บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การหาลูกค้า วิจัยทางการตลาด
5.1K
2 นาที
31 มกราคม 2560
ลูกค้า 4 ประเภท รู้จักไว้! จะทำให้ธุรกิจโตง่ายขึ้น

 
กฎเหล็กของการทำธุรกิจนั้นคือคุณไม่สามารถมีลูกค้าแบบเดียว ประเภทเดียว

การทำธุรกิจคือโอกาสที่เราจะได้พบเจอกับคนหลากหลายประเภท ธุรกิจที่ดีและอยู่รอดได้จึงต้องรู้จักการรับมือกับลูกค้าหลากหลายสไตล์ทั้งที่อาจจะเป็นลูกค้าโดยตรงหรือไม่ก็ตาม
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ต้องการให้ทุกธุรกิจที่ลงทุนสามารถยืนหยัดในเวทีแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงนำเสนอเรื่องราวของ 4 ประเภทลูกค้าที่ผู้ลงทุนทุกคนควรรู้ไว้

โดยหากเราสามารถจำแนกกลุ่มลูกค้าออกมาเป็นประเภทต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและใช้วิธีการขายให้เหมาะสมกับกลุ่มนั้นๆ ก็จะเพิ่มโอกาสเข้าถึงความต้องการได้มากอันจะเป็นช่องทางของผลกำไรที่จะงอกเงยได้อย่างดี มีคำกล่าวน่าสนใจว่าถ้าคุณรู้จักลูกค้าประเภทเดียวก็จะมียอดขายแค่ 25 % แต่ถ้าคุณรู้จักลูกค้าทุกประเภทยอดขายก็จะเพิ่มขึ้นมากด้วยเช่นกัน
 
1. ลูกค้าในรูปแบบนักธุรกิจ

ลูกค้าในลักษณะนี้จะมองเรื่องความคุ้มค่าเป็นหลัก มองหาผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในทันทีที่ตัดสินใจซื้อสินค้า สิ่งสำคัญที่ผู้ค้าจำเป็นต้องทำเมื่อเจอลูกค้าลักษณะนี้คือพยายามทำให้เขาเห็นว่าบริการของเราคุ้มค่า คุ้มราคาทำให้ลูกค้าเห็นความสำคัญของการเป็นเจ้าของ โดยคำถามที่มักจะได้ยินจากลูกค้ากลุ่มนี้คือ “แล้วฉันจะได้อะไร” หรือ “สินค้าหรือบริการนี้ความคุ้มค่าอยู่ตรงไหน” เป็นต้น
 
รูปแบบการขายสำหรับลูกค้าประเภทนี้จึงควรเล่าเรื่องประกอบมากกว่าจะอธิบายคุณประโยชน์เป็นข้อๆ เพราะการเล่าเรื่องที่สมูทนั้นนั้นจะให้น่าเชื่อถือมากกว่าและถ้าลูกค้ารู้สึกพึงพอใจในสินค้าหรือบริการเขาก็พร้อมจะบอกต่อให้กับกลุ่มเพื่อนได้ด้วย

สินค้าที่สามารถใช้หลักการนี้ก็มีหลายอย่างตั้งแต่สินค้าที่เปิดตัวใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ที่คนยังไม่รู้จัก แม้กระทั่งคอร์สเรียนต่างๆ ก็ใช้หลักการนี้ได้ โดยจุดสำคัญคือทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้รู้สึกถึงความคุ้มค่าในการครอบครองสินค้าหรือบริการเหล่านั้น
 
2. ลูกค้าในรูปแบบนักประชาสัมพันธ์

ลูกค้าในกลุ่มนี้คือคนที่ชื่นชอบในการพูดคุย อาจจะแตกต่างจากแบบแรกที่เนื้อหาสาระของการขายจะเห็นที่รายละเอียดสินค้าเป็นหลักแต่ถ้าคุณเจอลูกค้าในกลุ่มนี้จะใช้วิธีแบบเดียวกันไม่ได้เด็ดขาด

วิธีที่ควรใช้เมื่อคุณจับทางถูกว่าเขาคือลูกค้ากลุ่มนี้ให้พยายามสานสัมพันธ์กับเขาเสมือนเป็นญาติของตัวเอง ลูกค้ากลุ่มนี้เมื่อรู้สึกดี รู้สึกถูกชะตาเขาจะตัดสินใจซื้อสินค้าทันทีโดยไม่สนใจว่าสินค้าหรือบริการของเราจะแพงกว่าคู่แข่งหรือไม่

เขาจะใช้ความรู้สึกผูกพันเป็นหลักในการตัดสินใจ แต่สิ่งสำคัญที่นักขายไม่ควรพลาดคืออย่าทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ซึ่งก็จะทำให้เขายกเลิกการใช้สินค้าหรือบริการของเราไปได้แบบง่ายๆเช่นกัน
 
รูปแบบสินค้าที่เข้ากับเทคนิคการขายในลักษณะนี้จึงอยู่ในธุรกิจบริการเป็นหลักเช่นสถานเสริมความงาม หรือว่าฟิตเนสเซ็นเตอร์ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจประกันหรือแม้กระทั่งธุรกิจร้านอาหารแบบครอบครัวซึ่งถ้าเราทำให้เขาถูกใจได้เราก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาที่ทำให้กลายเป็นฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นอย่างดีอีกด้วย
 
3. ลูกค้าในรูปแบบนักวิชาการ

ลูกค้าในลักษณะนี้ผู้ประกอบการอาจจะต้องมีการเตรียมข้อมูลการขายที่มากขึ้นสักหน่อย โดยเฉพาะข้อมูลเชิงลึก  รีวิวต่างๆ  การวิเคราะห์ การรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ ผลการทดสอบคุณภาพ ผลงานการวิจัย รายงานจากต่างประเทศ หรือ คนที่มีชื่อเสียงที่ให้การรับรองสินค้าหรือบริการนั้นๆ เป็นต้น  

การขายสินค้าหรือบริการให้กับคนกลุ่มนี้เราต้องทำใจไว้ก่อนว่าเวลาในการตัดสินใจซื้อนั้นจะนานกว่ากลุ่มอื่นเพราะหลังจากที่ได้ฟังข้อมูลจากเราไปแล้วส่วนใหญ่เขาจะกลับไปหาข้อมูลด้วยตัวเองอีกที

เทคนิคการขายที่ดีที่สุดเมื่อต้องเจอลูกค้าในกลุ่มนี้คือ ใช้ความจริงของสินค้าและบริการมาพูดกันล้วนๆโดยปราศจากการปรุงแต่ง หรือถ้าเป็นนักขายที่ดีพอเราก็ให้ข้อมูลเชิงลึกที่เขาต้องการทั้งหมดทั้งการวิเคราะห์เมื่อเทียบกับคู่แข่ ตัวเลขต่างๆที่น่าสนใจ ยิ่งถ้ามีข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นคนดังก็อาจจะทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้มองเห็นภาพง่ายขึ้นโดยที่ไม่ต้องไปสืบค้นข้อมูลเองก็จะช่วยย่นระยะเวลาในการตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้นด้วย
 
สินค้าในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ ที่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ ซึ่งตัวเลขสถิติการใช้น้ำมัน อัตราความคงทน เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ต้องมีตัวอย่างของคนที่ใช้แล้วได้ผลดีมาการันตีความน่าสนใจก็จะทำให้เห็นภาพของสินค้าได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
 
4. ลูกค้าในรูปแบบนักกิจกรรม

ฐานลูกค้ากลุ่มนี้ดูจะมีมากและเป็นตัวแปรทางการค้าที่ดียิ่ง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่เข้ามาหาธุรกิจของเราจะเป็นนักกิจกรรมไปทั้งหมด พื้นฐานลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีไลฟ์สไตล์แบบเฮฮา รักอิสระ

ส่วนมากจึงอยู่ในกลุ่มวัยรุ่นทั่วไป การทำสินค้าและบริการให้โดนใจคนกลุ่มนี้ก็เน้นที่สีสันและฟังก์ชั่นการใช้งานโดยที่ควรเน้นให้สามารถใช้ร่วมกันเป็นกลุ่มได้จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของสินค้าและบริการได้มากขึ้น
 
ความคาดหวังของคนซื้อในกลุ่มนี้เน้นที่ความสุขทางใจ ความบันเทิง หรือทำให้ตัวเองไม่ตกเทรนด์ เด่นไม่เหมือนใคร และเมื่อคนเหล่านี้รู้สึกดีกับสินค้าหรือบริการนั้นๆ ก็พร้อมจะเป็นการตลาดเพื่อบอกต่อสรรพคุณของสินค้าและบริการผ่านทางโซเชี่ยลช่องทางต่างๆ อันจะเป็นการขยายฐานลูกค้าให้เราได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สิ่งสำคัญในการขายจึงต้องจี้จุดในสิ่งที่ลูกค้ากลุ่มนี้กำลังมองหา สินค้าสำคัญๆ ที่มีกลุ่มลูกค้าเหล่านี้จำนวนมากจึงเป็นกลุ่มโทรศัพท์มือถือ ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก อาหารสุขภาพ หรือแม้แต่ร้านอาหารที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครก็สามารถทำการตลาดกับคนกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

หลายครั้งในการทำธุรกิจที่เราอาจมีสินค้าหรือบริการที่มั่นใจแต่มาพลาดตรงการบริหารจัดการลูกค้าก็เท่ากับเป็นการเสียประโยชน์ทางการค้าแบบไม่จำเป็น แม้บางคนอาจไม่ใช่ลูกค้าของเราในทันทีแต่การรักษาความรู้สึกหรือทำให้เขารู้สึกว่าธุรกิจของเรามีความน่าสนใจก็อาจทำให้เขากลายมาเป็นลูกค้าสำคัญของเราในอนาคตได้เช่นกัน
 
ทั้งนี้คนที่กำลังมองหาช่องทางการลงทุนที่ดีแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกลงทุนแบบไหนให้เกิดประสิทธิภาพเรามีรวบรวมแฟรนไชส์ต่างๆมากมายเลือกลงทุนกันได้ตามความเหมาะสม

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ goo.gl/s4b779
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
792
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด