บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การขาย
2.2K
4 นาที
8 ตุลาคม 2562
แชร์! 20 เทคนิค ขายของดีเป็นเทน้ำเทท่า


การขายของนั้นหาใช่ว่าจะเป็นแค่การนำเอาสินค้าไปวางขาย และรับเงินแลกกับสิ่งของเพียงเท่านั้น ดังนั้นแล้วการจะขายให้ได้และขายให้ดียิ่งขึ้นไปอีก จำเป็นที่จะต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ และปัจจัยต่างๆ ประกอบด้วย ดังนั้นแล้วในบทความนี้ก็จะขอนำเสนอ 20 เทคนิคที่จะทำให้ของที่คุณขายนั้นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ 

1.เลือกขายของที่จำเป็น
 

การขายของที่จำเป็นต้องใช้อาจมีแนวโน้มที่จะขายดีมากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจแบบในปัจจุบันนี้) เพราะเมื่อผู้คนมีความจำเป็นต้องใช้สินค้านั้นๆ ก็ต้องมีการซื้อเป็นธรรมดา  ในขณะที่สินค้าฟุ่มเฟือยนั้นไม่ใช่ของที่จำเป็นต้องมีเสมอไป ดังนั้นแล้วการขายสินค้าที่จำเป็นต้องใช้มันจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะขายได้มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย
 
2.เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า

การที่สินค้าจะขายดี ส่วนหนึ่งก็คือสินค้านั้นๆ จะต้องตอบสนองพฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคได้ ดังนั้นแล้วพ่อค้าแม่ขายก็ควรจะศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ว่าชอบ หรือไม่ชอบอะไร มี Lifestyle แบบไหน หรือเลือกซื้อสินค้าอย่างไร และนำเอาสิ่งที่ศึกษามาปรับใช้ให้สินค้านั้นสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้
 
3.อย่าขายสินค้าที่ตามกระแสจนเกินไป
 

อันที่จริงการอัพเดทสินค้าตามเทรนยุคสมัยก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ควรจะดูด้วยว่าในท้องตลาดมีวางขายแล้วมากน้อยแค่ไหน สินค้าบางอย่างก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนถึงขั้นไปที่ไหนก็มีวางขายที่นั้น และวางขายกันแทบทุกร้าน ปัญหาที่จะตามมาก็คือ การแข่งขันสูง จนถึงขั้นตัดราคาแข่งขันกันก็มี และผลลัพธ์ที่ตามคือ ขายแล้วไม่ได้กำไร หรือบางครั้งกระแสมาเร็วไปเร็ว  ซื้อสินค้ามาตุนไว้มากมาย จนกระแสนั้นซาลงไปแล้วสินค้ายังขายไม่หมด กลายเป็นว่าทุนจมไปกับสินค้าอีกต่างหาก
 
4.เกี่ยวกับสินค้าตามฤดูกาล
 
สินค้าบางอย่างก็ขายดีตามฤดูกาล แต่หากเมื่อพ้นช่วงฤดูกาลนั้นๆ ไปแล้ว ยอดขายก็อาจจะตกลงไป อย่างเช่น น้ำแข็งไส ที่จะขายดีในฤดูร้อน แต่พอพ้นช่วงฤดูร้อนไป ยอดขายของน้ำแข็งไสก็ตกลง เป็นต้น ดังนั้นแล้วหากอยากจะขายได้ทั้งปี ก็ควรจะนำเอาสินค้าอย่างอื่นที่ไม่อิงตามฤดูกาลแวะเวียนมาขายบ้าง
 
5.พลิกแพลง อย่ายึดติดกับสูตรสำเร็จเดิมๆ
 

คนค้าขายบางคนที่ขายของมานานอาจจะยึดติดกับสูตรสำเร็จแบบเดิมๆ อาจเป็นเพราะว่าการขายด้วยวิธีนั้นๆ ทำให้ขายดีอยู่เรื่อยมา หรือสินค้านั้นๆ ขายดีอยู่แล้วจึงขายสินค้าชนิดนั้นอยู่เรื่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่าการพลิกแพลงปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์หรือยุคสมัยก็อาจทำให้สินค้าที่ขายอยู่นั้นขายดีอยู่ก็ได้ ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ใหญ่อย่าง “ศรีจันทร์” ที่จำหน่ายแป้งในบรรจุภัณฑ์แบบดั้งเดิมมานาน และต่อมาก็มีการใช้กลยุทธ์ Rebrand ปรับภาพลักษณ์สินค้าให้มันสมัยมากขึ้น และผลที่ได้คือภาพลักษณ์ใหม่ของศรีจันทร์เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก และมียอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย
 
6.ราคาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
 
สิ่งหนึ่งที่ลูกค้าจะพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ในการเลือกซื้อสินค้านั่นก็คือ “ราคา” ซึ่งส่วนมากลูกค้าก็จะพิจารณาเลือกซื้อสินค้าตรงที่ราคาถูก หากมีสินค้าชนิดเดียวกัน คุณภาพเท่ากัน ลูกค้าก็จะเลือกซื้อสินค้าที่ราคาถูกกว่า ดังนั้นแล้วการตั้งราคาสินค้า จึงควรตั้งราคาที่ไม่สูงมากนัก หรือเหมาะสมกับสินค้าเข้าไว้ ไม่ควรตั้งให้สูงจนเกินไป ไม่เช่นนั้นแล้วจะสู้คู่แข่งในตลาดได้ยาก
 
ผู้อ่านท่านใดสนใจศึกษาเกี่ยวกับการตั้งราคาสินค้าเพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ในบทความนี้ : https://bit.ly/30P0zkz
 
7.บริการเต็มที่
 

ผู้ที่มีทักษะ และหัวใจในการบริการ ไม่ว่าจะทำอาชีพไหนก็ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก รวมถึงการค้าขายก็ด้วยเช่นกัน เหล่าผู้ขายควรมีฝึกฝนการบริการลูกค้าที่ดี เพื่อที่ลูกค้าจะได้เกิดความประทับใจ และมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้านั้นๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้มาซื้อเพียงแค่ครั้งเดียว แต่อาจจะติดใจ จนกลับมาเป็นลูกค้าประจำเลยก็ได้!
 
8.หาลูกค้าประจำ
 
ข้อนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับข้อ 7 อยู่เล็กน้อย เพราะการหาลูกค้าประจำส่วนหนึ่งก็เกิดจากการสร้างความประทับใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้าจนกลับมาซื้อสินค้านั้นซ้ำนั่นเอง โดยประโยชน์ของการหาลูกค้าประจำนั่นก็คือ เมื่อเกิดลูกค้าประจำ คุณก็จะมีฐานลูกค้าที่ซื้อสินค้าของคุณอย่างเหนียวแน่น และทำให้ยอดขายค่อนข้างมั่นคงอยู่ในระดับหนึ่งนั่นเอง
 
9.เลือกทำเลดี
 

ทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง โดยคุณควรพยายามเลือกหาทำเลที่เห็นง่าย มีคนเดินผ่านเยอะ และเดินทางสะดวก นั่นจะเพิ่มโอกาสให้ผู้คนได้เห็นสินค้า หรือเลือกซื้อสินค้าของคุณ และนำไปสู่การมียอดขาย และรายได้ที่ดีอีกด้วย

10.มีป้ายบอกชัดเจน
 
การมีป้ายบอกชัดเจน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าคุณมากขึ้น ทั้งป้ายชื่อร้าน ป้ายบอกรายละเอียดสินค้า หรือป้ายบอกราคาสินค้า ควรมีรายละเอียดที่ชัดเจน ลูกค้าอ่านแล้วเข้าใจได้เลย  และในทางตรงข้าม หากมีป้ายบอกไม่ชัดเจน ไม่บอกราคา ไม่บอกรายละเอียดสินค้า ลูกค้าก็อาจไม่เข้าใจรายละเอียดของสินค้านั้นๆ จนลังเลที่จะซื้อในที่สุด
 
11.สร้างจุดสนใจ
 

สร้างจุดสนใจให้ทั้งตัวร้าน ตัวสินค้า ตัวคนขาย หรือแม้แต่กลยุทธ์การขายเองนั้นสามารถทำให้ลูกค้าเกิดความสะดุดตาจนต้องมาให้ความสนใจกับร้านนั้นๆ ได้อย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อลูกค้าเกิดความสนใจ ก็อาจเข้ามาดูสินค้าในร้านนั้นๆ จนอาจนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ด้วย! เช่น ร้านชาชัก ที่มีเอกลักษณ์เด่นอยู่ที่ขั้นตอนในการทำที่คนขายจะเทเครื่องดื่มจากกระบอกหนึ่งไปอีกกระบอกหนึ่ง โดยระหว่างเทจะยกถุงชาขึ้นมาสูงๆ เพื่อให้ชาสัมผัสกับอากาศจนทำให้เกิดความหอมของกลิ่นชาได้ดีมากขึ้น เป็นต้น
 
12.ยิ้มแย้มแจ่มใส

ความยิ้มแย้มแจ่มใส จะทำให้ผู้ซื้อมีความรู้สึกว่าคนขายนั้นๆ มีความเป็นมิตร และน่าเดินเข้าไปเลือกหาสินค้ามากกว่าร้านที่คนขายหน้าตาบึ้งตึง และในทางตรงกันข้าม การทำหน้าตาบึ้งตึงจะทำให้ลูกค้าเกิดความยำเกรง และไม่กล้าเข้าหาเอาได้เพราะกลัวว่าคุณอาจจะอารมณ์เสียใส่ลูกค้าหรือเปล่า ดังนั้นแล้วเพื่อยอดขายที่ดี ก็ควรจะยิ้มแย้มแจ่มใส ให้ลูกค้ากล้าเข้าหาได้จะดีกว่า
 
13.สภาพร้านน่าเข้า
 

 
ควรมีการจัดร้านไห้ดูดีและวางขายสินค้าให้ดูโดดเด่นน่าสนใจซักนิด เพื่อที่ลูกค้าจะได้รู้สึกว่าสินค้าร้านนั้นๆ มีความน่าสนใจ และเกิดความอยากเข้าไปดู และนอกจากการตกแต่งที่ดูทำให้ร้านนั้นน่าเข้าแล้ว ก็ควรจะรักษาความสะอาดของร้านด้วย เพราะถ้าหากร้านนั้นสกปรก ก็คงจะไม่มีลูกค้าคนไหนอยากจะเดินเข้าร้านนั้นๆ เป็นแน่
 
14.ควรรู้ว่าทำไมลูกค้า “ซื้อ” หรือ “ไม่ซื้อ” สินค้าคุณ
 
มันคือการวิเคราะห์ทั้งสินค้าและเหล่าลูกค้าไปควบคู่กัน ซึ่งหลักใหญ่ๆ ผู้ขายอาจจะคิดว่า การที่ลูกค้าเลือกซื้อสินค้านั้นๆ ก็เพราะว่าอยากได้สินค้านั้นๆ แต่อันที่จริงแล้วปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของลูกค้ามีมากกว่านั้น เช่น การบริการ , ราคา , คุณภาพ หรือแม้กระทั่งกลยุทธ์การขายและทำเลก็ตาม เรียกได้ว่า ข้อนี้เป็นการพิจารณาองค์ประกอบในการขายอย่างรอบด้านเลยทีเดียว

15.มีลีลาในการขาย
 

ค่อนข้างสอดคล้องกับข้อ 11 แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวคนขายโดยตรง ซึ่งการที่คนขายมีบุคลิกโดดเด่น น่าสนใจ ก็อาจเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถดึงดูดลูกค้าให้สนใจได้เป็นอย่างดี เช่น เจ๊น้ำ ณัฐนัน ต้นศึกษา ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมากในเฟซบุ๊ก ด้วยลีลาการขายที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร พร้อมกับคำพูดที่ฟังดูติดหู ดูสนุกสนาน จึงทำให้มีคนสนใจเป็นจำนวนมากและมีคนเข้าไปชมการ live สดขายเสื้อผ้าของเธอเป็นจำนวนมาก เป็นต้น 
 
16.จัดโปรโมชั่นกระตุ้นการซื้อ

บางทีลูกค้าก็อยากได้สิทธิพิเศษในการซื้อสินค้านั้นๆ บ้าง โดยการจัดโปรโมชั่น เช่น การลดราคา การมีของแถม หรือกลยุทธ์ซื้อ 1 แถม 1 ก็ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ห้างร้านนิยมนำเอามาใช้ ซึ่งการจัดโปรโมชั่นนั้นส่วนมากจะนิยมจัดขึ้นเนื่องในโอกาสพิเศษ เช่น โปรโมชั่นเปิดร้าน หรือโปรโมชั่นวันปีใหม่ เป็นต้น
 
17.นำเสนอสินค้าแก่ลูกค้าอย่างใกล้ชิด
 

เทคนิคนี้ค่อนข้างเหมาะกับร้านค้าที่มีหน้าร้านมากกว่า โดยการนำเอาตัวอย่างสินค้ามาให้ลูกค้าได้ชม , ชิม หรือได้ทดลองใช้ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้านั้นได้เร็วขึ้น  เพราะลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าจริงๆและสามารถรู้ได้ทันทีว่าสินค้าเหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ จึงทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
 
18.มีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว
 
ในที่นี้หมายถึงการมีทักษะที่รับรู้ได้ว่าอะไรสวย หรือไม่สวย  รวมไปถึงอะไรที่ลูกค้าจะถูกใจ เพราะนั่นเป็นประโยชน์ไม่น้อยเลยในการสร้างภาพลักษณ์ทั้งสินค้าและตัวร้านให้ดึงดูดใจและน่าเข้าไปเลือกซื้อสินค้า และเป็นประโยชน์มากๆ ในการสร้างเนื้อหาให้ลูกค้าได้รับรู้สินค้าและบริการนั้นๆ อย่างสร้างสรรค์ เพราะการมีศิลปะในการสื่อสารนั้นเป็นประโยชน์ต่อการดึงดูดกลุ่มผู้รับสารอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ
 
19.หาคนมาช่วยขาย
 

ผู้ขายบางคนอาจไม่ได้ทำได้ทุกอย่าง โดยอาจมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการขายที่ไม่ถนัดก็เป็นได้ ดังนั้นแล้วการหาผู้ช่วยที่มีความคล่องแคล่ว หรือชำนาญในด้านการขาย หรือการเรียกลูกค้า ก็อาจเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะให้ช่วยให้การขายนั้นๆ บรรลุผลตามเป้าด้วยดีก็เป็นได้
 
20.ใช้ social media ช่วยขาย
 
ในสมัยนี้ช่องทางในการขายมีเยอะแยะมากมายทั้งตามท้องตลาด หรือบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งหากสินค้าของคุณมีหน้าร้านที่ขายประจำอยู่แล้ว การนำเอา Social Media เข้ามาช่วยก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีคนเห็นสินค้าของคุณมากขึ้น และมีโอกาสที่จะขายได้มากขึ้น โดยคุณอาจจะมีการ live สดขายของทางเฟซบุ๊ค หรือตั้งเป็นเพจ Facebook ของร้าน หรืออาจตั้งเป็นแอคเค้าท์ของร้านใน Instagram ก็ได้ 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com/document/
 
SMEs Tips
  1. เลือกขายของที่จำเป็น
  2. เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า
  3. อย่าขายสินค้าที่ตามกระแสจนเกินไป
  4. เกี่ยวกับสินค้าตามฤดูกาล
  5. พลิกแพลง อย่ายึดติดกับสูตรสำเร็จเดิมๆ
  6. ราคาดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
  7. บริการเต็มที่
  8. หาลูกค้าประจำ
  9. เลือกทำเลดี
  10. มีป้ายบอกชัดเจน
  11. สร้างจุดสนใจ
  12. ยิ้มแย้มแจ่มใส
  13. สภาพร้านน่าเข้า
  14. ควรรู้ว่าทำไมลูกค้า “ซื้อ” หรือ “ไม่ซื้อ” สินค้าคุณ
  15. มีลีลาในการขาย
  16. จัดโปรโมชั่นกระตุ้นการซื้อ
  17. นำเสนอสินค้าแก่ลูกค้าอย่างใกล้ชิด
  18. มีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว
  19. หาคนมาช่วยขาย
  20. ใช้ social media ช่วยขาย
แหล่งที่มา
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
791
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด