บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
5.4K
2 นาที
4 มกราคม 2560
5 เคล็ดลับสร้างรากฐานให้ลูก เป็นเจ้าของธุรกิจที่สำเร็จ  

 
สังเกตหรือเปล่าว่า นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกฝน อบรม ปลูกฝัง และถ่ายทอดการทำธุรกิจจากพ่อแม่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กๆ เพราะเด็กจะจดจำในสิ่งที่พ่อแม่ทำได้ง่าย

ซึ่งสอดคล้องกับสุภาษิตที่ว่า “ไม่อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองถ้าอยากให้ลูกของตัวเองก้าวสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ จำเป็นที่จะต้องสร้างรากฐานการเป็นผู้ประกอบการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จะได้ผลดีทีสุด
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปดูเคล็ดลับบางส่วนในการวางรากฐานให้เด็ก เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในอนาคต จะเป็นประโยชน์ต่อบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่อยากให้บุตรหลานของตัวเองเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจใหญ่โต การจุดประกายความคิดตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จะทำได้ง่ายและดีที่สุด 
 
1.สอนเทคนิคการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ

จะเห็นได้ว่า เด็กไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุเท่าใด จะต้องเคยประสบปัญหาในชีวิตประจำวันมาก่อนทั้งนั้น ในขณะที่คุณอาจมองว่าปัญหาเหล่านั้นดูจะเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย แต่ปัญหาเหล่านั้นอยู่ตรงหน้าของเขาหรือเธอ อาจเป็นอุปสรรค์ที่พวกเขาจะต้องก้าวข้ามเพื่อให้เกิดการพัฒนาต่อไป
 
หากลูกของคุณมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ไม่สามารถเอาชนะได้ ควรให้ความสนใจต่อเขา และดูว่ามีสิ่งใดที่คุณทำได้บ้างในข้อผิดพลาด แทนที่จะแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยตรง ส่งเสริมให้เกิดนิสัยของการพิจารณา โดยการดำเนินการประชุมระดมความคิดเล็กๆ ที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมโดยทั้งสองฝ่าย
 
ช่วยเหลือพวกเขาในการระบุว่าปัญหาคืออะไร และสอบถามพวกเขาว่า คิดว่าอะไรคือวิธีแก้ไข ที่สามารถนำมาใช้ได้ ส่งเสริมให้ชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียอย่างมีเหตุผลและยุติธรรม และเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ในการตัดสินใจตอนสุดท้าย
 
2. ส่งเสริมให้พวกเขาเป็นผู้เล่นในทีม

เมื่อลูกๆ โตพอแล้ว ส่งเสริมพวกเขาให้เข้าร่วมสังคม หรือทีมกีฬาของโรงเรียน หรือกลุ่มที่สนใจเพื่อให้พวกเขารู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นกีฬา สามารถถือเป็นห้องเรียนสำหรับผู้ประกอบการที่ดีที่สุด 
 
เด็กๆ ที่เคยผ่านการเล่นกีฬาแบบทีมมาแล้ว จะได้เรียนรู้วิธีการจัดการกับความพ่ายแพ้ และวิธีการที่จะเอาชนะความทุกข์ทรมานของความพ่ายแพ้ การตั้งสมมติฐานว่าต้องอยู่ในฐานะของผู้นำ หรือการส่งเสริมทีมกีฬายังช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำและการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น 
 
เช่นเดียวกับการดำเนินการตามส่วนของตนเองอย่างขยันขันแข็ง เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จของทีม ดังนั้น การทำงานเป็นทีมและความพ่ายแพ้ หรือความถดถอย เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับความพยายามของผู้ประกอบการในอนาคต 

3. สร้างแรงจูงใจในการทำภารกิจเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน 

ในโลกแห่งความพึงพอใจที่เกิดขึ้นได้ง่ายในปัจจุบัน เด็กบางคนอาจขัดขืนในแนวความคิดของการทำงาน เพื่อรับรางวัล สถานการณ์หรือโครงสร้างของธรรมชาติเช่นนี้ จะรู้โดยการแสดงออกด้วยการแก้ต่างและการร้องไห้ พร้อมกับจ้องมองความหวังที่มีจุดมุ่งหมายที่จะเรียกความเห็นอกเห็นใจ การตอบสนองในเชิงบวกจากผู้ปกครอง
 
อย่ายอมแพ้ มอบหมายหน้าที่ให้ลูกๆ ได้ทำงานเป็นกิจวัตร โดยหลีกเลี่ยงภารกิจที่ต้องใช้เวลานาน ขณะที่งานเหล่านี้อาจจะไม่ได้ให้พวกเขามีโอกาสที่จะฝึกฝนทักษะทางเทคนิคของพวกเขา

แต่จะช่วยทำให้พวกเขาเข้าใจได้ว่าจำเป็นจะต้องอดทนและพยายาม หรือทำงานบางอย่างเพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างโดยรวมเป็นไปอย่างราบรื่น
 
4. อย่าเพิกเฉยต่อคำถาม “ทำไม”

เมื่อใดก็ตามที่ลูกของคุณเกิดความสงสัย อยากรู้อยากเห็น ถามคุณว่าทำไม ทำไม และทำไม คุณก็อย่าแสดงอาการเบื่อออกมาให้ลูกได้เห็น ถึงแม้ว่าคุณอาจจะต้องการความสงบและเงียบ 
 
เพื่อเป็นการเสริมสร้างความคิดแบบผู้ประกอบการ กระตุ้นให้ลูกของคุณที่จะคิดต่อไปข้างหน้า ให้ถามคำถามว่า “ทำไม” และไม่หยุดที่จะหาคำตอบนั้น

ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะนำอุปกรณ์ใดกลับมาที่บ้าน และให้ลูกได้เห็นโดยไม่อธิบายวิธีใช้หรือวัตถุประสงค์ที่นำมา จะช่วยส่งเสริมให้พวกเขาคุ้นเคยกับมันและคิดด้วยตัวเอง หากเด็กยอมแพ้และเบื่อ บางทีคุณอาจจะใช้การให้รางวัลมาเป็นตัวช่วยให้พวกเขาสนใจต่อไป
 
5. อย่าทำให้การพูดคุยเรื่องเงินเป็นเรื่องต้องห้าม

พ่อแม่ควรให้การสนทนาเรื่องเงินเป็นแบบเปิด ในครอบครัวส่วนใหญ่เด็กมักถูกแยกออกจากการพูดคุยกันเรื่องเงิน หรือบางครั้งเด็กได้รับรู้ในช่วงเวลาของการขาดแคลน หรือความยากลำบาก ในสถานการณ์เช่นนี้ เด็กๆ จะเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงความคิดกับเงินด้วยความกังวล และจะทำให้เรื่องเงินกลายเป็นหัวข้อที่ตึงเครียด 
 
หากคุณต้องการฝึกฝนเด็กๆ ให้เติบโตขึ้นแบบเผชิญกับความเสี่ยงอย่างชาญฉลาด ควรหลีกเลี่ยงในการให้เด็กๆ อยู่ในสถานการณ์ที่เป็นกังวล ในสถานการณ์เหล่านี้ จะทำให้เด็กต้องเป็นเบี้ยล่าง เมื่อถึงการจัดทำงบประมาณ การเจรจาต่อรอง และการดูแลสภาพชีวิตการเงินของพวกเขา
 
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างให้เกิดความคิดเชิงบวก คุณพ่อหรือคุณแม่สามารถแบ่งปันข่าวที่เกี่ยวข้องกับการงานของครอบครัวได้ เช่น อาจจะพูดคุยกับเกี่ยวเงินได้ที่ได้รับจากงานที่ทำ การคาดการณ์ และพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการที่รายได้สนับสนุนครอบครัว และค่าใช้จ่ายต่างๆ (อาหาร ค่าผ่อนบ้าน ค่าใช้จ่ายในการทัศนศึกษา เบี้ยเลี้ยง เป็นต้น)
 
ให้เด็กมีส่วนร่วมใน “การประชุมธุรกิจครอบครัว” ที่ประเมินค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น และภาระผูกพันในการลำดับความสำคัญของความจำเป็น และความต้องการทางการเงินของแต่ละคน วิธีนี้ เด็กๆ จะได้รับการส่งเสริมให้กลายเป็นผู้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเงิน แทนที่จะรู้สึกว่าเป็นเหยื่อจากการตัดสินใจของผู้ปกครอง
 
ทั้งหมดถือเป็นเคล็ดลับในการสร้างรากฐานให้กับเด็ก ในการก้าวไปเป็นผู้ประกอบการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในอนาคต พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปปรับใช้ในการดำชีวิตประจำวันได้ พยายามปลูกฝัง อบรม พร้อมทั้งถ่ายทอดความรู้ให้เกิดกระบวนการคิดแก่เด็ก แม้เด็กจะไม่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ อย่างน้อยก็สามารถเป็นผู้นำในการตัดสินใจที่ดีได้ 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,790
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด