บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.7K
2 นาที
6 พฤศจิกายน 2562
มองอนาคตจากการวิเคราะห์เทคโนโลยีของ Ray Kurzweil
 
ภาพจาก bit.ly/2WMkoYt

ผมได้พบวิดีโอตัวหนึ่งที่ชื่อ Top 20 predictions from Kurzweil - Future Technologies เป็นการวิเคราะห์เทคโนโลยีในอนาคตของ Ray Kurzweil ซึ่งเป็นนักอนาคตศาสตร์ (futurist) เขาได้วิเคราะห์อนาคตข้างหน้าซึ่งผมดูแล้วรู้สึกว่ามีความน่าสนใจมาก 
 
ผมขอพูดถึงเฉพาะสิ่งที่เขาวิเคราะห์และคิดว่าน่าสนใจ ตัวเขาเองเคยวิเคราะห์ว่าในปีนี้ 2019 สิ่งที่จะมาคือ microcomputer ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงที่ตอนนี้โทรศัพท์มือถือต่าง ๆ มีความรวดเร็วขึ้นมาก จนกลายเป็นเหมือนว่าทุกคนมีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเอง แต่ที่ผมมองว่าน่าสนใจมากกว่าคือสิ่งที่เขาวิเคราะห์ต่อไปเกี่ยวกับเรื่องของ internet access ในปี 2020 ที่อินเทอร์เน็ตจะเข้าถึงในทุก ๆ ที่ 
 
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาบริษัทสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ได้ launch โครงการ Starlink ที่จะทำให้ทุกคนสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลก โดยได้ปล่อยดาวเทียมแบบ Low-Orbit จำนวน 60 ดวง และตามแผนการที่ตั้งไว้โครงการนี้จะสำเร็จได้ต้องมีการปล่อยดาวเทียมถึง 12,000 ดวง เพื่อให้อินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั้งโลก
 
นั่นหมายถึงจะมีโครงข่ายของดาวเทียมที่ครอบคลุมหรือห่อทั้งโลกเอาไว้ ซึ่งจะทำให้มีบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมได้ทั่วทั้งโลก ฉะนั้น โครงการ Starlink ของ Elon Musk นั้นเป็นโครงการที่น่าสนใจและสอดคล้องกับสิ่งที่ Ray Kurzweil ได้วิเคราะห์เอาไว้นั่นเอง 
 
ภาพจาก bit.ly/2WLnFHs
 
เขายังวิเคราะห์ต่อว่าในปี 2022 นั้นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ Robot จะเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น ในปี 2024 รถยนต์ไร้คนขับจะมาจริง ๆ โดยจะวิ่งกันเป็นเรื่องแบบปกติ ซึ่งดูจากแนวโน้มแล้วหลายเจ้าได้เริ่มประกาศว่าจะหยุดพัฒนาเครื่องยนต์ที่มีการสันดาปภายในแล้ว และในปี 2025 เขาพูดถึงการ implants หรือการฝังหุ่นยนต์หรือคอมพิวเตอร์เข้าไปในร่างกายมนุษย์
 
ในปี 2029 จะเป็นยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทและเก่งขึ้นอย่างมาก ที่ผ่านมาทุกคนอาจพูดถึง AI กันมาก และสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่า AI มันเก่งขึ้นและอยู่ใกล้ชิดกับเรามากขึ้นในวันนี้ก็คือ Google Duplex ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถสนทนาโต้ตอบกับมนุษย์ด้วยเสียงได้ด้วยตัวเอง อย่างการโทรนัดหมาย การจองคิว ฯลฯ ดังนั้น AI ในอีกสิบปีข้างหน้ามันจะเก่งขึ้นอีกมากอย่างแน่นอน 
 
ผมดูเส้นทางการพัฒนาเทคโนโลยี แบ่งเป็นสาย AI อย่างของ Google ก็จะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ หรืออีกสายก็คือ Robotics บริษัทที่ผลิตหุ่นยนต์ซึ่งตอนนี้เก่งมาก ๆ สามารถเดิน ตีลังกา หรือทรงตัวได้เหมือนมนุษย์ เมื่อทั้งสองอย่างนี้มารวมตัวกันมันจะเป็นเรื่องของ Robotic People การผลิตหุ่นยนต์ให้ออกมาเหมือนคน ซึ่งเขาได้วิเคราะห์ว่าจะมีในปี 2038 
 
และก่อนหน้านั้นหนึ่งปี ในปี 2037 จะเป็นเรื่องของ The Concept of Human Brain เขาบอกว่าสมองมนุษย์นั้นจะถูกแคร็กได้ เราจะสามารถเข้าไปดูข้อมูลในสมองได้ และนั่นหมายถึงข้อมูลในสมองมนุษย์ทั้งหมดจะถูกดาวน์โหลดลงมาและจัดการเก็บไว้ภายนอกได้ด้วยเช่นกัน 
 
ภาพจาก bit.ly/2PRy2YI
 
ในปี 2038 เป็นยุคที่เทคโนโลยีจะสร้างหุ่นยนต์ให้เหมือนมนุษย์มาก ๆ ซึ่งแนวคิดนี้มันก็ไปสอดคล้องกับหนังเรื่องหนึ่งที่ชื่อ Altered Carbon เป็นหนังที่พูดถึงอนาคตในยุคที่มนุษย์สามารถดาวน์โหลดข้อมูลสมองตัวเองมาไว้ในชิพเล็ก ๆ ตัวหนึ่งและฝังไว้ตรงต้นคอ และสามารถนำไปใส่ไว้ในร่างกายซึ่งก็คือหุ่นยนต์ที่เป็นเหมือน เช่น อยากเป็นผู้หญิงก็ใส่ชิพที่มีข้อมูลจากสมองของเราเข้าไปที่ต้นคอของร่างกายผู้หญิง เราก็จะกลายเป็นผู้หญิงแต่ยังมีวิธีคิดที่เป็นตัวของเราอยู่ พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นสมองของเราที่อยู่ในเปลือกของผู้หญิงนั่นเอง ตรงนี้จะเข้าไปใกล้อีกยุคหนึ่งประมาณปี 2043 ที่เรียกว่า Formlessness 
 
แต่ประเด็นที่ผมสนใจมากก็คือในปี 2042 หรืออีกประมาณ 23 ปีข้างหน้า เขาบอกว่าเราจะเข้าสู่ยุค Immortality มนุษย์จะเป็นอมตะในเชิงของความไม่มีโรคภัย จากยุคก่อนหน้าเขาได้พูดถึงเรื่อง Nanorobots ในปี 2032 ที่หุ่นยนต์จะถูกฝังเข้ามาในร่างกายและจะจัดการกับโรคต่าง ๆ เป็นการรักษาจากหุ่นยนต์ด้วยเทคโนโลยีนาโนที่จะเล็กลงมาก ๆ และเมื่อมนุษย์ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ บวกกับอาจจะมีการปรับยีนต่าง ๆ ที่ทำให้คนอายุยืนยาวขึ้น ฉะนั้น ในแง่เรื่องการเป็นอมตะนั้นน่าจะเกิดได้ง่ายมากเลยทีเดียว 
 
ในปี 2043 จะเข้าสู่ยุค Formlessness ที่บอกไปแล้วคือจะไม่มีร่างกายอีกต่อไป เราแค่ดาวน์โหลดสมองเอาไว้ในคอมพิวเตอร์ มีชีวิตอยู่ในโลกคอมพิวเตอร์ เหมือนหลับตาอยู่ในความฝัน แต่เป็นความฝันที่ไม่สิ้นสุดเพราะว่าร่างกายเราไม่มีแล้ว หรือร่างกายเราอาจเสียบปลั๊กอยู่ที่ไหนสักแห่ง มีแต่จิต อารมณ์เหมือนในเรื่อง Matrix เลย ซึ่งผมว่าตรงนั้นมีความเป็นไปได้คือเมื่อเราสามารถแคร็กสมองได้ ถูกดูดข้อมูลได้ เราจะไปอยู่ในร่างไหนก็ได้ การที่จะเป็น Formless ไม่ยากเลยทีเดียว 

ภาพจาก  bit.ly/2NGwJcy
 
และเมื่อถึงยุคหนึ่งที่ AI มันเก่งมากจนสามารถพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่มีมนุษย์มาเกี่ยวข้อง เป็นยุคของ Technological Singularity คือประมาณปี 2079-2099 เทคโนโลยีที่เก่งมากจะทำให้อัตราการเร่งของนวัตกรรมหรือการสร้างอะไรใหม่ ๆ มันจะทะยานขึ้นมาเร็วกว่าเดิมมากกว่ามาก
 
ถ้าเราอยู่ถึงอีกประมาณสักอีก 25 ปีข้างหน้าเราทุกคนอาจจะอยู่แบบเป็นอมตะก็ได้ เพราะก็จะเริ่มมองเห็นแล้วครับ เช่น ปัจจุบันคนที่อวัยวะบางส่วนพิการก็สามารถทำอวัยวะนั้นขึ้นมาใหม่ได้แล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปยี่สิบปีก่อนเรื่องพวกนี้ยังไม่ถูกพูดถึง จะเห็นว่าเทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีชีวภาพต่าง ๆ รอดูกันต่อไปครับ มนุษย์เราจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นกับตัวเราเองทั้งนั้นครับ
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
424
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด