บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    การขาย
2.8K
2 นาที
3 ธันวาคม 2562
5 เรื่องควรทำ “อาชีพนักขาย” เมื่อถึงเดือนสุดท้ายของปี
 

อาชีพนักขายหลายคนอาจจะมองว่าเป็นงานที่ยากลำบาก ต้องพบเจอกับลูกค้าหลากหลายประเภท หลากหลายอารมณ์ ไหนจะต้องมีเรื่องของการ “ทำยอด” “รักษายอด” “หาลูกค้าใหม่” “ดูแลลูกค้าเก่า” อาชีพนักขายจึงไม่ค่อยอยู่ในความสนใจของใครนัก แต่ในช่วงปลายปีแบบนี้ใครที่เดินทางอยู่ใน “อาชีพนักขาย” ถือเป็นเวลาแห่งสวรรค์บันดาลก็ว่าได้ โดยเฉพาะคนที่มียอดขายดีๆ มาทั้งปี ปลายปีแบบนี้ ฝันหวานถึงโบนัสต่างๆ ที่ตัวเองควรจะได้
 
ซึ่ง ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่ามุมมองของคนภายนอกมองอาชีพนักขายช่วงปลายปีนี้ว่า “สบายสุดๆ” แต่ที่จริงนักขายแบบมืออาชีพก็มีเรื่อให้ต้องทำเช่นกันในช่วงปลายปีแบบนี้
 
1.อย่าคิดว่าลูกค้าปิดงบไปแล้วและคงไม่ซื้อสินค้าในช่วงนี้ 
 
ภาพจาก bit.ly/2Yd1HOw

มือสมัครเล่นด้านการขายส่วนใหญ่ ปลายปีแบบนี้มักจะปลอบใจตัวเอง ว่าไม่ต้องทำงานหนักให้เหนื่อยเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็คงปิดงบกันไปแล้ว ไม่มีงบมาซื้อสินค้าใหม่ ทำงานตอนนี้ไปก็ไม่ได้ผล หลายคนที่เป็นมือสมัครเล่น ก็เลยใส่ “เกียร์ว่าง” ในช่วงปลายปีแบบนี้ ทั้งที่ความจริงในบริษัทใหญ่ๆ บางแห่งมีงบที่เหลือจากการปิดบัญชี หรือโปรเจคที่ยังค้างอยู่และพร้อมจะสานต่อในปีหน้า

นักขายมืออาชีพต้องคว้า “โอกาสทอง” ตรงนี้ เพราะด้วยงบที่ยังเหลือในบางแห่ง ถ้าเราติดต่อเข้าไปถูกที่ถูกเวลา ในปีหน้าก็มีโอกาสสูงที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าจากเรา เพื่อใช้งบของปี 2019 ให้หมดก่อนเข้าปี 2020 ใครที่คว้าเงินส่วนนี้จากลูกค้าได้ถือว่าเจ๋งสุดๆทีเดียว
 
2.สานสัมพันธ์กับลูกค้าในช่วงไตรมาศแรกของปี 2020
 
ภาพจาก bit.ly/2OHMim4

ไตรมาศแรกของปี 2020 บริษัทส่วนใหญ่จะมีการผุดโปรเจค หรือสานต่อโปรเจคจากปี 2019  นักขายมือสมัครเล่นมักจะใช้ข้ออ้างตรงนี้เช่นกันว่าต้นปีใหม่ยังขายอะไรไม่ได้หรอก เพราะลูกค้ายังตั้งโปรเจคของตัวเองไม่เสร็จคงไม่มีงบออกมาในช่วงนี้ ทั้งที่ที่ความจริง หากนักขายมืออาชีพจริงๆ เขาจะสานสัมพันธ์กับบริษัทเหล่านี้ตั้งแต่ปลายปี 2019

ซึ่งหากมีโปรเจคที่สอดคล้องกับสินค้าที่เรานำเสนอก็จะช่วยให้เราปิดการขายได้ง่ายขึ้น และการได้พูดคุยกับลูกค้าในช่วงปลายปี ต่อต้นปีทำให้ลูกค้าเองก็มองเห็นเราเป็นพันธมิตรที่อยู่ใกล้ชิดกันมานาน เวลามีงบของโปรเจคหรือต้องการซื้อสินค้าก็จะนึกถึงขายมืออาชีพอย่างเราเป็นอันดับแรก ส่วนนักขายมือสมัครเล่นที่รอเวลาว่าช่วงนี้ลูกค้าไม่ได้ทำอะไร ก็จะมีโอกาสปิดการขายของตัวเองได้น้อยลง
 
3.เลิกให้ “กระเช้าสินค้า” แต่เปลี่ยนเป็น ดูแลตรวจสอบสินค้าที่ขายให้
 
ภาพจาก bit.ly/37YlAgw

ช่วงก่อนหยุดยาวปีใหม่มักจะมีบริษัทหลายแห่งที่ยังคงมีนโยบายจัดกระเช้าปีใหม่ให้ลูกค้า โดยหวังว่าจะสร้างความประทับใจ หรือข้ออ้างว่าเป็นการขอบคุณสำหรับลูกค้าที่ดีกันตลอดปีที่ผ่านมา แต่ในยุคนี้กระเช้าของขวัญไม่ได้สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ดีเท่ากับ “การเข้าไปดูแลคุณภาพสินค้าที่เราได้ขายให้เขาไป”

ดังนั้นวิธีคิดของนักขายมืออาชีพยุคใหม่ จงเปลี่ยนจากกระเช้าสินค้าเป็นการเข้าไปช่วยตรวจสอบสินค้าเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าสามารถใช้งานในช่วงเทศกาลหยุดยาวได้อย่างอุ่นใจ หรือส่งมอบสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่ามีสินค้าเพียงพอต่อการใช้งานช่วงปีใหม่ เป็นต้น จะทำให้ลูกค้าประทับใจได้มากกว่าเพราะเป็นของขวัญที่จับต้องได้และมีคุณค่ากว่ากระเช้าของขวัญทั่วไป
 
4.คำนวณยอดขายของตัวเองให้ดีต่อเนื่อง
 
ภาพจาก bit.ly/2raKc53

นักขายมืออาชีพจะรู้ยอดค่าคอมมิชชั่นของตัวเอง ดังนั้นการแบ่งสันปันส่วนเพื่อให้ตัวเองมียอดการขายที่ดีในทุกเดือนจึงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เช่นถ้าคำนวณว่าปลายปีนี้เรามีค่าคอมมิชชั่นมากพอ เราอาจจะกั๊กบางดีลเอาไว้เพื่อไปเปิดในเดือนมกราคม 2020 ซึ่งหากเทหมดหน้าตักลงไปในเดือนธันวาคม 2019 ทีเดียว พอถึงเดือนมกราคมเราก็จะไม่มียอดการขายเข้ามา ซึ่งจะถือเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกฏเกณฑ์ของแต่ละบริษัทด้วยว่ามีนโยบายในการปิดดีลลูกค้าอย่างไร แต่ถ้าหากเขาไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็ควรแบ่งสันปันส่วนการขายของตัวเองให้ดี เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่น่าสนใจ
 
5.ช่วงเวลาแห่งการต่อรองของนักขายมืออาชีพ
 
ภาพจาก bit.ly/2YfGWBx

ช่วงสิ้นปีถ้าเรามั่นใจว่าตัวเลขทะลุเป้า นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าไป พูดคุยกับเจ้านาย เพื่อผลประโยชน์ตัวเองเช่น เพิ่มเงินเดือน ขอขึ้นตำแหน่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่นักขายมืออาชีพมีอำนาจต่อรองสูงที่สุด ส่วนใหญ่เจ้านายจะฟังและมีโอกาสตอบรับคำขอของเราอย่างมาก เพราะบริษัทถือว่านักขายมืออาชีพคือคนที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทจึงกลายเป็นคนสำคัญที่บริษัทต้องพยายามรักษาไว้ ซึ่งบริษัทที่มีวิสัยทัศน์มักจะรักษาพนักงานที่เก่งๆเอาไว้กับตัวเองเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น
 
เทคนิคของนักขายมืออาชีพกับสิ่งที่ควรทำปลายปีเหล่านี้ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปก็สามารถเอามาประยุกต์ใช้กับการค้าขายของตัวเองได้เช่นอย่ามัวคิดว่าปลายปีแบบนี้คนไม่มีกำลังซื้อ อย่ามัวคิดว่าคนส่วนใหญ่เก็บเงินจะไปเที่ยว ไม่ซื้อสินค้าหรือบริการใดๆ การเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ดีต้องพยายามหาสินค้าที่เข้ากับความต้องการของคนในช่วงเวลานั้น ๆ

อย่างปลายปีแบบนี้สินค้าขายดีพวกเสื้อผ้า ของฝาก สินค้าติดไอเดียทั้งหลาย จะได้รับความนิยมทั้งซื้อเป็นของขวัญ ของฝากให้กับญาติพี่น้อง หรือแม้แต่ร้านอาหารทั้งหลายเอง ช่วงนี้ก็ควรมีการจัดโปรโมชั่นดึงดูดใจลูกค้าให้มากขึ้น เพราะช่วงเทศกาลจะเป็นเวลาที่หลายคนต้องการหาความสุขให้ตัวเองและครอบครัว โอกาสในการจับจ่ายก็มีมากขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสินค้าและบริการเหล่านั้นจะมีเสน่ห์ดึงดูดใจได้แค่ไหนด้วย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
424
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด