บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
3.1K
4 นาที
1 พฤศจิกายน 2561
10 กลยุทธ์ธุรกิจเจ้าสัววิชัย SMEs ไทยต้องรู้!


การจากไปของ “คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา” ในวัย 60 ปี เจ้าของธุรกิจสินค้าปลอดภาษีคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ เสียชีวิตลงจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ข้างลานจอดรถของสนามฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ทิ้งธุรกิจมูลค่ากว่า 1 แสนล้านไปให้ลูกๆ ได้รับช่วงต่อ
 
นอกจากความสำเร็จทางธุรกิจแล้ว คุณวิชัย ยังนำพา “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกผันจากทีมลุ้นตกชั้นผงาดขึ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-2016 ชนิดเหนือความคาดหมาย และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่ต่างอะไรจาก “เทพนิยาย” เลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จทั้งกีฬาและการค้าขาย
 
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ คุณวิชัย ยังได้รับการจัดอันดับว่าเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากที่สุดอันดับ 5 ของประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด 162,500 ล้านบาท จากนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2561 นี้ด้วย
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จึงอยากจะนำเสนอ 10 กลยุทธ์การทำธุรกิจของเจ้าสัว “วิชัย” ที่สามารถสร้างอาณาจักรคิงเพาเวอร์อย่างยิ่งใหญ่ และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอล จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก และหวังว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจของเจ้าสัววิชัยจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs ไม่มากก็น้อยครับ
 
1.คอนเน็คชั่นคือใบเบิกทางธุรกิจ 
 
 
ภาพจาก goo.gl/pUm7iE

คุณวิชัยสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ เพราะรู้จักสร้างคอนเน็คชั่นกับผู้หลักผู้ใหญ่ และผู้มีอำนาจทางด้านการเมืองและธุรกิจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีอำนาจดูแลท่าอากาศยานต่างๆ และการท่องเที่ยว จนได้ชื่อว่า “King of Connection Power” พูดง่ายๆ คือ ใครใหญ่กว่าก็เข้าไปหา ทั้งเจ้าของสินค้าแบรนด์เนม เจ้าของสถานที่ 
 
นอกจาก อาณาจักรธุรกิจดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ และกิจการอื่น ที่มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 8.3 หมื่นล้านบาท ตามรายงานการจัดอันดับมหาเศรษฐีไทยในปี 2558 ของนิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์ เขาโด่งดังไปไกลถึงอังกฤษ ในฐานะเจ้าของทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในพรีเมียร์ลีก และเป็นเจ้าของสนาม คิง เพาเวอร์ บิลลิ่ง แบร์ โปโล พาร์ค ด้วย
 
2.ลงมือทำอะไรแล้วต้องมีความสุข 
 
คุณวิชัยแปลกกว่าคนอื่น ตรงที่ใช้ชีวิตด้วยความสุขเป็นตัวขับเคลื่อน ตั้งแต่เล็ก ถ้าจะทำอะไรต้องมีความสุข ถ้าไม่มีความสุขก็ไม่คิดว่าจะลงมือทำ ฉะนั้น ไม่ว่าจะแพง ถูก ไม่ใช่เหตุผลสำคัญ อยู่ที่ความชอบ เขาเป็นคนชอบอะไรก็มักจะเต็มที่ แบบสุดขั้ว ไม่คิดหรอกว่า สิ่งที่ชอบจะมีต้นทุนมากน้อยเท่าไหร่
 
3.มีความพยายามและมุมานะในการทำงาน
 
ภาพจาก goo.gl/xUbf4j

คุณวิชัยเป็นคนทำงานที่โหมงานหนักอยู่เป็นประจำ บุตรชายคนโตเคยบอกสื่อมวลชนว่า เขาเห็นคุณวิชัยทำงานหนักมาตั้งแต่สมัยที่เขายังเรียนอยู่ที่อังกฤษ ในช่วงปิดเทอมลูกเดินทางกลับมาบ้านที่ประเทศไทย ยังพบว่าคุณวิชัยเข้าไปทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิจนถึงตี 1 และตี 2 
 
ต้องตรวจไซต์งานด้วยตัวเองทั้งๆ ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จและเต็มไปด้วยฝุ่น ด้วยความบากบั่นมุมานะและพยายาม และศิลปะในการบริหารคน จึงทำให้ทุกวันนี้วิชัยยังคงเป็นที่รักของเพื่อนๆ และลูกน้องในองค์กรไม่เปลี่ยนแปลง
 
4.ทำธุรกิจที่ตัวเองสนใจ และทุกคนชอบ 
 
เริ่มต้นสมัยคุณวิชัยเรียนไต้หวัน สมัยนั้นไม่มีบินตรง ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง ขาบินกลับไทยตอนปิดเทอมต้องมีคนฝากซื้อของจากร้านปลอดภาษีที่ฮ่องกงทุกครั้ง ทำให้เขามีความคิดว่าทำไมประเทศไทย ไม่มีร้านปลอดภาษีแบบฮ่องกงบ้าง นั่นเป็นความคิดที่ติดอยู่ในใจเขามาตลอด พอโตขึ้นยิ่งเดินทางบ่อย ทำให้เห็นธุรกิจดิวตี้ฟรีจากทั่วโลก พบว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เป็นสิ่งที่คนเดินทางทุกคนชอบ จึงบอกตัวเองว่าน่าจะทำได้ในประเทศไทย
 
5.ทำธุรกิจต้องสร้างความเชื่อถือ รู้จักซื้อใจลูกน้อง
 
ภาพจาก goo.gl/xUbf4j

การทำธุรกิจให้สำเร็จ นอกจากจะมีคอนเน็คชั่นที่ดีแล้ว ยังต้องทำให้คู้ค่า ลูกค้า เชื่อถือเราก่อน ซึ่งความเชื่อถือนั้นมาจากความจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่เบี้ยว ไม่โกง พูดคำไหนคำนั้น

นอกจากนี้ ในช่วงปี 2549 เป็นช่วงที่กิจการดิวตี้ฟรีของครอบครัวสั่นคลอน เนื่องจากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นระยะเวลา 2 เดือน ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่นานด้วยซ้ำ
 
ช่วงนั้นคิง เพาเวอร์ ไม่มีรายรับเลย แต่เพราะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานตามปกติ วิชัยจึงไปดำเนินเรื่องกู้ยืมเงินจากธนาคารมาจ่ายเงินเดือนพนักงานกว่า 1,000 คน เพราะมองว่าพนักงานคือคนสำคัญขององค์กร 
 
ที่สำคัญคุณวิชัยเข้าใจดีว่า พนักงานทุกคนต่างก็มีภาระที่ต้องแบกรับ ผลสุดท้ายครอบครัวคิง เพาเวอร์ ก็ผ่านวิกฤตในครั้งนั้นมาได้พร้อมกับได้ใจพนักงานในองค์กรทุกคนเป็นของแถม
 
6.ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ
 
ธุรกิจขายสินค้าปลอดภาษีต้องใช้มืออาชีพทำ ไม่ใช่แค่มีใบอนุญาตแล้วจะทำได้ ต้องมีคอนเน็คชั่น มีความชำนาญ เพราะหลังจากที่ธุรกิจดิวตี้ฟรีอยู่ในมือของ ททท. สุดท้ายปีเดียวก็เจ๊ง ททท.ต้องมาขอร้องให้คุณวิชัยเทคโอเวอร์ เป็นจังหวะเดียวกับช่วงการเปลี่ยนรัฐบาลพอดี คุณวิชัยบอกว่าต้องมีเงื่อนไข ไม่ใช่เปลี่ยนรัฐบาลทีเขาก็โดนที และไม่ทิ้งลูกน้อง
 
ยิ่งตอนที่ประมูลสัมปทานได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องเร่งลงทุนตกแต่งพื้นที่ทั้งหมดในสุวรรณภูมิ ภายในกำหนดโดยระยะเวลาที่สั้นมาก และต้องออกแบบตกแต่งสวยที่สุด อีกทั้งยังต้องหาสินค้าแบรนด์ดีที่สุดมาจำหน่าย ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จะต้องใช้ความเป็นมืออาชีพเท่านั้น ซึ่งคุณวิชัยและทีมงานก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาทำได้

7.ทำงานด้วยความอดทน

ภาพจาก goo.gl/xUbf4j

หน้าที่ของคุณวิชัย คือ การทำให้ใบอนุญาตสัมปทานขายสินค้าปลอดภาษีไม่ให้หลุด แม้ว่าการทำธุรกิจดิวตี้ฟรีอาจถูกกระแทกบ้าง แต่ต้องอดทน มันต้องมีทั้งร้อนทั้งเย็น มีทั้งพายุ วิกฤตที่เขาเจอแต่ละครั้ง ไม่มีคำว่าล้อเล่น ทั้งโรคซาร์ ไข้หวัดนก โดนยึดใบอนุญาต ปิดสนามบิน ทุกคนที่อยู่กับคุณวิชัยล้วนผ่านวิกฤตนั้นมาด้วยกันทั้งหมดแล้ว 
 
แต่เรื่องดีๆ คือพวกเขายังยืนอยู่ข้างคุณวิชัยตลอด ไม่เคยบอกว่าไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว ทั้งหมดมาจากคุณวิชัยตรงไปตรงมา ให้ใจ ทำให้เขาเกิดความเชื่อจนรู้สึกผูกพัน เป็นส่วนหนึ่ง เหมือนกับเป็นพาร์ทเนอร์ คุณวิชัยลงทุน เขาลงแรง
 
8.ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน และลงมือทำให้เห็น

ภาพจดจำในช่วง 7-8 ปีหลังสุด ที่คนส่วนใหญ่ทั้งไทยและชาวต่างชาติมีต่อคุณวิชัย คือ การเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ พาทีมเล็กๆ จากเมืองเลสเตอร์ ย่านอีสต์มิดแลนด์ของอังกฤษก้าวขึ้นมาจากลีกฟุตบอลแชมเปี้ยนชิป เถลิงบัลลังก์แชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสมัยแรกของสโมสร สร้างประวัติศาสตร์ และตำนานบทใหม่ให้กับวงการฟุตบอลโลก
 
แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เป็นทั้งที่ “ยอมรับ” และ “ที่รัก” ของคนทุกคน คุณวิชัยต้องฝ่าฟันอุปสรรคที่ถาโถมพุ่งเข้าใส่ ชนิดไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เริ่มตั้งแต่วันแรกที่ประกาศเข้าเทคโอเวอร์สโมสรแบบ 100% ในปี 2011 กับสื่ออังกฤษที่ขึ้นชื่อในด้านการขุดคุ้ย และการตั้งประเด็นถกเถียงที่ไม่กลัวเกรงใครหน้าไหน
 
คุณวิชัยถูกครหาและปรามาสว่า เป็นแค่นักธุรกิจที่ไม่จริงจังกับฟุตบอล มองทุกอย่างเป็นเงิน และทุกอย่างก็คงเกิดขึ้นพอทำไปสักพัก ไม่ช้าหรือเร็ว ก็อาจต้องลาจากกันไปเหมือนนายทุนรายอื่นๆ แต่สิ่งที่คุณวิชัยทำ และลงมือปฏิบัติให้เห็นกลับตรงกันข้าม เขาพิสูจน์แล้วว่ากีฬาฟุตบอล คือ สิ่งที่เขารักและหลงใหลจริงๆ ครั้งหนึ่งในวันงานแถลงข่าวเข้ารับตำแหน่งประธานสโมสรต่อจากมิลาน แมนดาริช เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2011 เขาเคยกล่าวเอาไว้ว่า ความตั้งใจของเขากับเดอะฟ็อกซ์ คือ การพาทีมประสบความสำเร็จ และกลับมาในที่ที่ควรอยู่อย่างพรีเมียร์ลีกให้ได้
 
9.มองหาโอกาสและช่องทางธุรกิจตั้งแต่เด็ก

ภาพจาก goo.gl/KqpJUR

เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้ว่า คุณวิชัยเริ่มหลงใหล และมี Passion การทำธุรกิจมาตั้งแต่เล็กๆ โดยสมัยที่คุณวิชัยยังเด็ก เป็นเด็กเรียบร้อย ชอบอ่านหนังสือ มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน คุณวิชัยเป็นลูกคนที่ 3 ถูกส่งไปเรียนที่ไต้หวันตั้งแต่อายุ 11 ขวบ
 
คุณวิชัยมักจะเกิดไอเดียหยิบจับสิ่งของรอบตัว มาปั้นเป็นธุรกิจได้เสมอ ตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งเขาเคยไปเช่าหนังจากร้านเช่าวิดีโอ แล้วนำมาฉายขึ้นผ้าปูที่นอนให้เพื่อนๆ ได้ดู แล้วเก็บเงินทุกคน เมื่อย้ายมาเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ก็ไปทำงานที่ร้านอาหารเป็นเด็กเสิร์ฟ พนักงานทำความสะอาดโต๊ะ และผู้ช่วยเชฟโดยไม่เกี่ยงงาน
 
พอคุณพ่อ (วิวัฒน์ รักศรีอักษร) ทราบเรื่องเข้า ก็ถูกบังคับให้ลาออกจากงาน เพราะห่วงว่าจะเรียนได้ไม่เต็มที่ แต่จนแล้วจนรอด วิชัยก็ยังหาโอกาสกลับไปทำงานพิเศษในที่สุด โดยไปสมัครงานเป็นเด็กปั๊มที่สถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง
 
10.การให้โอกาสและช่วยเหลือสังคม
 
สิ่งสุดท้ายที่ SMEs ควรเรียนรู้ คือ การให้โอกาสและช่วยเหลือสังคม คุณวิชัยได้ริเริ่มโครงการ Fox Hunt ของสโมสร Leicester City ที่พาเด็กไทยไปฝึกกับทีมจิ้งจอกสยาม รวมไปถึงพาเด็กไทยไปฝึกในสโมสรเบลเยี่ยม OH Lueven อีกด้วย ซึ่งเป็นการสร้างอนาคตให้กับเด็กไทย นักฟุตบอลเยาวชนไทย ที่ได้สร้างฝันของตัวเองให้เป็นจริง
 
รวมไปถึงการบริจาคการสร้างโรงพยาบาลเด็กในเมืองเลสเตอร์มูลค่ากว่า 2 ล้านปอนด์ การบริจาคทุนการศึกษาในประเทศอังกฤษ และการบริจาคเงินให้กับหน่วยงานในประเทศไทยหลายๆ หน่วยงานอีกด้วย
 
และล่าสุดการช่วยเหลือที่เป็นที่รับรู้ของคนทั่วประเทศ ก็คือ การสนับสนุนโครงการก้าวคนละก้าวของ ตูน บอดี้สแลม เพื่อระดมเงินบริจาคช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาล ซึ่งกลุ่มคิงเพาเวอร์ได้บริจาคเงินก้อนโต100 ล้านบาท ให้กับโครงการนี้
 
ทั้ง 10 กลยุทธ์การทำธุรกิจของ “คุณวิชัย” ถือเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า ในการนำไปเป็นแบบอย่างในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างคอนเน็คชั่น การตั้งเป้าหมาย แล้วลงมือทำให้เห็น การซื้อใจลูกน้อง ที่จะสามารถช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดอยู่รอดได้อย่างมั่นคง แม้มีพายุซัดถาโถมก็ตาม
 
….ในโอกาสนี้ทีมงานไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว “ศรีวัฒนประภา” ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ 
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: 
@thaifranchise
 


 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document/
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เริ่มต้นธุรกิจ  www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php 
 

SMEs Tips
  1. คอนเน็คชั่นคือใบเบิกทางธุรกิจ 
  2. ลงมือทำอะไรแล้วต้องมีความสุข 
  3. มีความพยายามและมุมานะในการทำงาน
  4. ทำธุรกิจที่ตัวเองสนใจ และทุกคนชอบ 
  5. ทำธุรกิจต้องสร้างความเชื่อถือ รู้จักซื้อใจลูกน้อง 
  6. ทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ 
  7. ทำงานด้วยความอดทน 
  8. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน และลงมือทำให้เห็น
  9. มองหาโอกาสและช่องทางธุรกิจตั้งแต่เด็ก
  10. การให้โอกาสและช่วยเหลือสังคม
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,790
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,395
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
700
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
634
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
560
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
489
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด