บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
2.1K
2 นาที
18 กรกฎาคม 2560
Growth Hacking การตลาดแบบต้นทุนต่ำแต่โอกาสสำเร็จสูง


 
ภาพจาก goo.gl/posJMs

กระแสของการตลาดที่เปลี่ยนแปลงจากเดิมก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ ตำราใหม่ในการสร้างกลยุทธ์การตลาด ปัจจุบันนี้กล้าพูดได้ว่าใครที่คิดจะทำธุรกิจแล้วไม่ศึกษาการตลาดให้ดีย่อมมีโอกาสไปไม่ถึงฝั่งฝันเป็นแน่ ทั้งนี้ในฐานะของผู้ประกอบการก็ควรรู้ว่าการตลาดแบบไหนที่ดีที่สุดเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

โดย www.ThaiFranchiseCenter.com ก็เป็นอีกช่องทางที่จะมาคอยอัพเดทข่าวสารการตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นในตอนนี้ที่ได้ยินว่าการตลาดแนวใหม่ที่น่าสนใจมากคือ Growth Hacking ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนมากแต่มีโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนสูง แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจและมองไม่เห็นภาพเราลองมาดูการตลาดแบบ Growth Hacking ให้ละเอียดกันสักหน่อยดีกว่า
 
Traditional Marketing Vs Growth Hacking

กลยุทธ์การตลาดแบบเดิม(Traditional Marketing)  ที่ผู้ประกอบการใช้ในการผลักดันธุรกิจให้เติบโตคือการทุ่มงบโฆษณาผ่านสื่อ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมหาศาล รวมถึงการหันมาเน้นสื่อออนไลน์มากขึ้นไม่ว่าจะผ่าน Facebook, Instagram, Twitter หรือสื่อดิจิตอลใดๆก็ตาม
 
ส่วน Growth Hacking คือศิลปะแห่งการผสานระหว่างคุณสมบัติของสินค้ากับข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และการตลาดอันชาญฉลาดเพื่อนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว หรืออีกนัย Growth Hacking คือการตลาดต้นทุนต่ำที่เน้นใช้เทคโนโลยีมาช่วยเร่งธุรกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้นโดยทั่วไป

Growth Hacking เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่แพร่หลายในกลุ่ม Tech Startups หรือบริษัทเกิดใหม่ด้านไอทีที่มีงบจำกัดในการทำการตลาดแบบเดิมที่ใช้เม็ดเงินจำนวนมากในการประชาสัมพันธ์ จึงต้องอาศัยวิธีการอื่น เช่น โซเชียลมีเดีย ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง การตลาดแบบผึ้งแตกรัง (Buzz Marketing) ที่มีการบอกกันปากต่อปากของผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ หรือเทคนิคบางอย่างที่ต้องอาศัยความรู้ด้านซอฟต์แวร์เข้ามาเกี่ยวข้อง เหล่านี้ถือเป็นวิธีการคิดแบบนอกกรอบทั้งสิ้น
 
3 ปัจจัยที่จะทำให้ Growth Hacking ประสบความสำเร็จ

1.สร้างสรรค์สินค้าหรือบริการที่เป็นของตลาด (Make things that people want)

 
ภาพจาก goo.gl/nAT2ot

การผลิตสินค้าต้องคำนึงด้วยว่าสินค้านั้นมีประโยชน์แค่ไหน ควรหาไอเดียที่ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึก “Need” คือทำให้ชีวิตดีขึ้นและขาดไม่ได้ มากกว่าความรู้สึก “Want” ที่มีก็ดีไม่มีก็ไม่เป็นไร สิ่งนี้เป็นโจทย์แล้วก่อนที่จะก้าวไปสู่ข้ออื่นแต่ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและหลายคนก็ยังทำไม่ได้
 
2.รู้จักการประชาสัมพันธ์ที่มีประโยชน์ (Knowledge is power)
 
หากมีของดีอยู่ในมือแต่ไม่รู้วิธีประชาสัมพันธ์ก็ไม่มีประโยชน์อะไร การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจ ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ มีข้อมูลอยู่ในมือ ต้องมองภาพออกว่าหากปล่อยสินค้าออกไปแล้วจะเป็นอย่างไร อะไรที่มีอิทธิพลต่อตลาดที่กำลังจะลงไปเล่น

หากไม่มีข้อมูลตรงนี้ก็ควรต้องศึกษาและทำการบ้านว่าที่ผ่านมาคนอื่นเขาทำอย่างไร ใช้กลยุทธ์แบบไหน แม้ตัวเลขและข้อมูลจะมีความสำคัญในเชิงการตลาด แต่อย่าลืมในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ หากผนวกความรู้เข้ากับความคิดสร้างสรรค์ได้ อย่างน้อยก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว
 
3.สร้างความสนใจในเวลาอันสั้น(Go Viral)

 
ภาพจาก goo.gl/T1pFxK

การตลาดแบบ Growth Hacking มีเป้าหมายค่อนข้างชัดเจนคือสร้างกระแสความสนใจในสังคมให้เร็วในระยะเวลาอันสั้น และเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงต้องคิดหาวิธีหรือกระบวนการใหม่ๆ เช่น การทำแคมเปญผ่านโลกดิจิตอล โดยที่บางทีเจ้าของสินค้าก็ไม่ต้องทำอะไรมากจะมีคนทำหน้าที่ส่งต่อข้อมูล แชร์ไปให้เห็นอย่างทั่วถึงจนกลายเป็นกระแสก็มี 
 
ตัวอย่างของธุรกิจที่ใช้ Growth Hacking อย่างได้ผล

1.Dollar Shave Club
 

 
ภาพจาก goo.gl/teH5p8

นี่คือธุรกิจผู้ผลิตใบมีดโกนหนวดรายเล็กในสหรัฐฯ ที่หาญต่อกรกับยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคอย่าง P&G ด้วย  3 เทคนิคในการทำการตลาดคือ
  1. สนองความต้องการลูกค้าด้วยมีดโกนหนวดคุณภาพดีราคาไม่แพง
  2. ใช้วิธีสมัครสมาชิกเหมาจ่ายรายเดือน ราคาเริ่มต้น 1-9 ดอลลาร์สหรัฐฯ บริษัทจะจัดส่งมีดโกนตรงถึงบ้านทุกเดือน โดยที่ลูกค้าไม่ต้องออกไปซื้อหา แถมยังสามารถเลือกชนิดของมีดโกนได้ตามต้องการ 
  3. ไม่จำเป็นต้องซื้อสื่อ แต่ใช้วิธีถ่ายทำโฆษณาแล้วอัพลงYoutube เนื่องจากเนื้อหาโฆษณาออกแนวตลกโปกฮา คนดูชอบ จึงมีการแชร์ต่อจนทำยอดวิวทะลุหลักล้าน ส่งผลให้จำนวนสมาชิกที่ซื้อมีดโกนพุ่งพรวดเร็วทันใจ จากรายได้ไม่กี่ล้านเพิ่มเป็นหลักร้อยล้านดอลลาร์ฯ จนบริษัทยูนิลีเวอร์สนใจเข้ามาเจรจาของซื้อกิจการไปเรียบร้อย 
2.ไอศกรีมกูลิโกะ

 
ภาพจาก www.facebook.com/glicoiceTH

มีกระแสช่วงหนึ่งในบ้านเราที่ไอศกรีมกูลิโกะใช้ Growth Hacking อย่างได้ผล กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ถูกแชร์บนสื่อสังคมออนไลน์อย่างคึกคักในแง่ของการไล่ล่าหาซื้อไอศกรีมกูลิโกะยากยิ่งกว่าการตามล่าหาสินค้าใดๆ
 
การที่สินค้าถูกวางตำแหน่งให้เป็น Rare Item หรือของหายาก เมื่อใครได้มาในครอบครองจึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปอวดบน Facebook และสื่ออื่นๆ และมีการชี้เบาะแสให้ด้วย นี่เป็นตัวอย่างของการทำการตลาดแบบไม่ต้องทุ่มงบมหาศาลในการโฆษณา เพียงสร้างกระแสแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริโภคที่จะบอกต่อกันเอง
 
3.บริษัทแซลมอน
 
บริษัทแซลมอน เป็นธุรกิจที่ทำทั้งสำนักพิมพ์และโพรดักชันเฮาส์ เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่สร้างกระแสไวรัลได้ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด เริ่มจากการโปรโมตหนังสือด้วยการทำคลิปเผยแพร่ทางยูทูบ เป็นคลิปเกี่ยวกับฝรั่งชื่อลุงเนลสันที่พูดถึงเมืองไทยด้วยแง่มุมต่างๆ

ส่วนใหญ่เป็นการประชดประเทียดแต่กระตุกต่อมฮา ถูกใจคนดูจนทำให้ยอดวิวทะลุล้าน จากนั้นแซลมอนก็ทำคลิปออกมาอีกหลายคลิป ล้วนออกแนวเกรียน เสียดสี ล้อเลียน แซลมอนประสบความสำเร็จในการทำให้คลิปเหล่านั้นถูกพูดถึงในสังคมและแชร์ผ่านFacebookจำนวนมาก ส่งผลให้ชื่อแซลมอนติดหูคนดูในเวลาไม่นาน  
 
Growth Hacking จึงไม่ใช่การตลาดที่เจาะจงสำหรับ Tech Startups ฝ่ายเดียว แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำหรับนักการตลาดผู้ชาญฉลาดสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับสินค้าแทบทุกชนิด อย่างไรก็ตาม

สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ร้านอาหาร ธุรกิจจำหน่ายขนมหรืออาหาร และสินค้าประเภทงานฝีมือที่ต้องใช้ความประณีต หากนำกลยุทธ์แบบ Growth Hacking มาใช้ ก็ต้องเตรียมรับผลที่ตามมาในกรณีที่สินค้าขายดีก็ต้องคงเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานการบริการไว้เพราะต่อให้การตลาดจะดีสักแค่ไหนแต่คนก็ยังตัดสินใจกันที่ตัวสินค้าเป็นหลักเหมือนเดิม
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด