บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.7K
2 นาที
11 พฤษภาคม 2563
สหรัฐดูแลคนเร่ร่อนดีกว่าไทยโดยเฉพาะช่วงโควิด 19


ภาพจาก bit.ly/3coSSHr
 
หลายคนบอกว่าระบบสาธารณสุขสหรัฐอเมริกากำลังจะล่มสลายเพราะโควิด-19 ทางราชการสหรัฐคงดูแลประชาชนไม่ดีพอ กรณีนี้เป็นแค่คำ “โฆษณาชวนเชื่อ” แบบ “เอาดีใส่ตัว”
 
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ในฐานะประธานมูลนิธิอิสรชน (www.issarachon.org) ช่วยเหลือคนเร่ร่อนกล่าวว่า ในประเทศไทยมีจำนวนเตียงคนไข้ต่อประชากร 1,000 คน อยู่ที่ 1.9 เตียง  ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีอยู่ถึง 2.83 เตียง นี่จึงเป็นเครื่องชี้วัดว่าการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดีกว่าไทย
 
คนเร่ร่อนในสหรัฐอเมริกามีราวครึ่งล้านคน หลายคนมีปัญหาทางจิตอีกต่างหาก  คนเร่ร่อนกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ทางชายฝั่งตะวันตกและตะวันออกเฉียงเหนือถึงเกือบครึ่ง (47 เปอร์เซ็นต์) โดยเฉพาะในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ปัญหานี้เกิดจากราคาที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น เงื่อนไขสำหรับการนอนริมถนนที่ทำได้ง่ายโดยเฉพาะในเมืองที่มีอากาศอบอุ่นโดยเฉพาะมลรัฐแคลิฟอร์เนีย การจัดหาที่พักพิงไร้บ้านยังไม่ครบถ้วน และลักษณะของคนเร่ร่อนเองที่ชอบมีอิสระ 
 
การจัดหาที่อยู่อาศัยที่จุคนได้มาก ๆ สำหรับคนเร่ร่อนนั้น ยังต้องมีเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ  รัฐบาลและภาคเอ็นจีโอของสหรัฐอเมริกาพยายามจัดหาที่พักพิงให้คนเร่ร่อนด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยแก่คนเร่ร่อนเอง  และคนเร่ร่อนส่วนใหญ่ราวสองในสามก็อยู่อาศัยในบ้านพักเหล่านี้ ที่อาศัยข้างถนนอาจเป็นเพียงส่วนน้อย  อย่างไรก็ตามก็ยังต้องจัดหาที่อยู่อาศัยเพิ่มเติมอีกด้วย


ภาพจาก bit.ly/2WJlJ2G
 
ปัญหาของคนเร่ร่อนนอกจากโรคติดต่อต่างๆ แล้วยังมีปัญหาความเจ็บป่วยทางจิต ปัญหาการใช้สารเสพติด อาชญากรรม โดยรัฐบาลกลางพยายามสนับสนุนการสร้างที่อยู่อาศัยสนับสนุนถาวร  อย่างไรก็ตามในกรณีผู้ที่มีปัญหาพิเศษ เช่น มีความเจ็บป่วยทางจิต หรือมีโรคร้ายอื่นๆ ก็อาจต้องส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นเช่นกัน  บางคนเพิ่งออกจากคุกก็หางานไม่ได้ จึงเร่ร่อน ซึ่งรัฐบาลก็จะพยายามหางานให้
 
ที่ผ่านมารัฐบาลกลางโดยประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งที่จะพยายามลบอุปสรรคด้านกฎระเบียบในตลาดที่อยู่อาศัยซึ่งจะลดราคาของบ้านและลดการไม่มีที่พัก ปัจจัยความเสี่ยงส่วนบุคคลที่เปลี่ยนความต้องการที่อยู่อาศัย และพยายามที่จะยับยั้งปัญหายาเสพติด รวมทั้งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอ็นจีโอดูแลคนเร่ร่อนมากขึ้นอีกด้วย
 
ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ณ วันที่ 21 เมษายน 2563 มีคนเร่ร่อนเสียชีวิตเพราะโควิด-19 จำนวน 43 คนจากทั้งหมดประมาณ 70,000 คน หรือ 0.04% ขณะที่ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 มีผู้เสียชีวิตในมลรัฐนิวยอร์ก 25,956 คน จากประชากรทั้งหมด 19.4 ล้านคน หรือราว 0.13%  คนเร่ร่อนเสียชีวิตน้อยกว่าเสียอีก  จะเห็นได้ว่าในประเทศตะวันตกผู้ที่เสียชีวิตส่วนมากเป็นผู้สูงวัยและมีโรคประจำตัว  ส่วนคน (ที่กล้าออกมา) เร่ร่อน ก็คงมีความแข็งแรงในระดับหนึ่ง ทำให้อัตราการตายกลับต่ำกว่า และยังมีที่อยู่อาศัยและอาหารไว้ดูแล


ภาพจาก Thairath
 
อย่างไรก็ตามในกรณีคนเร่ร่อนของไทย ปรากฏว่ารัฐบาลจัดที่อยู่อาศัยให้เช่นกัน โดยจัดบ้านพักให้บริเวณต่างๆ แต่ก็สามารถรองรับได้จำนวนน้อยเท่านั้น ไม่สามารถรองรับได้เป็นส่วนใหญ่เช่นในสหรัฐอเมริกา และคนเร่ร่อนส่วนมากไม่สามารถไปพักอาศัยได้เพราะบ้านพักที่จัดไว้ ไกลจากย่านที่อยู่ของคนเร่ร่อน  มาตรการเยียวยาจึงดูคล้ายผักชีโรยหน้ามากกว่า  อย่างไรก็ตามยังไม่พบคนเร่ร่อนในกรุงเทพมหานครเสียชีวิตเพราะโควิด-19 ทั้งนี้เพราะประเทศไทยเป็นประเทศร้อน และโรคนี้ไม่ได้ร้ายแรงเช่นที่ถูก “โฆษณาชวนเชื่อ”
 
ดร.โสภณ เสนอให้ใช้สนามหลวงเป็นที่พัก ที่คัดกรองสำหรับคนเร่ร่อน เพราะเป็นที่โล่ง โดยสามารถกางเตนท์ หรือทำเป็นกระโจมให้พักชั่วคราว สามารถดูแลควบคุมโรคได้ง่ายเช่นกัน
 
ที่มา : https://bit.ly/3dil0fo
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
631
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
548
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
495
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
464
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
446
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
441
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด