจใหม่ๆได้อย่างไม่รู้ตัวอีกด้วย

5.ทำเลทางธุรกิจไม่จำเป็นต้องอยู่ในแหล่งชุมชนเสมอไป
แน่นอนว่าทำเลคือจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ แต่ทำเลที่ดีก็ย่อมแลกมาด้วยการลงทุนที่แพงเช่นกันดังนั้นมองธุรกิจตัวเองก่อนว่าจำเป็นแค่ไหนกับการมีพื้นที่แบบทำเลทอง ถ้าเราลงทุนทำขนมขบเคี้ยว

ทำเลในเมืองอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญนักเพียงขอให้อยู่ในจุดที่การคมนาคมสะดวกแต่อยู่นอกตัวเมืองบ้างก็อาจจะดีกว่า ยิ่งถ้าเราไม่ได้มีที่ของตัวเองเป็นที่เช่าด้วยแล้วต้นทุนค่าเช่าที่ตรงนี้มหาศาลมากเรียกว่าเป็นตัวแปรอันดับหนึ่งของการทำธุรกิจเลยทีเดียว
 
6.บัตรเครดิตมีได้แต่ควรใช้ให้เป็น

เป็นแหล่งเงินของเหล่าSMEsที่เอาไว้เสริมสภาพคล่องได้อย่างดี แต่บัตรเครดิตก็คือธุรกิจการกู้ยืมประเภทหนึ่งที่มีรูปแบบการให้ยืมแบบน้ำซึมบ่อทราย สิ่งที่ผู้ลงทุนควรรู้คือการแยกแยะบัตรเครดิตให้ชัดเจนว่าใบไหนสำหรับทำอะไรพยายามอย่าเอามาปะปนกัน

ที่สำคัญต้องรู้จักบันทึกรายการค่าใช้จ่ายที่เกิดจากบัตรเครดิตและการชำระหนี้บัตรที่ดีควรจ่ายเต็มมากกว่าการจ่ายแบบยอดต่ำสุด ซึ่งแม้จะดีต้นมือแต่สุดท้ายคือดินพอกหางหมูที่เป็นตัวแปรฉุดให้กำไรเราหดหายได้เลย
 
7.กระดาษเลิกใช้ถ้าไม่จำเป็น

ยุคสมัยนี้มีทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือเข้ามาเป็นตัวช่วยอย่างดีไม่ใช่ธุรกิจยุคเก่าที่ต้องจดบันทึกลงกระดาษทั้งหมด ถ้าแนะนำคือตัดรายจ่ายส่วนที่เป็นกระดาษเหล่านี้ออกไปใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ลดการใช้กระดาษให้เหลือน้อยที่สุด ที่สำคัญกระดาษที่เหลือใช้ก็ควรเปลี่ยนให้เป็นรายได้ด้วยการขายเป็นของเก่าแม้ไม่ได้เงินคืนมาที่สูงแต่ก็เป็นรายได้เข้ามาเล็กๆน้อยๆได้อีกทางเช่นกัน

8.ใช้เทคโนโลยีแทนคนให้มากที่สุด

บริการหลายอย่างในปัจจุบันเกิดคู่มากับการทำธุรกิจของเราที่สำคัญถ้าใช้ให้เป็นจะช่วยลดรายจ่ายเราได้อีกมาก เช่น การจัดส่งสินค้า เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงาน ต้องซื้อมอเตอร์ไซต์ รถยนต์ให้มันเป็นภาระค่าใช้จ่าย เราสามารถใช้เทคโนโลยี แอปพลิเคชั่น บริการใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่สิ่งเหล่านี้ได้

สิ่งสำคัญคือเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับธุรกิจ ดูที่ต้นทุนต่ำ หรือเป็นของฟรีเลยยังพอหาได้ ถ้าไม่รู้ว่าจะหาสิ่งเหล่านี้จากที่ไหน ลองsearchในGoogle ดูที่นี้ก็เลือกใช้บริการได้ตามความเหมาะสมเลย

9.การตลาดออนไลน์ เริ่มเลยทันที

อย่าเพิ่งแย้งว่าตลาดออนไลน์ก็มีต้นทุนเยอะนะ! ใช่ครับตลาดออนไลน์ก็มีต้นทุนเยอะ แต่ถ้าเอาไปเทียบกับตลาดออฟไลน์แล้วค่าใช้จ่ายเรียกว่าคนละเรื่องกันเลยทีเดียวการให้น้ำหนักการตลาดที่ดีจึงควรเน้นที่ออนไลน์มากกว่าออฟไลน์ที่ยังไงก็ต้องมีติดปลายนวมไว้บ้าง

การตลาดออนไลน์ที่เห็นผลและลงทุนไม่มากอย่างขายบนเฟส IG หรือ Line@ เครื่องมือการตลาดพวกนี้มีเทคนิคจากหนังสือต่างๆให้เลือกใช้มากมายศึกษาดีๆ นี่คือหนทางสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งแบบที่ไม่ต้องลงทุนเยอะแยะด้วย
 
และทั้ง 9 วิธีนี้น่าจะคลอบคลุมคำว่าการลดต้นทุนได้เป็นอย่างดีที่เหลือก็แค่นำไปปรับใช้ให้เข้ากับธุรกิจตัวเองถ้าเลือกใช้ได้ดีทำตามได้อย่างมีประสิทธิภาพสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือทุนน้อยกำไรมากธุรกิจมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
500
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด