บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    วางแผนขยายธุรกิจ    การสร้างมูลค่าทางธุรกิจ
6.4K
2 นาที
19 มกราคม 2561
ยอดขายของ Uniqlo ดีแค่ไหน!


UNIQLO เป็นแบรนด์เสื้อผ้ายอดฮิตจากประเทศญี่ปุ่นก่อตั้งโดย มร.ทาดาชิ ยาไน  มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ในระดับโลก UNIQLO เองก็เป็นแบรนด์ขายดีมีกำไรติด 1 ใน 10

เช่นกัน UNIQLO มีคู่แข่งสำคัญทั้ง Nike , ZARA , H&M , Louis Vuitton , Adidas ซึ่งในปี 2017 ที่ผ่านมา Brand Finance ได้จัดอันดับให้ UNIQLO มีมูลค่าในตลาดเป็นอันดับที่ 6 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 10,169 ล้านบาท

ความน่าสนใจของ UNIQLO คือเป็นแบรนด์ของเอเชียแต่สามารถตีตลาดต่างประเทศได้อย่างน่าสนใจซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่า UNIQLO มีจุดเด่นในตัวเองที่คนทำธุรกิจน่าเอามาเป็นแบบอย่างได้โดยหากพิจารณาเฉพาะเทรนด์แต่งกายแบบไม่ใช่เสื้อผ้ากีฬา UNIQLO ก็น่าจะติดอันดับมาเป็น 1 ใน 3 ของโลกได้สบายๆ

 

โดยทางบริษัทนอกจากแบรนด์เสื้อผ้าอย่าง UNIQLO ก็ยังมีแบรนด์อย่าง GU , JBRAND และ Theory ที่โด่งดังไม่แพ้กัน UNIQLO เข้ามาในประเทศไทยโดยร่วมทุนกับบริษัท Mitsubishi Shoji และได้เปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายนปี 2011 หลังจากนั้นก็เดินหน้าขยายเครือข่ายสาขาอย่างรวดเร็ว จนในปัจจุบันมีสาขารวมกว่า 30 แห่ง
 
หากพูดถึงการขยายสาขาต่างประเทศของ UNIQLO หลังจากเปิดสาขาแรกในประเทศญี่ปุ่นก็เริ่มกระจายสาขาไปที่ประเทศจีนและถึงตอนนี้ก็มีสาขาในต่างประเทศกว่า 958 สาขา แบ่งเป็นในจีนแผ่นดินใหญ่ 560 สาขา, เกาหลีใต้ 173 สาขา, เอเชียตะวันออกเชียงใต้ กับโซนโอเชียเนีย 144 สาขา, ในพื้นที่ยุโรป 36 สาขา และในสหรัฐอเมริกา 45 สาขา 

ไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมานั้นยอดขายจากต่างประเทศปิดที่ 2.58 แสนล้านเยน (ราว 74,100 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 31% และเป็นครั้งแรกที่ยอดขายในต่างประเทศมากกว่าในญี่ปุนที่เติบโต 8%

ภาพจาก goo.gl/Vvd1Yn

เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 2.57 แสนล้านเยน ผ่านการมีสาขามากกว่า 837 แห่ง แม้ยอดขายในประเทศจะได้อานิสงส์จากความหนาว ทำให้สินค้ากลุ่ม Heattech และ Ultra Light Down ขายดีมาก จนยอดขายจากร้านเดียวกันเติบโต 8%

นอกจากนี้ตัวช่องทางออนไลน์ในประเทศก็เติบโต 26% เช่นกัน แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ยอดขายในประเทศญี่ปุ่นมากกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่ไปทำตลาด เพราะที่อื่นก็เกิดเหตุการณ์นี้เช่นกัน ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่สู้ดีนัก และบริษัทพยายามพลิกตลาดให้กลับมากำไรอีกครั้งหนึ่ง

ภาพจาก goo.gl/n4gKNP

หากมองในด้านกลยุทธ์การตลาดที่นำมาใช้แข่งขันนั้น UNIQLO ถือว่าหาเอกลักษณ์ในตัวเองและนำมาเป็นจุดขายได้อย่างดี เพราะในขณะที่ ZARA เน้นนำเทรนด์แฟชั่นดังมาผลิตในแบบตัวเองและออกขายอย่างรวดเร็ว

H&M ก็ใช้กลยุทธ์เน้นการขายสินค้าหลากหลายประเภทครอบคลุมทุกเพศทุกวัย ในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ส่วน UNIQLO จะไม่ผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นที่เกาะกระแสตามเทรนด์ แต่ เน้นเสื้อผ้าที่มีความเรียบง่าย และให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ที่สำคัญคือเน้นเรื่องมาตรฐานการผลิตแบบญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของวัตถุดิบในการผลิต หรือเทคโนโลยี เน้นราคาที่สมเหตุสมผล คุ้มค่าแก่ลูกค้า

ภาพจาก goo.gl/fSGzKQ

ภาพรวมตลอดปี2017ที่ผ่านมาทั้ง H&M และ ZARA ถือว่าชนะ UNIQLO ในด้านรายได้ รายได้ของ H&M นั้นกว่า 800,000 ล้านบาท  ส่วน ZARA ก็ได้ไม่น้อยกว่า 920,000 บาท ในขณะที่ UNIQLO มีรายได้รวมประมาณ 575,000 ล้านบาท

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับว่า UNIQLO สามารถผลักดันแบรนด์ตัวเองให้ติดลมบนกลายเป็นแบรนด์ยอดฮิตในตลาดโลกแม้แต่คนไทยเองก็ยังให้ความนิยม ส่วนหนึ่งเพราะมาจากบริการที่ดีและสินค้าที่มีคุณภาพตามสไตล์ทำธุรกิจแบบญี่ปุ่น ซึ่งก็ต้องมาดูกันต่อในปีนี้ว่า UNIQLO จะดำเนินการตลาดแบบไหนเพื่อสู้กับคู่แข่งในปี 2018 นี้
 
ขอบคุณข้อมูล goo.gl/HL9W4R
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
608
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
490
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
427
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
393
ปี 2025 ธุรกิจยิ่งทำยิ่งจม! Preemptive Adaptatio..
385
เพิ่มวิวไลฟ์สด ให้ยอดขายพุ่ง! ดันแฟรนไชส์ของคุณใ..
378
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด