ทำเลแบบไหนที่พ่อค้าแม่ค้าบอกว่าอยากได้มากที่สุด? คำตอบก็ง่ายๆ แค่พื้นที่พลุกพล่าน มีคนเดินผ่านไปมาเยอะแยะ แต่ก็มีนักการตลาดที่บอกว่า คนเยอะก็ใช่จะขายดี ที่จริงแล้วควรรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายลูกค้าตัวเองคือใคร และพยายามไปเปิดร้านให้อยู่ใกล้กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจไม่ใช่ทำเลพลุกพล่านที่สุดก็ได้

 

แต่ตรรกะใดๆ www.ThaiFranchiseCenter.com ก็เชื่อว่าสุดท้ายแล้วพ่อค้าแม่ค้าก็อยากเปิดร้านในที่มีคนเดินผ่านเยอะๆ และถ้าบอกว่ามีทำเล “ข้าง 7-Eleven” น่าจะทำให้หลายคนตัดสินใจได้ไม่ยากกับทำเลดังกล่าว

 

ภาพจาก bit.ly/2q6fsS7
 

7-Eleven มีข้อได้เปรียบคู่แข่งหลายอย่าง หนึ่งในนั้น ก็คือ จำนวนสาขาที่มาก ซึ่ง 7-Eleven ยังมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าปี 2564 จะมีสาขาอยู่ที่ 13, 000 สาขา จากไตรมาสแรกของปี 2562 มีจำนวนสามารถรวมทั้งสิ้น 11,299 สาขา แบ่งเป็น ร้านสาขาบริษัท 5,095 สาขา (คิดเป็น 45%) ,ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 6,204 สาขา (คิดเป็น 55%) โดยร้านสาขาส่วนใหญ่ ยังเป็นร้านที่ตั้งเป็นเอกเทศ ซึ่งคิดเป็น 86% ของสาขาทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.

 

ไม่นับรวมเรื่องแต่ละสาขาที่ภาพรวมมียอดผู้เข้ามาใช้บริการ 7-Eleven ทุกสาขารวมไม่ต่ำกว่าวันละ 12 ล้านคนจากทั่วประเทศ ถ้านับเฉพาะรายสาขาจะมียอดผู้ใช้งานไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 คน บางทีสูงกว่า 5,000 คนต่อวัน ในบางสาขาที่อยู่ในย่านชุมชนใจกลางเมือง ทำเลดีๆ อาจมีผู้ใช้งานเกือบหลักหมื่นต่อวันก็เป็นได้  ด้วยตัวเลขคนเดินผ่านเข้าผ่านออกนี้จึงกลายเป็นอีกจุดแข็งของ 7-Eleven ที่ใครๆก็อยากมาเปิดร้านอยู่ข้างๆ เพราะหวังในเรื่องปริมาณคนที่เดินเข้า 7-Eleven โดยในกลุ่มลูกค้าเหล่านี้หากมาซื้อสินค้าจากร้านข้างๆ ที่เปิดให้บริการก็จะสร้างรายได้ต่อวันที่ดีอย่างยิ่ง

 

ภาพจาก thinkofliving.com

 

1.หากเป็นสาขาที่ CP เปิดเองต้องติดต่อทางบริษัทโดยตรง

ถ้าเป็นสำนักงานใหญ่มาเปิดเอง ผู้สนใจเช่าพื้นที่สามารถติดต่อกับทางบริษัทโดยตรงได้ที่เบอร์ 02-6779000 ในวันทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเรื่องนี้ แต่ก็ต้องพิจารณากันเป็นเคสๆ ไปเพราะบางสาขาพื้นทีก็ไม่เอื้ออำนวยให้มีการเช่าพื้นที่หน้าร้านได้ 

 

2.ติดต่อกับเจ้าของตึก หากเป็นการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์

คนต้องการเช่าพื้นที่อาจต้องติดต่อกับเจ้าของตึกที่ 7-Eleven มาเช่าพื้นที่อยู่ แต่การจะขายของหน้า 7-Eleven ก็ต้องพิจารณาก่อนว่า 7-Eleven มีข้อกำหนดประเภทสินค้าที่จะขายไว้อย่างไร และอย่าพยายามให้ซ้ำกับสินค้าที่มีใน7-Eleven ซึ่งร้านค้าที่เราเห็นหน้า 7-Eleven ส่วนใหญ่เช่น ร้านเฟรนฟรายด์ ร้านลูกชิ้นปิ้งลูกชิ้นทอด ร้านผลไม้ ร้านบะหมี่ก๋วยเตี๋ยว ไก่ย่าง เป็นต้น

 

ภาพจาก bit.ly/2JCBti0

 

ใครก็ตามที่ได้ทำเลค้าขายติดกับ 7-Eleven อย่าเพิ่งลำพองว่าเราจะขายดีแน่ๆ ทางที่ดีเมื่อมีทำเลดีก็ควรมีเทคนิคดีๆ เอาไว้ช่วยเสริมเพิ่มศักยภาพในการขายด้วย

 

 

เรารู้ดีว่า 7-Eleven ขายสินค้าแทบทุกประเภท ดังนั้นอะไรก็ตามที่เป็นสินค้ายอดฮิตใน 7-Eleven เราไม่ควรไปตั้งร้านขายแข่งเด็ดขาด เช่น เปิดร้านขายขนมขบเคี้ยว  ร้านขายเครื่องอุปโภคบริโภค ร้านขายขนมปัง เป็นต้น ร้านค้าที่จะขายสินค้าใกล้ 7-Eleven ควรให้มีความแตกต่างเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่า “เป็นสินค้าน่าสนใจและใน 7-Eleven ไม่มี” เช่น ร้านขายเสื้อผ้า ร้านลูกชิ้นน้ำจิ้มรสเด็ด  ร้านขายข้าวแกง เป็นต้น

 

ภาพจาก bit.ly/34f8Ejy

 

7-Eleven ที่มีสาขามากกว่า 10,000 แห่งและมีเป้าหมายจะถึง 13,000 แห่ง ภาพรวมคือทำเลที่ดีแต่คนที่จะเปิดร้านข้าง 7-Eleven ควรเลือก 7-Eleven ที่ดีและเหมาะสมที่สุด ด้วยเพราะ 7-Eleven บางแห่งอยู่ในย่านใกล้ตลาดสด หรือบางแห่งก็เปิดใกล้ชิดติดกัน จนลูกค้ามีทางเลือกที่จะเดินเข้า 7-Eleven ไหนก็ได้ ทำให้ความน่าสนใจของร้านค้าเราไม่เกิด ทางที่ดีควรมองหา 7-Elevenที่มีทำเลแบบเดี่ยวๆ จะดูน่าสนใจมากกว่า

 

 

จะเห็นว่าสาเหตุที่คนนิยมมาใช้บริการใน 7-Eleven เพราะสินค้าส่วนใหญ่ไซด์เล็ก ราคาไม่แพง เหมาะสมกับขนาดและราคา การเปิดร้านค้ารอบๆ 7-Eleven ก็ควรใช้จุดเด่นเรื่องนี้ พัฒนาสินค้าให้ดูมีแพคเกจน่าสนใจ อาจขายในไซด์ที่หลากหลายมีทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น และราคาก็อาจจะถูกลงมาตามขนาดสินค้าที่เล็กลง แต่อาจจะขายได้มากขึ้น รายได้ก็มากขึ้นด้วย

 

 

ลำพังแค่เปิดร้านข้าง 7-Eleven อาจไม่การันตียอดขายที่ดีได้ ทางที่ดีคือเพิ่มช่องทางการขายปัจจุบันทุกคนสนใจบริการแบบเดลิเวอรี่ เช่นเปิดร้านขายส้มตำข้าง7-Eleven ก็อาจเพิ่มลูกจ้างให้คอยส่งออร์เดอร์แก่ลูกค้าตามออฟฟิศ หรือตามคอนโดมิเนียมต่างๆ หรือเป็นร้านอาหารตามสั่งก็อาจมีบริการรับทำข้าวกล่องส่งให้ลูกค้าแบบเดลิเวอรี่ วิธีนี้นอกจากลูกค้าที่ได้จากหน้าร้านก็อาจจะมีรายได้จากลูกค้าที่เดลิเวอรี่อีกด้วย

ภาพจาก bit.ly/36paVe8

 

 

ด้วยจำนวนลูกค้าที่เดินผ่านเข้าออก 7-Eleven จำนวนมากในแต่ละวัน คนเหล่านี้อาจไม่ได้สนใจจะซื้อสินค้าจากร้านเรา แต่สิ่งที่เราจะทำและหวังผลได้คือ การแจกใบปลิว เพื่อที่สักวันคนเหล่านี้อาจจะกลายมาเป็นลูกค้าของเราได้ เมื่อเราเพิ่มช่องทางสร้างการรู้จักให้คนมากขึ้น โอกาสเพิ่มของรายได้ก็จะตามมาในอนาคตด้วย

 

 

หนึ่งในเทคนิคนอกจากเดลิเวอรี่ก็คือเรื่องการตลาดออนไลน์ที่ต้องใช้ให้เป็นไม่ว่าเราจะเป็นร้านขายข้าว ขายขนม หรือขายอะไรก็ตาม ทำเลเราดีอยู่แล้ว พิกัดคือข้าง 7-Eleven ที่แต่ละสาขาคนในพื้นที่รู้จักเป็นอย่างดี การทำตลาดออนไลน์โดยระบุพิกัดว่าร้านเราอยู่ข้าง 7-Eleven ที่นั่นที่นี่จะทำให้ลูกค้าค้นพบร้านเราได้ง่ายขึ้น

 

 

เราจะเห็นว่า 7-Eleven มีสินค้าใหม่ๆ มาอัพเดทเสมอ นั่นคือทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่จำเจกับสินค้าเดิมๆ เพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้น ร้านค้ารอบๆ7-Eleven ก็เช่นกัน ควรหมั่นพัฒนาสินค้าเสมอ อย่าขายอยู่กับสินค้าเดิมๆ ไม่ว่าจะเครื่องดื่ม  อาหาร ขนม ควรมีเมนูใหม่ๆ ออกมาสร้างสีสันต่อเนื่อง

ภาพจาก bit.ly/36nXdYU

 

 

ทำเลดี สินค้าดี ร้านก็ต้องดูน่าสนใจ การแต่งร้านให้ดูน่าสนใจในที่นี้ไม่ได้หมายถึงจะต้องแต่งร้านแบบแพงๆ หรือใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ลงทุนสูง สิ่งสำคัญคือ “ไอเดีย” เช่นร้านเครื่องดื่มชานมไข่มุก ก็อาจจะมีการตั้งโต๊ะเก้าอี้สักชุด 2 ชุด มีรูปปั้นวัวตัวเล็กๆ ร้านค้าก็ทาสีสันสวยงาม เมนูก็ออกแบบให้ดูน่ารัก แค่นี้ร้านที่มีทำเลดีเป็นทุนเดิมก็จะดูน่าสนใจมากขึ้น

 

 

สังเกตว่า7-Eleven เป็นผู้นำเรื่องโปรโมชั่นที่จะมีลดแลกแจกแถมอะไรอยู่เรื่อยๆ ร้านค้ารอบ 7-Eleven ก็ใช้จุดเด่นเรื่องนี้ทำการตลาดได้เช่นกัน โปรพื้นฐานอย่าง ลด แลก แจก แถม หากใช้ให้เหมาะสม ใช้ให้ถูกช่วงเวลา ไม่ได้ใช้พร่ำเพื่อ ก็จะกลายเป็นสีสันการตลาดที่ทำให้เรามียอดขายเพิ่มขึ้นได้แน่นอน

 

ปัจจุบันทำเลดีๆ ที่น่าสนใจหลายคนบอกว่ามักจะถูกจับจอง คนลงทุนที่มาหลังๆ ก็หาทำเลค้าขายได้ยากยิ่ง วิธีแก้ไขทำเลลำดับรองๆ ให้ขายดีก็ต้องมาโฟกัสที่วิธีการขาย เทคนิคการทำตลาดที่ต้องชาญฉลาดมากขึ้น ยุคนี้การตลาดออนไลน์สำคัญ ดีไม่ดีคนที่ทำการตลาดได้ดีอาจไม่ต้องพึ่งทำเลดีๆ เลยก็เป็นได้

 

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

 

 

ต้องการทำเลค้าขายน่าสนใจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ goo.gl/Io5k2S

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)