อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ประกาศเมื่อวันพุธ (11 ตุลาคม 2560) ได้เปิดตัวศูนย์วิจัยทั่วโลก คาดหวังว่าจะร่วมงานกับ Bell Labs และ Microsoft Research โดยทุ่มเงินกว่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 498,900 ล้านบาท เปิดตัวฝ่ายวิจัยและพัฒนาในชื่อ "อาลีบาบา ดาโม อะคาเดมี่" (Alibaba DAMO Academy) 
 

โดยมีเป้าหมายให้ศูนย์ดังกล่าว พัฒนาบริการที่สามารถรองรับการใช้งานของลูกค้า 2 พันล้านราย และสามารถสร้างงานให้ได้ 100 ล้านตำแหน่งภายในปี 2036 พร้อมเปิดรับทีมนักวิจัย 100 คนเข้าทำงานแล้ว
 

 

ชื่อของดาโม (DAMO) อะคาเดมี่ มาจากอักษรย่อของคำ 4 คำได้แก่ Discovery, Adventure, Momentum และ Outlook ซึ่งอาลีบาบาตั้งเป้าว่าจะเปิดศูนย์วิจัยนี้ใน 7 เมืองใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ กรุงปักกิ่ง และหังโจว ประเทศจีน, ซานมาเทโอ (San Mateo) และเบลล์วิว (Bellevue) ในสหรัฐอเมริกา, กรุงมอสโคว ในรัสเซีย, กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และสิงคโปร์ 

ที่สำคัญทีมวิจัยของดาโม อะคาเดมี่ จะทำงานใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัยและศูนย์วิจัยต่างๆ ทั่วโลกกว่า 200 แห่ง เช่น U.C. Berkeley และยังมีที่ปรึกษาที่มาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน, สถาบันเอ็มไอที, มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยวอชิงตัน, มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย, สถาบันเทคโนโลยีปักกิ่ง ฯลฯ รวมอยู่ด้วย

 

ภาพจาก goo.gl/bqzpwp

 

เราจะเห็นได้ว่า การออกมาตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาของอาลีบาบาใน 7 เมืองใหญ่ทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่า อาลีบาบาต้องการทำให้ DAMO Academy เป็นแหล่งรวมนักวิจัยฝีมือดีจากทั่วทุกมุมโลก 
 

แทนที่จะปล่อยให้นักวิจัยหัวกะทิ หลุดไปอยู่ในมือของ Amazon, Google, Facebook และ Apple 
 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://www.thaifranchisecenter.com/home.php 
 

อ้างอิงข้อมูลจาก goo.gl/ZtBJVd