ถามถึงเรื่องรายได้ของคนในช่วงนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “รายจ่ายมากกว่ารายรับ” พูดสั้นๆง่ายๆ คือตอนนี้คนไม่ค่อยมีเงิน บางทีก็อยู่แบบเดือนชนเดือนหรือบางทีก็ไม่พอใช้อย่าหวังถึงการลงทุนอื่นๆ แค่ใช้ให้รอดไปวันๆนี่ก็ดีถมไปแล้ว ซึ่งสวนทางกับการประเมินเศรษฐกิจไทยที่คาดว่าปี 2561 นี้เติบโตถึง 4.7% แถมความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังสูงถึง 80% แต่ตัวตัวเลขที่ดูเหมือนจะดีเหล่านี้ เอาเข้าจริงๆ คนรากหญ้าส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้รับประโยชน์อะไร รวยกระจุก จนกระจายก็ยังใช้ได้กับสังคมไทยเหมือนเดิม

 

พูดถึงตรงนี้แล้วจะมีทางไหนที่คนทั่วไปไม่ได้มีทรัพย์สินหมื่นล้าน ไม่ได้เป็นญาตินักการเมือง จะลืมตาอ้าปากได้บ้าง คำตอบสั้นๆง่ายๆก็ต้องเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเอง www.ThaiFranchiseCenter.com คิดว่าชีวิตทุกคนจะดีขึ้นได้ไม่เกี่ยวว่าคนรวยเท่านั้นที่มีเงินลงทุน คนธรรมดาหากเลือกรูปแบบลงทุนที่เหมาะกับตัวเองก็เปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นได้ ลองดูว่าในช่วงปลายปี 2561 แบบนี้มีวิธีลงทุนแบบไหนที่เหมาะสมกับคนงบน้อยอย่างเราบ้าง

 

1. ลงทุนกับแฟรนไชส์
 

แพคเกจแฟรนไชส์มีให้เลือกหลายราคา ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น และมีสินค้าให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ข้อดีของแฟรนไชส์คือเราไม่ต้องไปเริ่มต้นจากศูนย์ เอาธุรกิจที่เขาคิดค้นมาต่อยอดสร้างรายได้ในทันที สำหรับคนงบน้อยแนะนำให้เลือกแพคเกจราคาถูกๆเช่น ลงทุน 5,000 อุปกรณ์การขายครบถ้วน หรือลงทุนประมาณ 15,000 บาท ได้ทั้งอุปกรณ์ วัตถุดิบ จากนั้นให้เราเก็บเล็กผสมน้อย เอากำไรที่ได้มาเป็นทุนต่อเนื่อง ซึ่งเราต้องรู้จักวิธีบริหารการเงินที่ดีร่วมด้วย

แม้ปัจจุบันแฟรนไชส์จะมีมากมาย หลายคนบอกว่าลงทุนแบบนี้เหมือนเอาเงินไปช่วยให้เจ้าของแฟรนไชส์รวยมากกว่า แต่ในมุมกลับกันคนที่ลงทุนกับแฟรนไชน์แล้วมีรายได้ดีกว่าทำงานประจำเขาก็มีอยู่มาก หากคิดจะลงทุนกับแฟรนไชส์แล้วประสบความสำเร็จ แนะนำให้ไปถามกับคนที่เขาทำแล้วประสบความสำเร็จจะได้แง่คิด วิธีการ อย่าไปถามกับคนที่ทำแล้วล้มเหลว เพราะนอกจากไม่ได้อะไร ยังเป็นการบั่นทอนกำลังใจตัวเองให้น้อยลงอีกด้วย

2. ลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์
 

พอพูดถึงอสังหาริมทรัพย์หลายคนก็นึกถึงเงินจำนวนมาก บางคนแย้งทันที นี่มันวิธีลงทุนของคนรวยต่างหาก เปล่าเลยครับ ในทางกลับกันคนเบี้ยน้อยรายได้น้อยก็ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้ เดี๋ยวนี้มีคอร์สอบรมมากมายที่สอนให้เราจับเสือมือเปล่า เช่น การซื้อคอนโดแบบไม่ต้องใช้เงินตัวเอง แล้วปล่อยเช่า เอาส่วนต่างมาเป็นรายได้ ในรายละเอียดเรื่องนี้มีเทคนิคสารพัดวิธีที่เขาพร้อมจะสอน หรือถ้าบางคนไม่มีเงินแต่มีทรัพย์สินเช่นที่ดินในทำเลที่ดี เราอาจเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน อาจจะลงทุนปรับปรุงพื้นที่ แล้วปล่อยให้เช่า หรือขาย ซึ่งหากเป็นทำเลที่ดียังไงก็ขายได้กำไรแล้วเราค่อยเอากำไรนั้นไปลงทุนอย่างอื่นต่อ แต่หากไม่มีมรดกที่ดิน ไม่ได้มีเงินมากมาย ลองเลือกคอร์สอบรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แบบที่มนุษย์เงินเดือนทั่วไปทำได้ แต่ก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุนและอย่าลงทุนทีละมากๆ ค่อยเป็นค่อยไปจะดีกว่า

ภาพจาก pixabay.com/photo-272369

3. ลงทุนกับสินค้าสุขภาพ
 

เทรนด์สุขภาพนับจากนี้จะมาแรงและจะแรงมากขึ้นเรื่อยๆ  คนยุคใหม่หันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น จากโรคร้ายต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวและค่ารักษาพยาบาลที่แพงหูฉี่ ทำให้คนกลัวการเจ็บป่วยมากขึ้น เทคนิคการลงทุนกับสินค้าสุขภาพ เราต้องเลือกสินค้าที่ดีและมีประโยชน์จริงๆ หากจะให้ดีควรทดลองใช้กับตัวเองหรือคนใกล้ชิดก่อน ซึ่งจะทำให้เรามีข้อมูลจากการใช้งานจริงเอาไว้พูดคุยกับลูกค้า

 

ซึ่งปัจจุบันช่องทางการขายสินค้าสุขภาพมีได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ขึ้นอยู่กับว่าสินค้าเราดีแค่ไหน ธุรกิจนี้ไม่ใช่การสร้างรายได้ลมๆแล้งๆ หากเป็นสินค้าที่ดีจริง มีคุณภาพจริง ใช้แล้วเห็นผลจริง มีลูกค้าอีกมากที่พร้อมจ่ายเงินให้กับธุรกิจของเรา

4. ลงทุนสินค้าออนไลน์
 

ถ้าไม่พูดถึงตลาดออนไลน์ก็คงตกยุคแน่ๆ เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาทำตลาดออนไลน์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็เกิดใหม่กันเพียบ เอ้า! แล้วแบบนี้ทำไมยังแนะนำให้ลงทุนอีกละ คำตอบคือ การตลาดออนไลน์ให้ทุนไม่เยอะแต่ต้องใช้ไอเดียให้เยอะ คนมาก่อนไม่ได้การันตีว่าต้องมีรายได้ดีกว่า หรือมีลูกค้ามากกว่า ขึ้นอยู่กับเทคนิคการขาย การรีวิว การโพสต์ ที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ หากจะถามว่าขายยังไง รีวิวยังไง โพสต์ยังไง เคยมีผู้รู้กล่าวไว้ว่า “สูตรไม่สำเร็จคือสูตรสำเร็จ” ทฤษฏีการขายที่เคยเรียนมาเป็นแค่แนวทางหนึ่งแต่คนขายของต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองว่าวิธีไหนที่ควรจะใช้กับลูกค้าของเรา จังหวะเวลาในการโพสต์ก็ต้องมี  มีเทคนิคการเล่าเรื่องที่ไม่ใช่ยัดเยียดขายแต่สินค้า สิ่งเหล่านี้สอนกันไม่ได้ แต่แนะนำได้ ส่วนจะทำแบบไหน อย่างไร ต้องลองผิดลองถูกกันดู หากตั้งใจทำจริ สินค้าออนไลน์ยังเป็นการลงทุนที่สดใสอีกมาก

ภาพจาก goo.gl/images/dC6NEL

5. ลงทุนพัฒนาตัวเอง
 

หากไม่รู้จะลงทุนทำอะไรให้มีกำไร ลองเลือกลงทุนกับตัวเองดู ปัจจุบันมีคอร์สเรียนมากมายที่ช่วยเพิ่มเติมความรู้ให้เราได้ ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียนภาษา คอร์สพัฒนาบุคลิกภาพ  คอร์สอบรมด้านไอที  ฯลฯ สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้ว่าอบรมแล้วจะเอาไปใช้อย่างไร  ยิ่งเรามีความรู้มาก โอกาสก้าวหน้าก็มีสูง

 

วันนี้เราอาจยังเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือพ่อค้าแม่ค้าธรรมดา แต่หากเราเข้าคอร์สอบรมพัฒนาภาษา พัฒนาตัวเอง เราอาจขยับจากตำแหน่งเดิมไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น หรืออาจมีแนวคิดมาทำธุรกิจของตัวเองที่ดีกว่าเดิม ทุกอย่างเป็นไปได้ เพียงแค่เรามีความรู้ อย่าคิดว่าการเรียนไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นอย่างน้อยก็ช่วยเปิดโลกทรรศน์ทำให้เราได้รู้จักคนมากขึ้น โอกาสดีๆ ก็จะตามมาในไม่ช้า

ในปี 2562 คาดว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ก็ยังไม่รู้ทิศทางของประเทศว่าจะก้าวหน้าไปทางไหน แต่ที่รู้คือไม่ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร ใครจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน  ประชาชนคนธรรมดาก็น่าจะยังต้องปากกัดตีนถีบกันเหมือนเดิม ดังนั้นตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด พยายามหาช่องทางลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง พยายามคิดนอกกรอบให้มากเข้าไว้ หากเศรษฐกิจดีขึ้น คนมีรายได้มากขึ้น มีอำนาจการซื้อมากขึ้น ก็ถือเป็นผลพลอยได้ แต่หากทุกอย่างยังเหมือนเดิมเราก็ต้องพยายามหาทางอยู่รอดกันต่อไป สิ่งสำคัญคืออย่าหยุดนิ่ง จงเรียนรู้และอัพเดทสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิตเสมอ เพื่อตัวเองที่ดีกว่าเดิมในอนาคต

 

1.ลงทุนกับแฟรนไชส์

2.ลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์

3.ลงทุนกับสินค้าสุขภาพ

4.ลงทุนสินค้าออนไลน์

5.ลงทุนพัฒนาตัวเอง

 

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)