บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    เรื่องราวความสำเร็จ
3.1K
2 นาที
22 พฤศจิกายน 2560
ปลดล็อคพลังศักยภาพในตัวเรา ให้เริ่มที่ตัวเราก่อน
 
จากกรณี “ตูน บอดี้สแลม”  นักร้องชื่อดัง ทำโครงการ “ก้าวคนละก้าว” เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยวิ่งจากใต้สุดของประเทศไทย อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไปเหนือสุดอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร เพื่อเชิญชวนประชาชนบริจาคเงินคนละ 10 บาท เป้าหมาย 700 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ 

ได้สร้างปรากฏการณ์ “พี่ตูน” ฟีเวอร์กลับมาอีกครั้ง หลังจากปีที่แล้วเขาวิ่งจากกรุงเทพฯ ไปอำเภอบางสะพาน ระยะทาง 400 กิโลเมตร เพื่อระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลบางสะพาน ซึ่งโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน ในครั้งก่อน สามารถระดมทุนจากการบริจาคของคนไทยทั่วประเทศได้ถึง 85 ล้านบาท



กล้าปลุกพลังศักยภาพด้วยตัวเราเอง
 
หากมองอีกมุมในสิ่งที่ตูนได้ทำและกำลังทำอยู่นั้น ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่า “ทุกคน” (ดารา นักร้อง นักแสดง คนดัง) สามารถทำได้แบบตูน หลายคนอาจทำได้น้อยกว่าตูน หลายคนทำได้ดีกว่าตูน หลายคนทำได้มากกว่าตูน 
 
แต่เราทุกคนไม่กล้าทำแบบ “พี่ตูน” เท่านั้น ทั้งที่ศักยภาพของคนเราทุกคน ไม่แตกต่างกัน ทุกคนอาจสามารถทำได้เหมือนหรือไม่เหมือน ทำได้มากหรือน้อยกว่ากันเท่านั้นเอง  ดังนั้น เราต้องกล้าปลดล็อค หรือปลุกพลังศักยภาพในตัวเราออกมา 
 
การดึงศักยภาพของเรามาใช้ บางครั้งเรารู้สึกว่ามันยาก ไม่รู้ว่าจะดึงออกมาใช้ได้อย่างไร บางคนก็บอกว่า ให้เรามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ เราก็จะดึงศักยภาพออกมาใช้ได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับไปอยู่ที่จุดเดิม ที่เรียกว่า ความเคยชินกับการมีชีวิตอยู่ และการใช้ชีวิต แบบที่เราไม่เคยรู้ตัวว่าเครียดหรือทุ่มเทอะไรมากมาย


กรณี ตูน มองว่าคุณค่าที่ยิ่งใหญ่กว่าจำนวนเงินบริจาค 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ คือ ตูน บอดี้สแลม ต้องการเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจในการทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อสังคม 
 
โดยใช้กำลังความสามารถ และศักยภาพของตัวเองเท่าที่มีอยู่ คือ ตัวเองวิ่งได้ (ไม่ใช่นักกีฬา และนักวิ่งมืออาชีพ) ทำในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับสังคม 
 
สิ่งสำคัญตูนกล้าปลดล็อคพลังศักยภาพของตัวเอง ด้วยการตั้งเป้าหมายในการทำโครงการว่า ทำเพื่ออะไร ก็คือ เป้าหมายต้องมีความชัดเจน มีความเฉพาะเจาะจงและสามารถวัดผลได้จริง สามารถทำได้จริง ไม่ใช่ความเพ้อฝัน และมีเงื่อนไขเวลาเป็นตัวกำหนดเป้าหมายนั้น จะเสร็จสิ้นเมื่อใด ไม่เพียงเท่านี้เป้าหมายจะต้องมีแรงดึงดูด ให้อยากวิ่งเข้าหาเป้าหมาย 


นอกจากนี้ เป้าหมายที่จะสามารถดึงศักยภาพของเราออกมาได้ ต้องไม่ใช่เป้าหมายที่ง่ายเกินไปสำหรับเรา แต่ต้องเป็นเป้าหมายที่ทำให้เรา จำเป็นจะต้องขยายขีดความสามารถของตัวเราเอง ออกมาใช้ในทุกแง่มุมที่ดี เพื่อที่จะช่วยให้เราใกล้ถึงเป้าหมายได้เร็วหรือตามเวลาที่กำหนด นั่นคือ ตูนใช้ความเป็นนักร้องซุปเปอร์สตาร์ของเมืองไทย ปลุกพลังจากคนไทย 
 
สุดท้ายที่นับเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับ ตูน ก็คือ เป้าหมายของเขานั้น ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม ที่มีผลต่อความรู้สึกและจิตวิญญาณคนในสังคมอย่างแท้จริง เมื่อเป้าหมายสัมฤทธิ์ผล จึงจะสามารถทำให้เราดึงศักยภาพในตัวของเราออกมาได้อย่างชัดเจน จนในที่สุดเราก็ประสบความสำเร็จในการพิชิตเป้าหมาย
 
 

มีคนไทยหลายคนใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ทำประโยชน์ให้สังคมไม่หวังสิ่งตอบแทน เพราะพวกเขาเหล่านี้กล้าที่จะปลดล็อคพลังศักภาพของที่ตัวเองที่มีอยู่ ทำในสิ่งเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ เช่น

คนตัวเล็กๆ อย่าง ร.ต.อ.วิชัย สุริยุทธ แห่งอำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งปลูกต้นไม้ทุกวันมาตั้งแต่ปี 2531 ปลูกไปแล้วกว่า 3 ล้านต้น 

ภาพ : ร.ต.อ.วิชัย สุริยุทธ แห่งอำเภอปรางค์กู่

หรือคนอย่าง หมอวรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก ละทิ้งชีวิตที่สุขสบายไปอยู่ชายแดน รักษาคนไร้สัญชาติที่เจ็บป่วยมานานถึง 20 กว่าปี 

ภาพ : หมอวรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก

หรือคนอย่าง สุพิทยา เตมียกะลิน ผู้อำนวยการโรงเรียนเพียงหลวง 11 อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตเป็นครูบนดอย ด้วยความรักและห่วงใยเด็กๆ ฯลฯ
 
ภาพ : คุณสุพิทยา เตมียกะลิน ผู้อำนวยการโรงเรียนเพียงหลวง 11 อำเภอแม่สะเรียง

วิธีการปลดล็อคพลังศักยภาพของตัวเรา
  1. เปิดโลกให้กว้างขึ้น 
  2. อย่ายึดติดกับสิ่งเดิมๆ
  3. ฟังเสียงคนอื่นให้มากขึ้น
  4. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับรอบๆ ข้าง
  5. กล้าลงมือทำสิ่งใหม่ๆ
  6. วิเคราะห์ และตั้งคำถามกับสิ่งที่ได้เห็น ได้สัมผัส 
  7. ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยทักษะที่ตัวเองมี
สุดท้าย ก็คือ ทุกคนมีศักยภาพเท่าๆ กัน มีทั้งทุน ทั้งเวลา ทั้งเครือข่าย เพื่อนฝูง เหล่านี้คือสิ่งที่เอื้อในการทำอะไรหลายๆ อย่างให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย


แต่คนที่ไม่สามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และสำเร็จตามเป้าหมาย ก็เพราะคนเหล่านั้นมองไม่เห็นคุณค่า ไม่เห็นประโยชน์ ไม่กล้าที่จะทำอะไรให้สมกับศักยภาพที่ตัวเองมี...เพียงเพราะ คำว่า “ไม่กล้า กลัว เกรง” ที่คนอื่นเขาจะมองกลับมา
  
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php 
 
แหล่งข้อมูล https://goo.gl/EfRHQX , https://goo.gl/5zrSGG
 
ขอบคุณรูปภาพจาก  www.facebook.com/bodyslamband/ , goo.gl/ea6Bfz , goo.gl/yhgdqd , goo.gl/q4gPuv
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,790
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด