บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
2.5K
3 นาที
5 สิงหาคม 2562
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! หวย 12 นักษัตร


ลุ้นกันสนุกทีเดียวกับแนวคิด “หวย 12 นักษัตร” ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่แค่เป็นข่าวออกมาก็ฮือฮาและก่อให้เกิดความคิดที่แบ่งแยกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แม้ว่านี่จะเป็นเพียงแนวคิดไม่ต่างจากโยนหินถามทางแต่ก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ในสังคมที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
 
ด้วยความที่คนไทยนั้นนิยมการพนันขันต่ออยู่แล้ว www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าหวย 12 นักษัตร แม้อาจจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่แต่เชื่อได้เลยว่าในอนาคตก็ต้องมีการพนันรูปแบบใหม่ที่ถูกกฏหมายออกมาแทนที่ แต่กว่าจะถึงวันนั้นหลายคนอาจจะไม่รู้ว่าคำว่า “หวยรัฐบาล” แท้ที่จริงมีที่มาน่าสนใจมาก รวมไปถึงกรณีล่าสุดของหวย 12 นักษัตรที่มีแง่มุมมากมายที่เราควรจะรู้ไว้ไม่ใช่แค่รอลุ้นว่า “จะได้เล่นหรือไม่”
 
1. หวยไทยในอดีต


หวย ก.ข.
ภาพจาก bit.ly/2KiAODs
 
ย้อนไปในอดีตหวยในประเทศไทย เกิดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 3 ในยุคข้าวยากหมากแพง คนไม่กล้าใช้เงิน นำเงินใส่ไหไปฝังดิน จึงมีการแก้ปัญหาด้วยการตั้งโรงหวยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจนเป็นที่มาของชื่อ “หวย ก.ข.“ ออกทุกวันในตอนเช้าและหัวค่ำสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล ประมาณปีละ 2 หมื่นบาท (ค่าเงินในยุคนั้น)
 
ต่อมารัชกาลที่ 5 ที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก และมีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ เป็นครั้งแรกในงานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกุศล
 
จนมาถึงรัชกาลที่ 6 มีการยกเลิก "หวย ก.ข." เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะลุ่มหลงเล่นแต่หวย จนไม่ทำมาหากิน โดยมีการออกสลากเสือป่าล้านบาท ราคาใบละ 1 บาท จำนวนล้านฉบับ ออกมาแทน
 
ถึงสมัยรัชกาลที่ 7 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี พ.ศ. 2476 มีการออกลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม ชดเชยกับรายได้ที่ขาดหายไปจากนโยบายลดเงินรัชชูปการ (เงินที่จ่ายเพื่อไม่ต้องเกณฑ์ทหาร) สลากกินแบ่งทำหน้าที่ระดมทุนได้ดี 
 
และในที่สุดรัฐบาลได้เห็นชอบก่อตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลในปี พ.ศ.2482 เพื่อระดมเงินจากการออกสลาก เป็นรายได้อีกทางหนึ่งของรัฐบาล นำเงินเข้าแผ่นดิน 28% โดย 60% เป็นเงินรางวัล ส่วน 9% เป็นส่วนลดในการจำหน่าย และอีก 3% เป็นค่าใช้จ่ายดำเนินการต่างๆ 
 
2. 12 นักษัตรคือ?


ภาพจาก one31.net
 
ปีนักษัตร หรือ นักขัต เป็นปีตามปฏิทินสุริยคติไทยและชาติอื่นในเอเชียตะวันออก เช่น จีน เวียดนาม และญี่ปุ่นแบ่งเป็นรอบปี รอบละสิบสองปี แต่ละปีกำหนดสัตว์เรียกเป็นชื่อเรียงกันไป โดยมีหลักฐานทางโบราณคดีพบว่าตั้งแต่ก่อนยุคราชวงศ์ฉิน (221 ปีก่อน ค.ศ. – 207 ปีก่อน ค.ศ) ก็มีปรากฏรูปปีนักษัตรแล้ว โดยใช้สัตว์ประเภทต่าง ๆ เป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ คำว่า “หวย 12 นักษัตร” ก็คือการใช้ภาพสัตว์ทั้ง 12 ชนิด
 
เริ่มตั้งแต่ ชวด (หนู), ฉลู (วัว), ขาล (เสือ),เถาะ (กระต่าย), มะโรง(งูใหญ่หรือพญานาค), มะเส็ง (งูเล็ก), มะเมีย (ม้า), มะแม (แพะ),วอก (ลิง), ระกา (ไก่), จอ (สุนัข), กุล (หมู)
 
3. ตั้งเป้าขายหวย “12 นักษัตร” ได้งวดละ 1,000 ล้านบาท
 
สำนักงานฉลากกินแบ่งรัฐบาลได้ชื่อว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการนำส่งเงินเข้ากองคลังได้มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเหนือว่า การไฟฟ้าและ ปตท.ที่เราคุ้นเคยกันดี ในปีที่ผ่านมาก็มีการนำส่งรายได้เข้าสู่กองคลังกว่า 22,842 ล้านบาท
 
โดยแนวคิดหวย 12 นักษัตรล่าสุดนี้ กองสลากกำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ไม่เกี่ยวกับล็อตเตอรี่ที่มีการออกรางวัลอยู่เดิม และตั้งเป้าว่าจะสามารถขายหวยรูปแบบใหม่ได้ถึงงวดละ 1,000 ล้านบาท 
 
4. รูปแบบการเล่นหวย 12 นักษัตร


ภาพจาก bit.ly/334tIcS
 
วิธีการเล่นคร่าวๆ คือ ในแต่ละหลักให้เลือก 1 ภาพ จากภาพทั้งหมด 12 ภาพ และเลือกให้ครบ 4 หลัก เลือกภาพซ้ำได้ เมื่อออกรางวัล ผลที่ออกรางวัลจะมี 2 แบบ คือ ภาพตรงทุกตัว 4 หลัก และภาพตรงแต่สลับหลัก ก็จะได้รับเงินรางวัล สำหรับสลาก ชนิดใหม่นี้เบื้องต้นจะจำหน่ายรายการละ 50 บาท ซื้อ 1 รายการลุ้นได้ทั้ง 2 ประเภทรางวัล ทั้งแบบ 4 ภาพตรง และ 4 ภาพสลับหลัก ออกรางวัลทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน
 
5. เงินรางวัลที่จะได้รับ
 
สัดส่วนเงินรางวัลคือ 60% จากยอดจำหน่าย (100 ล้าน = 60  ล้าน) และนำมาจัดสรรให้รางวัล 4 ภาพตรง 50% และรางวัล 4 ภาพสลับหลัก 50% โดยการจ่ายเงินรางวัลจะผันแปรกับจำนวนผู้ถูกรางวัล และจ่ายเต็มจำนวนให้ผู้ถูกรางวัล
 
ยกตัวอย่าง 20,736 รายการ รายการละ 50 บาท ยอดจำหน่ายคือ 1,036,800 บาท  เมื่อคำนวนตาม 60% ตามสัดส่วนเงินรางวัล จะเท่ากับ 622,080 บาท จากนั้นต้องแบ่งสัดส่วนเงินรางวัล 4 ภาพตรง และ 4 ภาพสลับ คือ 311,040 บาท
 
โดยเงินรางวัลจะเฉลี่ยตามยอดขายในแต่ละงวด ซึ่งเชื่อว่าจะลดปัญหาการขายสลากเกินราคา แก้ปัญหาหวยใต้ดิน ทั้งนี้หากในงวดนั้นไม่มีผู้ถูกรางวัล จะนำเงินรางวัลสมทบในงวดถัดไปอีกด้วย
 
6. ข้อดีของหวย 12 นักษัตร


ภาพจาก bit.ly/2MDAdNX
 
ข้อดีที่น่าสนใจคือผู้เล่นสามารถเลือกภาพได้ตามความต้องการ และไม่มีปัญหาเลขไม่สวยหรือเลขเน่า อีกทั้งยังเป็นเกมใหม่ ไม่อ้างอิงตัวเลข ซื้อและจำหน่ายได้ตามความต้องการของผู้บริโภค
 
และน่าสนใจสุดๆคือการการจ่ายเงินรางวัลผันแปรตามจำนวนผู้ถูกรางวัล และหากปรากฏว่าไม่มีผู้ถูกรางวัลในงวดนั้นก็จะมีการทบเงินรางวัลไปในงวดถัดไปเหมือนกับลอตโตในต่างประเทศ
 
7. โพลสำรวจชี้คนส่วนใหญ่กลับไม่เห็นด้วย


ภาพจาก Thai Post
 
สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยว่า จากผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เสียงประชาชนกับหวย 12 นักษัตร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,503 ตัวอย่าง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.8 ระบุหวยรูปแบบใหม่ เช่น 12 นักษัตร เป็นการมอมเมาประชาชน ในขณะที่ร้อยละ 27.2 ระบุสว่าไม่เป็นการมอมเมา นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 75.0 ระบุไม่เห็นด้วยต่อการออกหวยรูปแบบใหม่
 
8. ส่อเค้าวุ่นนักวิชาการและนักกฏหมายออกมาต่อต้าน


นายศรีสุวรรณ จรรยา
ภาพจาก MThai News
 
เริ่มจากนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ตั้งโต๊ะให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อคัดค้านการออกหวยรูปภาพ 12 นักษัตรของสำนักงานกองสลากรัฐบาล ปรากฏว่ามีประชาชนทยอยมาลงชื่อคัดค้านอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าการออกสลากรูปภาพ 12 นักษัตรส่อขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2560 หลายมาตรา
 
เช่นเดียวกับนายสมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการด้านเด็กและเยาวชน ที่ขอคัดค้านการออกหวย 12 นักษัตร เพราะจะยิ่งทำให้เด็กและประชาชนเล่นง่ายและเล่นมากขึ้น เพราะใช้การ์ตูน 12 นักษัตร ซึ่งเด็กชอบการ์ตูน
 
ขณะเดียวกันคนไทยทุกคนก็มีปีเกิดนักษัตร ซึ่งเป็นเครื่องล่อใจให้ซื้อหวยประจำปีนักษัตรตนเอง และการใช้แอปพลิเคชันในการขายหวยก็เข้าถึงง่าย ราคา ต่อหน่วยก็ไม่แพง มองว่าเป็นการได้ไม่คุ้มเสียต่อเด็กๆและเยาวชนเป็นสำคัญ
 
9. อัตราเสี่ยงต่อการถูกรางวัล 1:20,000


ภาพจาก bit.ly/2YkAPz8
 
นอกจากประเด็นเรื่องการมอมเมาที่หลายคนออกมาต่อต้าน อัตราการถูกรางวัลก็เป็นสิ่งที่พูดถึงกันมาก ด้วยมองว่าสลากแบบ 12 นักษัตรโอกาสการถูกรางวัลยากกว่าที่ผ่านมา เช่น หวยบนดินที่เคยออกขาย 2 ตัว 3 ตัว โอกาสถูกรางวัลอยู่ที่ 1 ใน 100 และ 1 ใน 1,000 แต่ สลากแบบ 12 นักษัตร โอกาสถูกมีเพียง 1 ใน 20,000 เพราะสลากรูปภาพ 12 นักษัตรจะมีทั้งหมด 4 หลัก แต่ละหลักจะใช้รูปภาพออกรางวัลทั้งหมดหลักละ 12 ภาพ
 
ผู้ซื้อต้องเลือกภาพไปใส่ในแต่ละหลักให้ครบทั้ง 4 หลัก จำนวน 4 ภาพ และเลือกรูปซ้ำกันได้ ทั้งนี้ จะทำให้มีรูปแบบในการซื้อทั้งหมด 20,736 รูปแบบ ดังนั้น อัตราการถูกรางวัลภาพตรงจึงอยู่ที่ 1 ต่อ 20,736 รูปแบบ ส่วนอัตราการถูกภาพสลับหลักทั้งหมดจะอยู่ที่ 42 ต่อ 20,736 รูปแบบ
 
10. โอกาสฝันค้างมีสูงมาก


ประธานบอร์ดกองสลากฯ
ภาพจาก bit.ly/31obC45
 
กรณีนี้ดูเหมือนว่าสลาก 12 นักษัตรจะมีโอกาสที่ทำให้คนที่ติดตามเชียร์ให้เกิดขึ้นจริงมีโอกาสฝันค้างสูงมากเนื่องจากประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงด่วนกรณีสลากรูปภาพ 12 นักษัตร ที่มีเสียงต่อต้านหนาหูและมีกระแสสังคมคัดค้าน
 
โดยประธานบอร์ดกองสลากได้พูดในทำนองว่าเรื่องดังกล่าวนี้ยังไม่ได้ชัดเจนหรือฟันธงว่าจะต้องทำแน่นอน ทุกอย่างเป็นเพียงแนวคิดเพียงแต่อาจจะคิดเสียงดังไปหน่อย และเรื่องนี้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายรวมถึงต้องฟังเสียงประชาชนโดยส่วนใหญ่ด้วย
 
ท่ามกลางเกมส์การเมืองที่ตอนนี้เพิ่งได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ เชื่อว่าคงยังไม่กล้าพอที่จะสวนกระแสทำอะไรที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจ หลายๆ มาตรการในตอนนี้น่าจะเป็นเหมือนการโยนหินถามทางจากรัฐบาลสู่ประชาชนประเทศไทยได้ชื่อว่าสภาพสังคมมีความเปราะบางและพร้อมจะแตกร้าวได้ทุกเมื่อ อะไรก็ตามที่จะดำเนินการต่อจากนี้เชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่จะผ่านความคิดประชาชนได้ง่ายๆ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาคนไทยส่วนใหญ่รอคอยการแก้ปัญหาที่ถูกต้องถูกจุดในเรื่องปากท้อง และเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะสำคัญกว่าเรื่อง “หวย 12 นักษัตร” ที่ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นไปได้ยากมากสำหรับเมืองไทยในยุคนี้
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ bit.ly/2Jf8ph8
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
793
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
710
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
641
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
522
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
441
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
421
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด