บทความทั้งหมด    บทความสร้างอาชีพ    เมนูอาหารหวาน    ขนมหวานนานาชาติ
3.6K
2 นาที
7 ธันวาคม 2559
การทำขนมเอแคลร์


 
เอแคลร์ที่เราเรียกกันอย่างคุ้นเคยแท้ที่จริงเป็นขนมที่มาจากประเทศฝรั่งเศสโดยคนต่างชาติจะเรียกขนมชนิดนี้ว่า Chu Cream แต่ในภาษาฝรั่งเศสที่เป็นต้นตำหรับเรียกขนมชนิดนี้ว่า ชู อา ลาเค โดยขนมนี้เข้ามาสู่ประเทศไทยตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2443 และกลายเป็นขนมยอดฮิตที่ใครต่อใครต่างก็นิยมรับประทานกันเป็นอย่างดี

ที่สำคัญมีสูตรการทำที่ทำให้ขนมนี้อร่อยแตกต่างกันไปแต่ที่แน่ๆคือแป้งของตัวขนมที่เป็นตัวชี้วัด ถ้าจะขายดีแป้งต้องนุ่ม กินต้องนิ่ม ไม่ร่วนซุย

และวันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ก็มีสูตรการทำเอแคลร์แบบมืออาชีพมาฝากกันใครสนใจอยากฝึกฝีมือเพื่อเพิ่มรายได้ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
 
วัสดุอุปกรณ์ที่สำคัญ
 
ขนมชนิดนี้จำเป็นต้องใช้เตาอบดังนั้นใครที่ยังไม่มีเตาอบก็ต้องลงทุนกันสักเล็กน้อย ราคาเตาอบชนิดแก๊สประมาณ 
4,000 - 5,000 บาท รวมกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่นเตาอบ ถาดอบขนม กะละมัง ที่ตีไข่ กระทะ กระชอน หม้อ ดังนั้นเงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 8,500  บาทขึ้นไป
 
วิธีการทำขนมเอแคลร์นี้เราจะแยกการทำออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนตัวขนม กับส่วนไส้ เรามาเริ่มจากส่วนที่เป็นตัวขนมกันก่อนดีกว่า
 
ส่วนผสมที่สำคัญในการทำตัวขนม
  • แป้งสาลี 1.5 ถ้วยตวง
  • น้ำสะอาด 1.5 ถ้วยตวง
  • เนยสด 0.5 ถ้วยตวง
  • ไข่ไก่ 4 ฟอง
วิธีการทำตัวขนม
  1. นำเนยสดผสมน้ำสะอาดใส่กระทะตั้งไฟ เมื่อน้ำเดือด คนให้เนยสดละลายเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำ
  2. นำแป้งสาลีมาร่อนในกระชอนแยกเศษกรวดเม็ดทรายทิ้ง แล้วใส่ผสมลงในกระทะคนไปมาจนแป้งจับตัวรวมกันเป็นก้อนเหนียว และส่วนผสมทั้งหมดในกระทะรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
  3. นำแป้งที่ได้จากข้อ 2. มาเทลงในกะละมัง รอจนแป้งอุ่น จึงเริ่มตอกไข่ไก่ฟองที่ 1  ผสมลงไป ใช้ที่ตีไข่คลุกเคล้าแป้งและไข่ให้ทั่วจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นจึงตอกไข่ไก่ใบที่ 2 ลงไป คนให้เข้ากันเช่นเดียวกับไข่ใบแรกและทำแบบเดียวกันนี้กับไข่ใบที่ 3 และ 4
  4. เมื่อผสมไข่ไก่หมดแล้วและคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีจะทำให้แป้งมีลักษณะเป็นครีมสามารถนำไปอบได้
  5. นำถุงพลาสติกขนาดถุงโอเลี้ยงมาตัดที่มุมก้นถุงมุมใดมุมหนึ่ง กว้างประมาณ 0.5  เซนติเมตร นำส่วนผสมที่ได้ในข้อ 4. เทใส่ในถุงพลาสติก ไล่อากาศออกจากถุง แล้วปิดปาก  ถุงไว้
  6. จากนั้นนำมาหยอดลงบนถาดอบ (ก่อนหยอดทารองพื้นถาดอบด้วยเนยขาวบาง ๆ เพื่อมิให้ขนมติดถาด) โดยบีบส่วนผสมจนไหลออกทางมุมถุงพลาสติกที่ตัดมุมไว้ ขณะที่ส่วนผสมไหลออกจากถุงให้วนเป็นวงกลมคล้ายก้นหอยกว้างประมาณ  1 นิ้ว หยอดห่างกัน 1-2 นิ้ว จนเต็มถาด
  7. จากนั้น นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ รักษาระดับความร้อนให้คงที่ จนกระทั่งขนมสุกมีสีเหลืองนวล นำออกมาผึ่งรอใส่ไส้ต่อไป
ส่วนผสมการทำไส้
  • แป้งข้าวโพด 0.5 ถ้วยตวง กับอีก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย ¾  ถ้วยตวง
  • เกลือ ½ ช้อนชา
  • นมสด 3 ถ้วยตวง
  • ไข่ไก่ 5 ฟอง
  • วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • เนยสด 4ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำไส้ขนม
  1. ตอกไข่ไก่ทั้งหมดใส่ในภาชนะ ตีให้ฟู เทใส่หม้อพร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ ทั้งหมดนำหม้อไปตั้งไฟ ใช้ความร้อนปานกลาง คนส่วนผสมในหม้อไปเรื่อยๆ ช้าๆ จนกระทั้ง ส่วนผสมเข้ากันดีมีลักษณะเหนียวข้น จึงนำลงจากเตาพักรอให้เย็น
  2. จากนั้นนำมาใส่ถุงพลาสติกที่ตัดมุมก้นถุงไว้เหมือนกับถุงที่ใส่ตัวแป้ง
  3. นำตัวขนมที่อบสุกแล้วมา ใช้กรรไกรตัดตรงกลางของลูกขนมตามแนวนอน บีบไส้จนไหลออกจากมุมถุงพลาสติกที่ตัดมุมไว้หยอดเข้าไปในช่องของลูกขนมพอประมาณ ปิดเนื้อขนมที่ถูกตัดให้คืนกลับมาแนบติดกัน
เคล็ดลับสำคัญในการทำ
  1. การทำขนมเอแคลร์ให้มีขนาดใหญ่พองฟูสามารถรักษารูปทรงอยู่ได้นาน ให้ใช้ไข่ไก่ฟองใหญ่นำมาทำตัวขนม แต่ไม่ควรเพิ่มจำนวนฟองของไข่ เพราะขนมจะเสีย รสชาติ
  2. ควรขายควบคู่กับขนมปังหรือเค้ก เพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งจะทำให้มีรายได้ประมาณ 400-500 บาท/วัน
เสน่ห์ของขนมยอดนิยมยังเป็นสินค้าที่น่าจะขายได้ดีทั้งนี้เรื่องของฝีมือในการทำเป็นสิ่งสำคัญมาก ขนมแบบเดียวกันแต่ต่างยี่ห้อก็มีรสชาติที่ต่างกันดังนั้นโจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้รสชาติของขนมที่เราทำถูกใจลูกค้าส่วนมาก และถ้าเป็นที่นิยมก็ควรคงคุณภาพนั้นไว้เพื่อเป็นการต่อยอดแบรนด์ที่ดีขึ้นได้ในอนาคต
 
และสำหรับใครสนใจอยากเข้าคอร์สเรียนสร้างอาชีพอื่นๆ น่าสนใจ มีให้เลือกหลากหลาย ดูรายละเอียดการอบรมเพิ่มเติมได้ที่ goo.gl/NxfTcg หรือ Add LINE id : @thaiseminar

ขอบคุณรูปภาพจาก  goo.gl/vPf0y8
ดอกไม้จากเปลือกข้าวโพด เป็นการนำวัสดุเหลือใช้ที่ได้จากธรรมชาติมาแปรรูปให้เกิดประโยชน์ การประดิษฐ์ดอกไม้จากเปลือกข้าวโพดถือว่ามีต้นทุนการผลิตที่ต่ำแต่สินค้าที่ได้มีความสวยงามอ่อนช้อย ที่สำคัญเป็นงานฝีมือที่ขายได้ราคาดีโดยเฉพาะการส่งให้กับร้านค้าของที่ระลึก ร้านกิ๊ฟช็อป หรือส่งขายตามห้า..
92months ago   8,593  6 นาที
ดอกไม้ยางพารา มีเอกลักษณ์สวยงามให้ความรู้สึกร่มรื่นมีชีวิตชีวาไม่แพ้ดอกไม้จริง และที่สำคัญ มีคุณสมบัติเด่นคืนรูปได้เพียงแค่ฉีดพ่นน้ำลงไป โดยทดลองขยี้ดอกไม้ประดิษฐ์ยางพารา จนเหี่ยวยับย่น แล้วฉีดน้ำไปที่ดอก เมื่อโดนน้ำดอกก็จะคลายตัวคืนรูป และดอกมีสีสดมากขึ้น ..
92months ago   5,720  4 นาที
บทความสร้างอาชีพมาใหม่
บทความอื่นในหมวด