1.ศึกษาคู่แข่งที่จะมีผลกระทบกับธุรกิจเรา

3.อำนาจการต่อรองกับคู่ค้าหรือ Suppliers 

จะทำอย่างไรที่จะช่วยให้สินค้ามีกำไรเพิ่มขึ้นหลายคนก็ไปสรรหา วัตถุดิบราคาถูกถูกสุดท้ายคุณภาพรักษาไม่ได้ ชื่อก็เสีย เพราะต้องแข่งราคา กลายเป็น แบรนด์ราคาต่ำ ไปสู้กันที่กำลังผลิตมาก สุดท้ายก็ขายดีจนเจ๊ง เห็นมานับไม่ถ้วนในธุรกิจน้ำดื่ม
ข้อนี้มอง 2 มุมนะครับ น้ำดื่ม อาจจะง่าย เมื่อไม่มีคู่แข่งที่แข็งกว่าเรา การขยายตัวของทีมขายที่แกร่งกว่า มีทุนมากกว่า เร็วกว่า อาจจะมาแย่งส่วนแบ่งจากการปูพรมตลาดได้มากกว่า ในช่วงเริ่มต้น แต่ถ้าขายแบบกำไรติดดิน ก็ดูว่าจะสร้างการจดจำและประทับใจให้กับผู้บริโภคได้หรือไม่ ส่วนน้ำอัดลม นมและอื่นได้ ก็คงทดแทนได้ แต่ไม่มาก เพราะ น้ำดื่มยังคงจัดเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และมีโอกาสการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องอีก 10 ปี

5.การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่

บอกเลยถ้าดีกว่าเราเราก็อาจจะถูกกลืนและหายไปจากตลาดก็ได้นะ วันนี้คู่แข่งที่น่ากลัว ไม่ใช่กองทัพมดอย่างน้ำดื่มชุมชนที่เกิดมาเป็นดอกเห็ดใน 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมาคู่แข่งที่น่ากลัว คือ โรงงานน้ำดื่มที่มีมาตราฐานและมาพร้อมเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภคได้แบบชนิดไม่ต้องลดราคามาแข่งและสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า น้ำดื่มดีๆ ไม่ได้มีผลกระทบกับถึงตัวผู้บริโภคเลยในด้านราคาที่พร้อมจะจ่าย แต่จะมีผลกระทบต่อผู้บริโภค