บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
2.4K
2 นาที
12 กุมภาพันธ์ 2563
5 เทรนด์ฮิต “ร้านกาแฟ” เกาหลี เปิดแบบนี้ รวย!


ร้านกาแฟยุคนี้ต้องแตกต่าง อย่าคิดว่าแค่ “เปิดร้านกาแฟ” แล้วจะมีลูกค้าเข้าร้าน กาแฟก็เหมือนๆกาแฟ ดังนั้นลูกค้าอาจคิดว่าเข้าร้านไหนก็ได้เพราะไม่แตกต่าง www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลน่าสนใจของเทรนด์กาแฟสุดฮิตในเกาหลีใต้ที่ผู้ประกอบการเมืองไทยน่าจะเอาข้อมูลนี้มาปรับใช้กับตัวเองได้

เทรนด์ร้านกาแฟในเกาหลีใต้ ปี 2020


ภาพจาก bit.ly/2tQnD7f
 
ข้อมูลของ Small Enterprises and Market Service หรือ SEMAS กระทรวงเอสเอ็มอีและ สตาร์ทอัพของเกาหลีใต้ ระบุตัวเลขร้านกาแฟเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา พบว่า มีอยู่กว่า 100,000 ร้านทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าร้านสะดวกซื้อเกือบ 1 เท่าตัว โดยในปัจจุบันประเทศเกาหลีใต้ มีร้านกาแฟถึง 90,809 ร้าน โดยยังไม่ได้นับรวมร้านขายเบเกอรี่ หรือขนมหวานที่ขายกาแฟด้วย ขณะที่ตัวเลขร้านสะดวกซื้อทั่วทั้งประเทศมีอยู่ราวๆ  54,000 ร้าน
 
วัฒนธรรมการบริโภคกาแฟของคนเกาหลีเป็นที่นิยมไปทั่วประเทศ ด้วยปริมาณการดื่มกาแฟมากกว่า 2.5 หมื่นล้านถ้วย ในปี 2016 หรือเท่ากับ 500 ถ้วยต่อคนต่อปีโดยเฉลี่ย และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขรายได้จากการจำหน่ายกาแฟในประเทศมีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว จากราวๆ 3 แสนล้านวอน เป็น 8.8 แสนล้านวอน ซึ่งถือว่ามีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


ภาพจาก bit.ly/38mpMGz
 
โดยมีแบรนด์ร้านกาแฟเปิดใหม่ในเกาหลีเพิ่มขึ้นมากหรือบรรดาร้านที่เปิดมานานก็มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็น Starbucks, A Twosome Place , The Coffee Bean & Tea Leaf , Ediya Espresso , Baskin Robbins เป็นต้น
 
ซึ่งกลุ่มลูกค้าร้านกาแฟในเกาหลีมี 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
 
1.กลุ่มที่บริโภคกาแฟเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน กลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาแฟเป็นหลัก ส่วนใหญ่ซื้อแบบ Grab and Go คือไปทำงานหรือกิจวัตรประจำวันต่อ โดยคนเกาหลีสามารถบริโภคกาแฟได้ตลอดทุกช่วงเวลาของวันเรื่อยไปจนถึงกลางดึกเลยทีเดียว
 
2.กลุ่มที่เน้นการสัมผัสบรรยากาศของร้าน นี่คือกลุ่มที่เติบโตมาก ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มุ่งมาที่ตัวสินค้าอย่างเดียวแต่ต้องการบรรยากาศของร้านในการพบปะพูดคุย นัดพบเพื่อน ซึ่งธุรกิจร้านกาแฟที่ต้องการจับลูกค้ากลุ่มนี้ต้องเน้นเมนูที่มากกว่าแค่เครื่องดื่มและการจัดร้านที่ดึงดูดใจ
 
ในเกาหลีจะมี 5 เทรนด์ร้านกาแฟสุดฮิตที่คนนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งในประเทศไทย ธุรกิจร้านกาแฟก็มีอัตราการเติบโตที่ไม่ต่างกัน ดังนั้นการจับจุดเทรนด์ฮิตในเกาหลี ก็สามารถนำมาผสมผสานเป็นการเปิดร้านกาแฟในเมืองไทยที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากลูกค้า ชนิดที่สร้างรายได้มากยิ่งขึ้น โดย 5 เทรนด์ร้านกาแฟดังกล่าว ได้แก่
 
1. ร้านกาแฟที่สร้างดึงบรรยากาศเด่นๆในต่างประเทศ


ภาพจาก bit.ly/2ULKaNq
 
การสร้างบรรยากาศคือสิ่งสำคัญ แต่บรรยากาศในร้านที่ดีบางทีอาจต้องเป็นเรื่องที่แตกต่าง ที่เราเห็นในประเทศไทยถ้าแต่งร้านแนวนี้ส่วนใหญ่จะยึดธีมจากประเทศญี่ปุ่น แต่ถ้าลองเลือกเอาจุดเด่นในประเทศอื่นมาแต่งร้านบ้างจะสร้างเป็นจุดขายได้ดีและไม่ซ้ำแบบใคร ยกตัวอย่างในเกาหลีเช่นร้าน Awesome Malta ย่านยอนนัมดง ที่เจ้าของร้านได้รับแรงบันดาลใจ มาจากการไปเที่ยวประเทศมอลตา ภายในร้านจึงตกแต่งด้วยกลิ่นอายศิลปะสไตล์ Maltese ซึ่งธุรกิจร้านกาแฟในเมืองไทยควรหาจุดแตกต่างในเรื่องนี้ให้มากขึ้น
 
2. ร้านกาแฟเพื่อสุขภาพ


ภาพจาก bit.ly/39piWQX
 
เป็นการผสมผสานเอาเทรนด์สุขภาพมาผนวกรวมกับการดื่มกาแฟ ที่จะใช้เพิ่มจำนวนลูกค้าได้มากขึ้นไม่ใช่แค่คอกาแฟแต่คนที่รักสุขภาพก็จะมาเป็นลูกค้าได้ด้วย ในเกาหลีมีตัวอย่างที่น่าสนใจเช่น ร้าน Plant Cafe ย่านอีแทวอน ที่ทุกเมนูของทางร้านจะเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งในประเทศไทยก็ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ในการขยายธุรกิจร้านกาแฟ
 
3. ร้านกาแฟที่ชูจุดขายด้วยเมนู “โดดเด่น”


ภาพจาก bit.ly/39rKIw3
 
การจะให้คำจดจำแบรนด์ หรือร้านกาแฟ ถ้าเราขายแค่กาแฟ หรือมีแค่บรรยากาศอาจไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือการสร้าง เมนูที่ “โดดเด่น” ชนิดที่ลูกค้าถ้าอยากสัมผัสเมนูนี้ “ต้องที่ร้านนี้เท่านั้น”
 
ถ้ายังมองไม่เห็นภาพ ยกตัวอย่างร้าน Osulloc Tea House ที่ปัจจุบันมีกว่า 63 สาขาในเกาหลีใต้ มีจุดขายเป็นชาเขียว จากเกาะเจจู ที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในหลายเมนูของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มชาเขียว เค้กโรลชาเขียว บิงซูชาเขียว และไอศกรีมชาเขียว ในเมืองไทยผนวกใช้วิธีนี้ไม่ยาก กับจุดเด่นในแต่ละจังหวัดที่มีของดีน่าสนใจไม่เหมือนกัน ร้านกาแฟเองก็ควรดึงจุดเด่นนั้นๆ เอามาใช้ เพิ่มยอดขายได้ดีแน่นอน
 
4. ร้านกาแฟ D.I.Y


ภาพจาก bit.ly/31JSv5U
 
เป็นรูปแบบร้านกาแฟที่เน้นให้ลูกค้าได้ทำกิจกรรมนอกเหนือจากการดื่มกาแฟ ซึ่งก็เป็นธีมของร้านกาแฟที่แตกต่าง ยกตัวอย่างร้าน Ring Making Cafe ย่านฮงแด ที่ลูกค้าสามารถประดิษฐ์และออกแบบแหวนได้ด้วยตนเอง ตั้งแต่ เลือกรูปแบบแหวน สไตล์ รวมไปถึงการแกะสลักแหวนที่เราสามารถทำได้ตามชอบ โดยคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ประมาณ 30,000 – 50,000 วอนเกาหลี เป็นต้น สำหรับร้านกาแฟเมืองไทย ลองผนวกเอาความคิดนี้ไปใส่ในร้านกาแฟของตัวเองดู ส่วนจะทำกิจกรรมอะไร จะ D.I.Y อะไรก็ให้เหมาะสมกับร้านก็เป็นพอ
 
5. ร้านกาแฟ “เกรดพรีเมี่ยม”


ภาพจาก bit.ly/31KFIzW
 
เป็นการชูจุดเด่นในเรื่องความเป็น “พรีเมี่ยม” โดยร้านกาแฟแนวนี้จะโฟกัสที่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงเป็นสำคัญและตอบแทนลูกค้าด้วยเมนูที่พิเศษ ส่วนใหญ่เป็นร้านกาแฟที่มีชื่อเสียง อย่างเช่น Dior Cafe by Pierre Herme, Hermes Cafe เป็นต้น ซึ่งในฐานะของผู้ประกอบการก็ต้องตัดสินใจเองว่า ร้านกาแฟที่เราเปิดจะเน้นกลุ่มลูกค้าแบบไหน ถ้าต้องการกลุ่มบนที่มีกำลังซื้อสูงก็ควรหาทำเลที่เหมาะสม ทำสินค้าให้เหมาะสมกับราคา ทุกอย่างต้องพรีเมี่ยมสมกับราคา เพื่อตอบสนองความพอใจให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
 
ซึ่งทั้ง 5 เทรนด์ร้านกาแฟที่ยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพเหล่านี้ สามารถนำไปใช้ได้จริง เพื่อยกระดับการลงทุนในธุรกิจร้านกาแฟให้ดียิ่งขึ้น เพราะธุรกิจที่จะอยู่รอดแบบมีกำไรยุคนี้ต้องแตกต่าง แม้กาแฟจะเป็นสินค้ายอดฮิตที่ใครๆต้องการ แต่จะดีกว่าหากร้านกาแฟของเรามีจุดต่างและไม่ใช่ร้านกาแฟธรรมดาที่มองไปทางไหนก็เจอ
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
  
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
  
ขอบคุณข้อมูล
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
712
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
528
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
446
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด