บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
2.6K
2 นาที
10 สิงหาคม 2560
ธุรกิจอยากโตแบบสุดโต่ง! ลองดู “ฮ่องกงโมเดล” แล้วจะเข้าใจ
 
 
ภาพจาก  goo.gl/AkJZBa

แม้ฮ่องกงจะถูกมองว่ามีพื้นที่แค่เพียง 1,096.63 ตารางกิโลเมตร เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่มีพื้นที่กว่า 513,120 ตร.กม. เรียกว่าต่างกันหลายช่วงตัว แต่เรื่องพื้นที่ก็เอามาชี้วัดสภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ได้อย่างประเทศญี่ปุ่นที่มีพื้นที่แค่ 377,962 ตารางกิโลเมตรก็ยังเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกที่ใครๆต่างก็ต้องจับตามอง
 
ความน่าสนใจในด้านการลงทุนตามสายตาของนักธุรกิจนั้นให้โฟกัสที่เรื่องการให้ปัจจัยเสริมที่สนับสนุนให้เกิดโอกาสทางการค้าได้มากขึ้น หากเรามองที่จุดนี้ถือว่าฮ่องกงนั้นสอบผ่านได้สบายๆ ตัวเลข GDP ของฮ่องกงมีทิศทางการเติบโตแบบต่อเนื่องตลอดมาในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาก็มีมูลค่าของGDP กว่า 274 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ถือเป็นอัตราการเติบโตที่มากกว่า 1.8% ซึ่งถือว่าน่าสนใจและทำให้เราต้องมามองดูว่าอะไรคือไฮไลต์สำคัญที่ทำให้ฮ่องกงก้าวไปถึงจุดนั้นได้มากขึ้น และถ้าเทียบกับการลงทุนในเมืองไทยแล้วจะสามารถเอาสิ่งต่างๆ เหล่านี้มาปรับใช้อย่างไรได้บ้าง เป็นเรื่องที่ www.ThaiFranchiseCenter.com คิดว่าน่าติดตามหากเราต้องการทำธุรกิจที่เติบโตได้แบบสดใสเช่นนั้น
 
เลขาธิการสำนักงานการคลังฮ่องกงเปิดเผยรายงานว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงมีการขยายตัว 1.9% ในปี 2559 ขณะเดียวกันก็คาดการณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจฮ่องกงจะขยายตัวอยู่ในช่วงระหว่าง 2%-3% ในปี 2560 นั้นเป็นเพราะนโยบายเสรีการค้าที่มุ่งสร้างสิ่งต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้นักลงทุนนักท่องเที่ยวมากขึ้นเพื่อเป็นการดึงดูดให้ผู้คนสนใจและหันมาที่ฮ่องกงอย่างไม่ขาดสาย

ที่ผ่านมาที่เห็นได้ชัดเจนในด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมต่างๆ ก็คือ การสร้าง3 Runways เพิ่มเติมที่สนามบินระหว่างประเทศฮ่องกง เพื่อเพิ่มเที่ยวบินสำหรับนักท่องเที่ยว และส่งสินค้า , การสร้างเกาะใหม่ขึ้นมารองรับนักท่องเที่ยว และทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น , การ จัด Event พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยว เช่น และสร้างโรงแรมเพิ่ม , การพัฒนาท่าเรือให้รองรับเรือได้มากขึ้น รวมถึงการสร้างรถไฟฟ้า (MTR) จำนวน 5 สาย ที่จะแล้วเสร็จในช่วง 2557-2563
 
นั้นคือภาพรวมขนาดใหญ่ที่เรามองเห็นว่าทำไมฮ่องกงถึงน่าสนใจแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกไม่เป็นไปตามที่ใจนึกนักในบางปีฮ่องกงเองก็ได้ผลกระทบจากการพัฒนาเศรษฐกิจที่ลดลงเช่นกัน

แต่สิ่งที่ทำให้ฮ่องกงยังคงเดินหน้าสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจได้แข็งแกร่งเป็นเรื่องจุดแข็งที่สามารถหยิบเอาเรื่องวัฒนธรรมประเพณี มาผนวกรวมใช้กับการทำธุรกิจได้อย่างกลมกลืม ซึ่งถือเป็นข้อดีที่เมืองไทยเองก็มีและไม่ได้ด้อยกว่า เราลองมาดูกันว่าการหลอมรวมที่น่าสนใจนี้คืออะไรบ้าง
 
1.การจัดโซนธุรกิจที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก
 
 
ภาพจาก  goo.gl/sHW9Vs

สำหรับใครก็ตามที่ได้ไปฮ่องกงจะต้องได้ช็อปปิ้งกับย่านการค้าที่ดูเหมือนจะเป็นจุดขายที่สำคัญมาก ซึ่งเราไม่ต้องพูดถึงแสงสีเสียงในการดึงดูดใจนักท่องเที่ยว โดยย่านช็อปปิ้งสำคัญในฮ่องกงที่รู้จักกันดีอย่างแอดมิรัลตี้ เซ็นทรัล และโซโห ,คอสเวย์ เบย์ ,เชิงหว่าน , จินซาโจ่ย และ มงก๊ก ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีดีแตกต่างกันไปอย่างจินซาโจ่ยที่เอาใจคนคอกลางคืนเป็นเหมือนบาซาร์ระดับโลกขนาดยักษ์ หรือในย่าน เชิงหว่านที่มีพื้นฐานตลาดจากความเชื่อและธุรกิจชาวจีน จึงเป็นตลาดเก่าแก่ที่มีเสน่ห์มาก
 
2.โปรโมชั่นระดับประเทศดึงดูดคนทั่วโลก
 
เชื่อได้ว่านี่คือแนวคิดกระตุ้นธุรกิจได้สุดโต่งกับการจัดงานประจำทุกปีภายใต้คอนเซปต์ลดกระหน่ำทั้งเกาะฮ่องกงที่มีสินค้ามากมายพร้อมใจลดราคา 35% ไปจนถึง 70% หรือ 80 % เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการรอคอยเลยทีเดียว

ส่วนพวกแบรนด์เนมชื่อดังอย่าง Louise Vuitton, Prada, Gucci, Fendi, Hermes จะไม่ได้ลดราคาไปด้วย เนื่องจากราคาปกติ แบรนด์เหล่านี้ที่ฮ่องกงจะถูกกว่าที่ไทยประมาณ 5% อยู่แล้วเพราะฮ่องกงยังเป็นเมืองปลอดภาษี แต่แค่มหกรรมแบบนี้ขาช็อปทั่วโลกก็มุ่งหน้าไปฮ่องกงกันแน่นขนัดทุกปีส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยับตัวได้ดีอีกด้วย
 
3.การใช้เสน่ห์ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมเก่า-ใหม่
 
 
ภาพจาก  goo.gl/owc3rk

เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ดีซึ่งประเทศไทยเองก็มีการใช้แนวคิดนี้เช่นกันอย่างงานอะเมซิ่งไทยแลนด์ที่จัดอยู่ต่อเนื่อง แต่ในฮ่องกง การใช้ตรงนี้เรียกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากอย่างย่านเมืองเก่าโอลด์ ทาวน์ เซ็นทรัลที่เป็นจุดผสมผสานระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออกของฮ่องกง เพราะเป็นจุดที่อังกฤษเข้ามาปักธง ทำให้เกิดร่องรอยการค้าขายและการอยู่อาศัยของคนจีนย่านนี้ยาวนานถึงอายุ 150 ปี ธุรกิจในย่านนี้จึงใช้กลิ่นอายนี้เป็นตัวหลักในการทำตลาดซึ่งก็สร้างรายได้และเป็นจุดแข็งที่ดีทีเดียว
 
4.เอาอดีตมาเล่าเรื่อง สร้างธุรกิจที่จดจำไม่รู้ลืม
 
ข้อดีของการมี Story คือทำให้คนสนใจและอยากเรียนรู้ในวัฒนธรรมของประเทศนั้นก็สามารถก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ๆที่หลากหลายได้ในประเทศไทยก็มีกลยุท์การส่งเสริมธุรกิจเช่นนี้กับการพาทัวร์วัดเก่าที่อยุธยา

การชมตลาดน้ำใกล้ชิดชาวบ้าน อย่างในฮ่องกงเขาก็มีเหมือนกันอยากการพาทัวร์ที่วัด Man Mo ซึ่งเก่าแก่มากแต่ที่ดูน่าสนใจมากและคิดว่าบ้านเรายังมีน้อยก็คือการแปลงสิ่งเก่าให้เกิดประโยชน์อย่างที่ฮ่องกงเขาแปลงแฟลตตำรวจที่ทิ้งร้างแล้วมาหลายสิบปี ให้เป็นสถานที่สนับสนุนนักศึกษาที่เรียนจบด้านการออกแบบและดีไซน์แต่มีทุนน้อยมาทดสอบสนามทำธุรกิจ ให้เช่าห้องมาเปิดร้านขายของ ได้มา 6-7 ปี จนบางอันก็กลายเป็นสตาร์ทอัพได้เลยทีเดียว
 
5.ชูความเป็นเมืองตลอดกาล
 
 
ภาพจาก goo.gl/eXjB5D

อาจจะเป็นเพราะว่าฮ่องกงมีพื้นที่น้อยการทำเรื่องนี้ก็เลยดูจะง่ายและมีมนต์ขลังมากกว่าแต่ธุรกิจไทยเองก็ประยุกต์ใช้เรื่องนี้ได้เช่นพัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต ที่หากชูความเป็นเมืองให้โดดเด่นมากขึ้นก็จะเพิ่มเสน่ห์ได้อย่างน่าสนใจ

กลยุทธ์ที่ฮ่องกงใช้เรื่องนี้คือเมื่อมาถึงฮ่องกงจะได้สัมผัสทุกอณูของเมืองตั้งแต่นั่งรถแทรมป์ แวะชมหุ่นมาดามทุสโซ ขึ้นไปวิกตอเรียพีกเพื่อถ่ายรูปกับอ่าววิกตอเรียในมุมสูง ที่จะเห็นท่าเรือ คลังสินค้า และเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ท่ามกลางตึกสูงต่างๆ ที่บ่งบอกความเจริญและสมกับเป็นเมืองทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเอเชีย
 
อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนเพื่อสนับสนุนธุรกิจคือการก้าวตามไลฟ์สไตล์ของโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปโดยต้องไม่ลืมกลิ่นอายในความเป็นตัวเองนอกเหนือจากการส่งเสริมทางด้านกฏหมายและการลงทุนที่ดี ด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้ก็น่าจะใช้เป็นโมเดลในการพัฒนาธุรกิจให้โตแบบสุดโต่งได้แน่นอน
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
499
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด