บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.1K
2 นาที
15 กันยายน 2560
2040 วันสิ้นรถใช้น้ำมัน

 
ภาพจาก goo.gl/6iS7mE

กระแสของยานยนต์โลกกำลังมุ่งไปทาง “รถยนต์ไฟฟ้า” จะกินเวลานานขนาดไหน 5 ปี 10 ปี 20 ปี ยังไม่มีใครทราบได้อย่างแน่ชัด แต่หลายๆ ประเทศทางฝั่งยุโรป ได้ประกาศออกมาจัดเจนแล้วว่า จะยุติการจำหน่ายรถที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลในปี 2040 (พ.ศ.2583) นับจากนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 23 ปี เท่านั้น 
แล้วประเทศไทยล่ะ! พร้อมแล้วหรือยัง? 
 
วันนี้ www.ThaiFranChiseCenter.com ขอพาคุณผู้อ่านไปดูว่า ประเทศใดบ้าง ที่มีจะยกเลิกการใช้รถที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมรถยนต์โลก ทำนายว่า การเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2020 และในช่วงนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจะแข่งขันกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลหรือเบนซินได้ในหลายปัจจัย อย่างเช่นต้นทุนการผลิต
 
1.อังกฤษ 
 
 
ภาพจาก goo.gl/gccmMJ

เตรียมประกาศห้ามผลิตรถยนต์และรถตู้ที่ใช้น้ำมันดีเซลและเบนซินในประเทศตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ จะตั้งกองทุนมูลค่า 255 ล้านปอนด์ หรือราว 11,100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานต่าง ๆ ในการแก้ปัญหามลพิษที่ปล่อยออกมาจากยานพาหนะที่ใช้น้ำมันดีเซล 
 
โดยกองทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณ 3,000 ล้านปอนด์ หรือราว 131,000 ล้านบาทในการปรับปรุงคุณภาพอากาศ รัฐบาลจะสนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ก่อนที่จะถึงเส้นตายตามที่ศาลสูงกำหนด
 
2.จีน


 
ภาพจาก goo.gl/72ir7X

จีนเตรียมออกมาตรการห้ามผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานน้ำมัน โดยเชื่อว่าภายในปี 2025 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 5 ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด
 
ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดว่ามาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด แต่ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว พร้อมระบุว่า มาตรการนี้จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในจีน
 
ในปัจจุบัน จีนเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมื่อปี 2016 ยอดการผลิตรถยนต์ในจีนสูงถึง 28 ล้านคัน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของยอดการผลิตรถยนต์ทั่วโลก
 
จีนตั้งเป้าหมายภายในปี 2025 ราวๆ 1 ใน 5 ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั่วประเทศ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริด โดยคาดว่าในปี 2019 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดจะโตขึ้นร้อยละ 8 และในปี 2020 จะโตขึ้นร้อยละ 12
 
3.ฝรั่งเศส 

ภาพจาก goo.gl/RtTdfo

ฝรั่งเศสจะเลิกขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลภายในปี 2040 อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่จะทำให้บรรลุผลได้ตามเป้าของข้อตกลงปารีสเรื่องลดโลกร้อน
นิโคลาส ฮูลอต รัฐมนตรีนิเวศวิทยาคนใหม่ของฝรั่งเศส กล่าวว่า “เรากำลังประกาศถึงการสิ้นสุดการจำหน่ายรถยนต์เบนซินและดีเซลภายในปี 2040 ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริง”
 
เขาบอกว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่หนักหนาสำหรับค่ายรถ แต่อุตสาหกรรมของฝรั่งเศสมีเครื่องไม้เครื่องมือที่เพียบพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง ค่ายรถของฝรั่งเศสมีไอเดียในลิ้นชักมากพอที่จะทำตามสัญญาในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับสาธารณสุขด้วย

4.นอร์เวย์

 
ภาพจาก goo.gl/oznCv2

สำหรับนอร์เวย์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในโลก ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะให้มีการจำหน่ายได้เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าและแบบไฮบริดปลั๊กอินภายในปี 2025
 
5.เยอรมนี 

ภาพจาก goo.gl/Hzx7WX

ด้านผู้นำรัฐบาลเยอรมนี เปิดเผยว่า แผนการของเยอรมนีในการห้ามใช้รถเครื่องยนต์สันดาปภายในจะมีรายละเอียดที่ใกล้เคียงกับชาติยุโรปอื่นๆ แต่ไม่ได้ยืนยันช่วงเวลาอย่างเป็นทางการ และเธอระบุว่า เป้าหมายของอังกฤษและฝรั่งเศสที่ต้องการยกเลิกเครื่องยนต์สันดาปภายในในปี 2040 นั้นเป็นทิศทางที่ถูกต้อง
 
ปัจจุบัน โฟล์คสวาเกน กลุ่มยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี กำลังประสบปัญหาการโกงมลพิษเครื่องยนต์ดีเซลที่ติดพันต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2015 ขณะเดียวกัน รัฐบาลเยอรมันก็กำลังตรวจสอบ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู และเมอร์เซเดส-เบนซ์ว่าอาจมีการกระทำที่ละเมิดกฎหมายเหมือนกับโฟล์คสวาเกนหรือไม่
 
6.อินเดีย
 
 
ภาพจาก goo.gl/F5bKR3

ประเทศอินเดีย หลังจากที่มีการประกาศแผนออกมาอย่างชัดเจนว่า จะเลิกใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันต่อจากเยอรมันและนอร์เวย์ ที่ได้ประกาศมาก่อนหน้านี้แล้ว ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นได้ของผลวิจัยที่ชี้ว่า ธุรกิจบริษัทน้ำมัน อาจจะหนาวๆ ร้อนๆ ส่อเค้าจะล้มกันเลยทีเดียว

เนื่องจากคนจะหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันหมด ตั้งเป้าให้ขายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 การเติบโตทางเศรษฐกิจทำให้อินเดียกลายเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอันดับ 3 ของโลก ต้องจ่ายเงินซื้อน้ำมันถึงปีละ 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะลดความต้องการการใช้น้ำมันลงอย่างมาก
 
7.เนเธอร์แลนด์

 
ภาพจาก goo.gl/3rm4cM
 
สมาชิกสภาจากพรรคแรงงานของเนเธอร์แลนด์ ได้เตรียมร่างกฎหมายห้ามการซื้อ-ขาย และนำรถที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลทุกประเภทภายในปี 2025 มองว่าระยะเวลาดังกล่าว เพียงพอที่บริษัทรถยนต์จะเปิดตัวและจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และพลังงานจากไฮโดรเจน และเมื่อถึงตอนนั้น ผู้บริโภคที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์ ที่ใช้พลังงานสะอาด มากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
 
พรรคแรงงานของเนเธอร์แลนด์ ยังสนับสนุนการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ และผลักดันให้เกิดการใช้จริงภายในปี 2025 เช่นกัน โดยมองว่าเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ หรือระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่เกิดจากความผิดพลาดของคนขับรถมากกว่าในปัจจุบัน
 
เราต้องยอมรับว่า เรื่องรถพลังงานไฟฟ้ากำลังเป็นของ “ร้อน” ในหลายประเทศ รวมถึงบ้านเรา เนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ เป็น2 ประเทศแรกที่ประกาศจะห้ามจำหน่ายรถยนต์เบนซินและดีเซลในปี 2025 ขณะที่เยอรมนี และอินเดีย วางเป้าหมายเดียวกันไว้ในปี 2030 ล่าสุดคือ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ที่บอกว่าจะยุติการจำหน่ายรถเบนซิน และดีเซลตั้งแต่ปี 2040
 
มาตรการของทุกประเทศที่ห้ามขายรถใหม่ที่ใช้พลังงานฟอสซิลเท่านั้น หมายความว่า ผู้ไม่มีรถไฟฟ้ายังสามารถใช้รถเบนซินหรือดีเซลได้ต่อไป แต่อาจถูกห้ามวิ่งในเขตเมืองใหญ่ ซึ่งรัฐคาดว่าพอไม่ได้รับความสะดวก แถมยังมีส่วนลดหรือเงินให้เปล่าสำหรับผู้ซื้อรถไฟฟ้ามาล่อใจ เจ้าของรถเก่าก็คงทยอยเปลี่ยนจนรถสันดาปภายในสูญพันธุ์ไปในที่สุด
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://www.thaifranchisecenter.com/home.php

อ้างอิงข้อมูลจาก  goo.gl/DWxK4v
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,789
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด