บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.6K
4 นาที
8 ตุลาคม 2562
13 เครื่องมือตลาดโซเชียลที่คนทำธุรกิจ E-Commerce ห้ามพลาด!


หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดย่อม หรือ Solopreneur (เป็นเจ้าของธุรกิจที่ทำงานและดำเนินธุรกิจเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น นักแปลอิสระและที่ปรึกษาที่เหมาะสมภายใต้หมวดหมู่การทำงาน) หากคุณเป็นบุคคลจำพวกนี้ล่ะก็ คุณก็ห้ามพลาดกับ 13 เครื่องมือสื่อโซเชียลมีเดียที่จะช่วยให้คุณสามารถกับจัดการตลาดทางด้านสื่อออนไลน์ได้
 
1. Canva


Canva เป็นแอปพลิเคชันสำหรับสร้างแบรนเนอร์หรือสื่อการนำเสนอหลากหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น Presentation, Poster, Card, Resume, Certificate, Infographic เป็นต้น ซึ่ง Canva นั้นจะมีขนาดมาตรฐานให้เลือกหรือผู้ใช้สามารถกำหนดขนาดเองได้ อีกทั้ง Canva นั้นใช้งานได้ง่าย สวยงาม สามารถแบ่งปันให้แก่ผู้อื่นได้
 
ซึ่งระบบนี้เหมาะมากสำหรับการใช้เพื่อสร้างโพสต์โซเชียลมีเดีย, อินโฟกราฟิก , แบนเนอร์โซเชียล, ภาพขนาดย่อและอื่น ๆคุณสามารถปรับแต่งสีรูปภาพและข้อความบนเทมเพลตได้ตามต้องการ เพื่อจับคู่แบรนด์ธุรกิจของคุณและโพสต์ลงสื่อโซเชียลมีเดียให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นไปอีก
 
2. Feedly


Feedly เป็นแอปพลิเคชันสำหรับ การบริการอ่านข่าวฟีด ข่าวออนไลน์ ที่รองรับหลายแพลตฟอร์ม จุดเด่นของ Feedly นั้นก็คือ บริการฟรีเหมือน Google ซึ่งสามารถรองรับได้หลายแฟลตฟอร์ม และหลายบราวเซอร์ อย่างเช่น iOS และ Android อีกทั้งยังช่วยให้การอ่านข่าวฟีด น่าสนใจมากขึ้นด้วยการจัดวางบทความในรูปแบบคล้ายหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารและสามารถแบ่งปันเนื้อหานั้นกับผู้ชมของคุณบน Facebook, Twitter, LinkedIn และเครือข่ายชั้นนำอื่นๆได้อีกด้วย
 
อีกทั้งคุณยังสามารถใช้บทความเหล่านี้ สร้างความน่าสนใจสำหรับประเภทของผลิตภัณฑ์ที่คุณขาย ซึ่งคุณสามารถจัดเก็บได้ที่ Dropshipping ตัวอย่างเช่น หากคุณมีร้านขายเสื้อผ้าผู้หญิง คุณสามารถแชร์โพสต์จากบล็อกและสิ่งพิมพ์ออนไลน์ที่พูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มแฟชั่นที่ร้อนแรงที่สุดประจำฤดูกาลนี้ได้ในฐานะเจ้าของร้านค้า ซึ่งผู้ค้าปลีกออนไลน์จำนวนมากใช้เทคนิคการดูแลเนื้อหานี้เพื่อให้ผู้ชมมีส่วนร่วมและมีความสนใจ
 
3. Post Planner


ตัวเลือกในการหาเนื้อหาที่จะใช้ร่วมกันบนสื่อสังคมก็คือ การโพสต์วางแผน ซึ่ง Post Planner จะช่วยตอบโจทย์ให้คุณได้ค้นหาเนื้อหาที่มีแนวโน้มมากที่สุด รูปภาพและบทความที่เกี่ยวข้องกันกับหัวข้อที่กำหนดไว้ คุณสามารถค้นหาเนื้อหาด้วยการค้นหาคำหลักหรือโดยการเรียกดูหน้าอุตสาหกรรม เมื่อคุณพบสิ่งที่คุณต้องการ คุณสามารถแชร์ให้ผู้ชม Facebook, Twitter และ Pinterest ได้ทันที สำหรับเจ้าของร้าน E-Commerce ต้องการดูแลเนื้อหาส่วนใหญ่บนโซเชียลมีเดียแล้วล่ะก็ Post Planner น่าจะตอบโจทย์ของทุกท่านได้เป็นอย่างดี
 
4. Buffer


Buffer มีอินเตอร์เฟซที่เรียบง่าย สะอาดตา และใช้งานง่าย มันอาจดูเหมือนว่าขาดฟังก์ชั่นอื่นๆไปเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ อย่างเช่น Hootsuite ที่กำลังจะกล่าวถึงในบทความถัดไป แต่หากมันมีราคาที่สบายกระเป๋ากว่า ใช้งานง่ายกว่า และมีฟีเจอร์หลักๆที่คุณต้องการเพื่อใช้จัดการเครือข่ายทางสังคมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มการโพสต์โซเชียลมีเดียทั้งหมดล่วงหน้า เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้อง "จำ" เพื่อกำหนดเวลาในการโพสต์หรือเพื่อให้คุณสามารถโพสต์ได้ในเวลาที่แน่นอนโดยไม่ต้องทำด้วยตนเอง
 
5. HootSuite

Hootsuite เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยจัดการในด้านของสื่อสังคมออนไลน์ ที่ช่วยในการใช้งานบนโซเชียลต่าง ๆ สามารถแบ่งปันภาพถ่ายในเครือข่ายทางสังคมได้ในแอพเดียว และยังสามารถจัดการกับบัญชีเครือข่ายสังคมได้ เช่น Facebook  Instagram Twitter สามารถตรวจสอบแบรนด์ของผู้ใช้ได้บนโซเชียลที่ใช้งานและจะมีการแจ้งเตือนเมื่อมีผู้สนใจมาพูดคุยในแบรนด์ของผู้ใช้อีกด้วย
 
6. Sprout Social


Sprout Social นั้นเป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถกำหนดเป้าหมายไปที่องค์กรขนาดใหญ่ที่มีเงินสด ด้วยราคาที่สูงขึ้นยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่ใช้งานง่ายและยังนำเสนอฟีเจอร์มากมาย รายงานการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม เป็นเครื่องมือการเผยแพร่ที่ยอดเยี่ยมอีกเครื่องมือหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาดออนไลน์
 
แม้แต่ Social CRM เองก็ยังมีคุณสมบัติที่ดี ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างโปรไฟล์ รวมถึงประวัติของการสนทนา ข้อมูลการติดต่อ และบันทึกภายในเกี่ยวกับพวกเขาในเครือข่ายของคุณ ซึ่งแพคเกจที่สมบูรณ์แบบนี้ทำให้การเผยแพร่และการจัดการทำได้โดยง่าย 
 
7. CoSchedule


CoSchedule เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่จะช่วยให้คุณจัดการแผนการตลาดทั้งหมดของคุณ โดยจัดทำปฏิทินการตลาดแบบรวมศูนย์จัดตารางเวลาโซเชียลมีเดียที่ครอบคลุมและแดชบอร์ดการวิเคราะห์ คุณสามารถกำหนดเวลาเนื้อหาสำหรับเครือข่ายหลักทั้งหมดและโพสต์ในเวลาที่เหมาะสมโดยใช้คุณสมบัติการตั้งเวลาที่ดีที่สุดของ CoSchedule คล้ายกับ MeetEdgar และ CoSchedule ทำให้ง่ายต่อการนำเนื้อหามาใช้ซ้ำ คุณสามารถตรวจสอบการวิเคราะห์และประสิทธิภาพของแคมเปญได้ในแผงควบคุม Analytics
 
8. MeetEdgar


MeetEdgar เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการ Social Media ที่คุณสามารถตั้งเวลาโพสต์คอนเทนต์ลงบน Accounts ต่างๆของคุณได้ จึงช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการบริหารจัดการข้อมูลบน Social Media ได้อย่างมากทีเดียว
 
ข้อดีของ MeetEdgar คือสามารถนำเอาคอนเทนต์ที่เคยเผยแพร่ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโพสต์ที่เป็นข้อความ รูปภาพ วิดีโอ มาจัดคิวโพสต์ซ้ำเรื่อยๆ โดยบนหน้า Feed จะมียอด Reach แบบ Organic เพิ่มมากขึ้น แต่มีข้อจำกัดอย่างนึงคือ MeetEdgar สามารถจัดการ Social Media ได้เพียง 4 ช่องทางนั่นคือ Facebook, Twitter, LinkedIn และ Instagram เพียงเท่านั้น
 
9. Nuvi


Nuvi เป็นแอปพลิเคชั่นที่จะช่วยในการจัดการ การรับฟังโซเชียลมีเดีย การวางแผน การเผยแพร่ การมีส่วนร่วม และการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการกล่าวอ้างถึงชื่อเสียง Nuvi จึงทำตัวเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ให้ความสามารถในการฟังโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ ซึ่งหมายความว่า แทนที่จะรอความล่าช้าของแพลตฟอร์มการฟังโซเชียลมีเดียอื่นๆ คุณจะสามารถก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับชื่อเสียงของแบรนด์ของคุณ รวมถึงใช้ประโยชน์จากเทรนด์ของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว 
 
10. Proprietary Analytics


Proprietary Analytics เป็นเครื่องมือที่จะช่วยใช้ในการการตรวจสอบการวิเคราะห์สื่อโซเชียลของคุณด้วยการวิเคราะห์ในตัวที่นำเสนอโดย Facebook , Twitter , Instagram , Pinterest และเครือข่ายโซเชียลอื่นๆ ในการเข้าถึงการวิเคราะห์เหล่านี้ คุณจะต้องใช้คุณสมบัติทางธุรกิจที่ได้รับมาจากแต่ละเครือข่าย ยกตัวอย่างเช่น Facebook หรือบัญชีธุรกิจบน Instagram และ Pinterest เป็นต้น
 
โดยจะรายงานการวัดเปรียบเทียบ การเข้าถึง การเติบโตของผู้ชมเนื้อหา การมีส่วนร่วมของโซเชียลมีเดีย และการดำเนินการ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ระบุประเภทของการกระทำและการมีส่วนร่วมของแต่ละเครือข่ายสังคมในการวิเคราะห์นั้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่น จำนวนไลค์หรือจำนวนคนที่พูดคุยเกี่ยวกับเพจของคุณ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณในแต่ละเครือข่ายสังคมที่ใช้เพื่อกำหนดสิ่งที่ทำ ดังนั้น การโพสต์จึงเป็นที่นิยมหรือสิ่งที่ทำให้บัญชีใดบัญชีหนึ่งเป็นผลการค้นหาที่ดีกว่าแบบอื่น
 
11. Google Analytics


Google Analytics คือ เครื่องมือให้ใช้ฟรีของเครือข่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Google ที่ช่วยเจ้าของเว็บไซต์ในการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เพื่อที่จะนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ปรับปรุงในส่วนงานต่างๆไม่ว่าจะเป็น การทำการตลาด การซื้อโฆษณา การปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ และการหาสิ่งที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์สนใจ ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการ รวมถึงเนื้อหาต่างบนเว็บไซต์ของเรา
 
กล่าวโดยสรุปก็คือ Google Analytics เป็นเครื่องมือช่วยในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่จะทำให้เราทราบถึงปัญหาหรือโอกาสที่มีอยู่ และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ เพื่อจะทำให้ธุรกิจเติบโตและมียอดขายเพิ่มขึ้นนั่นเอง
 
12. Social Report


เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์โดยบุคคลที่สามที่ให้คุณรวมการวิเคราะห์โซเชียลมีเดียของคุณในแดชบอร์ดเดียว สำหรับเจ้าของร้าน E-Commerce สิ่งนี้ทำได้ง่าย อีกทั้งคุณยังสามารถดูรายงานและรับการวิเคราะห์จากเว็บไซต์ร้านค้าและเครือข่ายของคุณเพิ่มเติมได้ในที่เดียว
 
หรือหากคุณต้องการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดเผยและการมีส่วนร่วมทางธุรกิจออนไลน์ของคุณ คุณก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มาก เนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้แต่ละแหล่งของการวิเคราะห์แยกต่างหากในแต่ละวัน
 
13. Shopify & Social


Shopify เป็นบริการเปิดร้านค้าออนไลน์ที่มีรูปแบบของหน้าเว็บให้คุณเลือกสรรมากมาย จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังคิดขายของออนไลน์แต่ยังไม่มีประสบการณ์ในการสร้างเว็บไซต์ นอกจากนี้ Shopify ยังเชื่อมต่อระบบการจ่ายเงินที่มีมากถึง 70 ช่องทาง และมีภาษาให้เลือกมากกว่า 50 ภาษา ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่จะขายสินค้าให้กับลูกค้าต่างชาติและด้วยความที่ Shopify มีเครื่องมือในการบริหารเว็บที่ดี
 
รวมถึงมีฟีเจอร์และเครื่องมือทางการตลาดที่น่าสนใจมากมาย เช่น มีระบบอัตโนมัติที่แจ้งเตือนไปยังลูกค้าที่ยังทำการสั่งซื้อไม่ครบขั้นตอน ทำให้เว็บไซต์ปรากฏอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของผลการค้นหาผ่านบรรดา Search engine อย่าง Google Yahoo รวมถึงมีเครื่องมือการวิเคราะห์ยอดขาย เป็นต้น
 
ด้วยความที่ Shopify มีเครื่องมือทางการตลาดที่น่าสนใจอย่างฟีเจอร์ SEO ที่จะทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนหัวเรื่องหรือหัวข้อต่างๆเพิ่มเติมได้มากขึ้น เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกๆของการค้นหาใน Search engine นอกจากนี้ลูกค้าของคุณยังสามารถโพสต์รีวิวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณได้ด้วย ทำให้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เจ้าของร้านใน Shopify ยังสามารถแจกคูปองหรือบัตรกำนัลเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆและรักษาฐานของลูกค้าเดิมได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น มันยังสามารถเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดีย ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
 
จะเห็นได้ว่าในการประกอบทุกธุรกิจออนไลน์ สื่อและเครื่องมือทางโซเชี่ยลมีเดียก็สำคัญเช่นกัน เพราะพวกเขาสามารถติดตามยอดสต๊อกสินค้า การเลือกดูสินค้า หรือรับรู้ความสนใจในตัวของสินค้าของตนเองนั้นได้เป็นอย่างดี
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 
SMEs Tips
  1. Canva
  2. Feedly
  3. Post Planner
  4. Buffer
  5. HootSuite
  6. Sprout Social
  7. CoSchedule
  8. MeetEdgar
  9. Nuvi
  10. Proprietary Analytics
  11. Google Analytics
  12. Social Report
  13. Shopify & Social
ที่มา :
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
793
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
710
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
641
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
522
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
441
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
421
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด