บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การตลาดออนไลน์ SEO
3.8K
3 นาที
27 พฤศจิกายน 2561
10 แพลตฟอร์ม E-commerce ยอดฮิต SMEs ต้องใช้ ในปี 2019!


ธุรกิจยุคใหม่ต้องเชื่อมต่อกับตลาดออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายที่เปิดตัวออกมาให้ผู้ประกอบการได้เลือกใช้ แพลตฟอร์มเหล่านี้มีประโยชน์คือเป็นทางลัด เป็นผู้ช่วยที่ทำให้การจัดการธุรกิจเป็นเรื่องง่ายขึ้น ซึ่งตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป สิ่งเหล่านี้จะยิ่งทวีความนิยมและมีความต้องการมากขึ้น
 
www.ThaiFranchiseCenter.com รวมเอา10แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชยอดฮิตในปี 2019 มานำเสนอเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการได้พิจารณา ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้มีคุณลักษณะและประโยชน์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
 
1.BigCommerce


BigCommerce เน้นความเรียบง่ายแต่ประสิทธิภาพสูง โดยมีคุณลักษณะ front-end และ back-end ที่หลากหลายซึ่งทำให้การออกแบบเว็บไซต์เป็นเรื่องง่าย BigCommerce ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
 
หมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือความรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ดก็สามารถใช้งาน BigCommerce ในการสร้างเว็บไซต์ให้กับธุรกิจของเราได้ ในยุคที่การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญนี่คือแพลตฟอร์มที่คนทำธุรกิจสมัยใหม่ต้องศึกษาเอาไว้

Website : www.bigcommerce.com
 
2.Shopify

 

Shopify เป็นบริการเปิดร้านค้าออนไลน์ที่มีรูปแบบของหน้าเว็บให้เลือกสรรมากมาย จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังคิดขายของออนไลน์แต่ยังไม่มีประสบการณ์ในการสร้างเว็บไซต์ สำหรับการสมัครก็ไม่ยากและมีให้ทดลองใช้ฟรี 14 วัน
 
นอกจากนี้ยังใส่รูป โลโก้ ข้อความ และวิดีโอที่บ่งบอกถึงความเป็นแบรนด์ของได้ด้วย หลังจากที่เลือกธีมแล้วก็เริ่มขายสินค้าได้เลยนอกจากนี้ Shopify ยังเชื่อมต่อระบบการจ่ายเงินที่มีมากถึง 70 ช่องทาง และมีภาษาให้เลือกมากกว่า 50 ภาษา
 
ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่จะขายสินค้าให้กับลูกค้าต่างชาติและด้วยความที่ Shopify มีเครื่องมือในการบริหารเว็บที่ดี รวมถึงมีฟีเจอร์และเครื่องมือทางการตลาดที่น่าสนใจมากมาย เช่น มีระบบอัตโนมัติที่แจ้งเตือนไปยังลูกค้าที่ยังทำการสั่งซื้อไม่ครบขั้นตอน ทำให้เว็บไซต์ปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของผลการค้นหาผ่าน Google รวมถึงมีเครื่องมือการวิเคราะห์ยอดขาย และอื่นๆอีกมากมายด้วย

Website : www.shopify.com
 
3.BigCartel


เว็บไซต์ที่เปิดให้ขายสินค้าได้ฟรีแม้จะมีปริมาณจำกัด แต่ก็สามารถขายสินค้าได้หลากหลายประเภทโดยจะต้องสมัครรายเดือน ซึ่งมีค่าบริการอยู่ที่ $9.99 - $29.99 ดอลลาร์ หรือราวๆ 356 - 1,070 บาท ต่อเดือน แล้วแต่แพคเกจที่เลือกใช้

โดยข้อดีของ Big Cartel ก็คือเราจะได้รับเงินทั้งหมดจากการขาย โดยไม่มีการหักเปอร์เซนใดๆ ทั้งยังสามารถใช้งานเว็บไซต์นี้บน iOS ได้อย่างสบายๆด้วย

Website : www.bigcartel.com
 
4.WooCommerce


WooCommerce คือ ปลั๊กอินใช้ทำร้านค้าออนไลน์ใน WordPress ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งมีข้อดีหลายประการที่น่าสนใจ
 
เช่น เป็นบริการที่เปิดให้ใช้ฟรี มีระบบจัดการสมาชิก มีระบบตะกร้าสินค้าแบบมาตรฐานสากล มีระบบสต็อคสินค้า มีระบบจัดการออเดอร์ สามารถส่งข้อความหาลูกค้าเป็นรายบุคคลได้ สามารถติดตามสถานการณ์สั่งซื้อสินค้าได้  มีแกลลอรี่สำหรับสินค้าvมีระบบคำนวณภาษีvสามารถรองรับการจ่ายเงินได้หลากหลายประเภท ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การทำธุรกิจนั่นง่ายมากๆ

Website : woocommerce.com
 
5. Squarespace


Squarespace เป็นเว็บไซต์ขายแพคเกจเว็บไซต์สำเร็จรูป ข้อดีคือใช้งานง่ายเหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นใหม่ยังไม่มีประสบการณ์ มีระบบที่ให้เราจัดการได้ตามโครงสร้างที่ออกแบบมาสำเร็จรูป
 
เป็นระบบที่มีทีมงานให้คำปรึกษาด้านเทคนิคอยู่ตลอดเวลา รวมถึงมีการวิเคราะห์การตลาดให้เราผ่านระบบการจัดการ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเป็นรายเดือนขึ้นอยู่กับแพคเกจที่เลือกใช้

Website : www.squarespace.com
 
6.Demandware


Demandware เป็นแพลตฟอร์มการค้าขายบนโทรศัพท์มือถือที่ช่วยให้สามารถรวมการตลาดในการขายสินค้าที่สามารถสั่งงาน ติดตามผลได้จากโทรศัพท์มือถือ โดย Demandware  ขายอุปกรณ์เคลื่อนที่เข้ากับกลยุทธ์แบรนด์โดยรวมของคุณได้ง่ายขึ้น
 
นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือในการสนับสนุนธุรกิจอีกมากมาย โดยในปี 2560 ธุรกิจอีคอมเมิร์ชมีการใช้งาน Demandware มูลค่าสูงถึง 1,560 ล้านเหรียญ มีแบรนด์ชื่อดังมากมายที่ใช้ Demandware เช่น Adidas และ GoPro

Website : www.demandware.com/de
 
7.YoKart


YoKart เป็นอีกหนึ่งระบบของผู้ขายที่เป็นแพลตฟอร์มตัวช่วยในการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในรูปแบบของการจ่ายเงินผ่าน ewallets ,ผ่านธนาคาร หรือว่าจ่ายเป็นเงินสด
 
ซึ่งคุณลักษณะของ YoKart จะมีพันธมิตรในการเชื่อมต่อกับเกตเวย์ใหญ่ๆอย่าง Paypal, Amazon, Stripe, PayU ฯลฯ รวมถึงยังมีโปรแกรมสะสมคะแนนทางการเงิน เป็นแพลตฟอร์มผู้ช่วยที่ให้ลูกค้ากับเจ้าของธุรกิจนั้นซื้อขายต่อกันได้สบายใจยิ่งขึ้น

Website : www.yo-kart.com
 
8.วีโอไอพี


วีโอไอพีเป็นแพลตฟอร์มที่ทำขึ้นเพื่อเปลี่ยนบริษัทขนาดเล็กให้มีความสามารถในการติดต่อแบบเสียค่าใช้จ่ายน้อยลง VoIP ย่อมาจาก Voice over Internet Protocol เป็นเทคโนโลยีสำหรับการโทรศัพท์ผ่านทางเครือข่าย Internet
 
ซึ่งมีข้อดีอันดับแรกๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโทรได้ ไม่ว่าจะเป็นการโทรภายในประเทศ หรือการโทรระหว่างประเทศ เป็นแพลตฟอร์มที่มีการพัฒนาเพื่อรองรับระบบใหม่ๆในอนาคต
 
9.Volusion


แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ที่มีจุดเด่นคือโครงสร้างที่เราสามารถใช้งานได้ทันที ให้เราเปิดร้านค้าออนไลน์ได้โดยไม่ต้องคิดมาก สามารถตั้งร้านได้ภายในไม่กี่นาที
 
ซึ่ง Volusion มีระบบการสนับสนุนการทำตลาดที่ส่งเสริมให้ลูกค้าได้เห็นร้านค้าของเรามากขึ้น อันจะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น รวมถึงมีเครื่องมือในการทำกลยุทธ์การตลาดอีกหลายแบบให้เลือกด้วย

Website : www.volusion.com/v1
 
10. VTEX


เป็นแพลตฟอร์มในการกำหนดราคาตามส่วนแบ่งรายได้ นั่นหมายถึงโอกาสในการสร้างกำไรของธุรกิจที่มากขึ้น ด้วยเครื่องมือของ VTEX ที่โดดเด่นในเรื่องการวิเคราะห์การตลาด กำไร
 
ซึ่งหากเราเป็นธุรกิจที่ดำเนินกิจการมาระยะหนึ่งแพลตฟอร์มนี้จะช่วยพัฒนาให้ธุรกิจเรามีกำไรมากขึ้น  นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่คนทำธุรกิจควรรู้จักและมีติดไว้เสริมศักยภาพในการทำธุรกิจของตัวเองให้ดีขึ้น

Website : www.vtex.com
 
แพลตฟอร์มในการตลาดออนไลน์นับวันจะมีพัฒนาการที่มากขึ้น ซึ่งเจ้าของธุรกิจควรที่จะเรียนรู้และเลือกใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ให้เหมาะสม บางแพลตฟอร์มอาจยังไม่จำเป็น แต่ทุกธุรกิจควรมีแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งเป็นตัวช่วยในการทำงาน ยุคนี้ถ้ามีการผสมผสานประสบการณ์ความรู้เข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมโอกาสเติบโตก็มีมากเช่นกัน
 

SMEs Tips
  1. BigCommerce
  2. Shopify
  3. BigCartel
  4. WooCommerce
  5. Squarespace
  6. Demandware
  7. YoKart
  8. วีโอไอพี
  9. Volusion
  10. VTEX
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
ขอบคุณข้อมูล goo.gl/G16cbM
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise 

บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
422
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด