การขายสินค้าถือเป็นแนวทางการเริ่มต้นทำธุรกิจที่ง่าย และเป็นพื้นฐานของธุรกิจที่มีมากที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะใครๆ ก็สามารถทำธุรกิจค้าขายได้ แต่ใช่ว่าทุกคนที่ลงมือผลิตสินค้าออกมา หรือไปรับซื้อสินค้ามาแล้ว ก็จะสามารถขายได้และประสบความสำเร็จได้โดยง่าย จำเป็นต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ เข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะเรื่องของทำเลและสถานที่ขายสินค้าที่คุณไม่อาจมองข้ามได้ เพราะเป็นปัจจัยดึงดูดให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้เห็นร้านค้าหรือสินค้าของคุณ

 

ปัจจุบันผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ๆ นิยมหันไปเช่าพื้นที่ ขายของในห้างสรรพสินค้า กันมากขึ้น เพราะเป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมใช้เป็นสถานที่พักผ่อน สังสรรค์ นัดพบปะกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงวันหยุด หรือหลังจากเลิกทำงาน 

 

รวมถึงเป็นศูนย์รวมของร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมายหลายร้าน ทำให้ดึงดูดลูกค้าเข้าไปใช้บริการในห้างได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ห้างสรรพสินค้าจึงเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ จึงทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่พลาดโอกาสที่จะสร้างรายได้ ด้วยการเลือกจับจองเช่าพื้นที่ค้าขายในห้างสรรพสินค้า เพื่อนำเสนอขายสินค้าให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการในห้างสรรพสินค้า 

แม้ว่าห้างสรรพสินค้าจะเป็นสถานที่สำคัญในการนำสินค้าไปขาย แต่ก็ใช่ว่าเมื่อนำสินค้าเข้าไปขายแล้วจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะมีปัจจัยที่เป็นอุปสรรคมากมายต่อการทำธุรกิจ เมื่อเทียบกับการเปิดร้านแบบ Stand Alone 

 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะเปรียบเทียบให้ดูว่า การเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า กับ เปิดร้านแบบ Stand Alone นอกห้างแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไรบ้าง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจแบบไหนเหมาะกับในห้าง หรือนอกห้าง 

 

การเปิดร้านหรือทำธุรกิจในห้างสรรพสินค้า เป็นเทรนด์การเปิดร้านหรือทำธุรกิจอาหารที่ได้รับความนิยม เพราะมีปริมาณ Traffic ที่เยอะ ยิ่งถ้าเป็นสินค้า In-House ที่สร้างความตื่นตาให้กับลูกค้าจะได้เปรียบทางการขายมาก มีการปรับเปลี่ยนให้น่าสนใจ และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญห้างสรรพสินค้าให้ความช่วยเหลือด้วย 

 

ข้อดีของการทำธุรกิจหรือเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า

คือ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องน้ำ ร้านอาหาร ธนาคาร ไม่แดด ไม่ร้อน ไม่เปียก ทำให้เกิด Customer Target มี Traffic ตลอดเวลา สามารถสร้าง Awareness ได้ดีเยี่ยม 

 

ข้อเสียของการทำธุรกิจหรือเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า

คือ ค่าเช่าพื้นที่มีราคาแพง ค่าตกแต่งสูง เปิด-ปิดเป็นเวลา ทำตามกฎระเบียบของห้างสรรพสินค้า มีการปรับเปลี่ยนปรับปรุงพื้นที่อยู่ตลอด จึงทำให้ร้านอาจไม่มั่นคงเรื่องสัญญาเช่า จึงต้องเตรียมแผนเพื่อการรับมือความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

 

ส่วนการเปิดร้านหรือทำธุรกิจแบบ Stand alone จะเป็นเหมือนกับ Destination เหมาะกับพฤติกรรมลูกค้าบางกลุ่ม ที่ต้องการความรวดเร็วคล่องตัว หรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบรรยากาศ การออกแบบ ตกแต่งร้านสไตล์หรือความชอบตัวเอง 

 

ข้อดีของการเปิดร้านหรือทำธุรกิจแบบ Stand alone

คือ ค่าเช่าถูก สามารถจัดวางองค์ประกอบทุกอย่างในร้านได้โดยไม่มีขอบเขต จัดวางโต๊ะ-เก้าอี้ และตกแต่งร้านได้ไม่จำกัด กำหนดเวลาเปิด-ปิดได้เอง ลูกค้าเห็นและจดจำได้ง่าย ร้านที่เปิดจะเป็นจุดเด่น มีเอกลักษณ์ ตกแต่งสวน สร้างบรรยากาศได้ 

ภาพจาก /bit.ly/2W1zV90

 

ข้อเสียของการเปิดร้านหรือทำธุรกิจแบบ Stand alone

คือ ถ้าไม่ตั้งอยู่ใน Office Building หรือแหล่งชุมชน อาจยากต่อการรับรู้และเข้าถึงสินค้าหรือบริการของลูกค้า ลูกค้าจะมีกลุ่มเฉพาะจำกัด ไม่หลากหลาย อาจแก้ไขโดยการทำโปรโมชั่นจูงใจ การเช่าพื้นที่เพื่อติดป้ายโฆษณา และบอกที่ตั้งร้าน พร้อมเบอร์โทรอย่างละเอียด 

 

ได้เห็นหรือยังว่า ความแตกต่างระหว่างการทำธุรกิจหรือเปิดร้านในห้างสรรพสินค้า กับ นอกห้างแบบ Stand alone เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้ง 2 ทำเลค้าขายหรือทำธุรกิจนั้น ต่างก็มีทั้งมีข้อดี-เสีย ผู้ประกอบการรวมถึงเจ้าของร้านค้าต่างๆ สามารถนำเอาข้อดี-ข้อเสียของทำเลทั้ง 2 ไปพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกทำเลในการทำธุรกิจให้สำเร็จได้ครับ

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 

 

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document

เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)