บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.7K
2 นาที
16 กันยายน 2563
เศรษฐกิจไทยปลายปี 63 กระตุ้นฟื้น ไม่ฟื้น!
 

ช่วงต้นปี 2563 เศรษฐกิจไทยอาการน่าเป็นห่วง ทั้งสถานการณ์เดิมจากปัญหาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ปัญหาภัยแล้ง ความล่าช้าของงบประมาณปี 63 ส่งผลให้รัฐบาลติดขัดในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจากการระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจลุกลามไปทั่วโลก เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวหยุดชะงักงัน ธุรกิจเกี่ยวข้องปิดให้บริการ คนตกงาน
 
แล้วเศรษฐกิจไทยช่วงปลายปี 2563 มีโอกาสฟื้นกลับมาหรือไม่ วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอให้ทราบ
 
กระตุ้นท่องเที่ยวความหวังแรกเศรษฐกิจไทย


ภาพจาก bit.ly/33BamgH
 
ความพยายามของรัฐบาลไทยในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ที่ถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ได้กลับมามีความหวังอีกครั้งในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย เพราะในระยะเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย นำเงินตราเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท 
 
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานำเสนอ โดยให้คนต่างด้าวที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
  1. เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย
  2. ยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ประกาศใช้ภายในประเทศไทย และตกลงยินยอมกักตัวในห้องพักจำนวน 14 วัน (ALSQ)
  3. มีหลักฐานสถานที่พักอาศัยระยะยาวภายในประเทศไทย ได้แก่หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก หรือโรงพยาบาลที่พัก (ASQ) ภายในประเทศไทย และหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก ที่จะใช้เป็นที่พักหลังจากออกจากโรงแรมที่พักที่เป็นสถานที่กักตัว หรือโรงพยาบาลที่พัก ตามระยะเวลาที่ ประสงค์จะพำนักระยะยาว ภายในประเทศไทย หรือ หลักฐานสำเนาโฉนดห้องชุดของที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลต่างด้าวหรือบุคคลในครอบครัวของบุคคลต่างด้าว 
 
หลักฐานการเช่าที่พักประเภทคอนโดมิเนียมหรือบ้านพัก หลักฐานการชำระเงินดาวน์ของบุคคลต่างด้าวในการซื้อหรือเช่า ที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ที่บุคคลต่างด้าวสามารถซื้อได้ตามกฎหมาย
 
บุคคลต่างด้าวตามเกณฑ์ข้างต้น และผ่านการดำเนินการตามการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด มีสิทธิขอรับการตรวจ ลงตราประเภทนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ Special Tourist Visa (STV) โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน 
 
และสามารถขยายได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน รวม 9 เดือน ซึ่งจะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนตุลาคม 2563 ครั้งละ 100 คน 1,200 คนต่อเดือน คาดว่าจะสามารถนำเงินเข้าประเทศ 1,200 ล้านบาทต่อเดือน


ภาพจาก bit.ly/2FBMMs1
 
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินสถานการณ์และเฝ้าติดตามว่า จีดีพีของไทยจะดำเนินไปอย่างไรตากวิกฤติโควิด-19 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ซึ่งในครั้งนั้นจีดีพีไทยติดลบในระดับร้อยละ -12 ในขณะที่มีการประเมินว่าจีดีพีไทยหลังโควิด-19 อาจจะติดลบถึงร้อยละ -15 
 
ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำสุดในประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังมีบางฝ่ายเชื่อว่าสถานการณ์จะกระเตื้องขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 จากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลและการผ่อนคลายต่างๆ ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินอย่างเป็นปกติได้
 
ในส่วนของสมาคมโรงแรมไทย ระบุว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมเลิกจ้างไปแล้วประมาณ 1 ล้านคน หากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไทยไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ถึงกลางปี 2564 โรงแรมต้องเลิกจ้าง ปิดกิจการ และขายกิจการจำนวนมาก เพราะเงินทุนหมุนเวียนหมด แม้รัฐบาลมีโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างชัดเจน
 
ส่งเสริมการจ้างงาน


ภาพจาก bit.ly/2FCTsGf
 
คุณกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรคกล้า อดีต รมว.กระทรวงการคลัง เผยผ่านเฟชบุ๊คส่วนตัวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้ฟื้นกลับคืนมา ก็คือ รัฐบาลต้องดำเนินการจัดทำเป็นแพลตฟอร์มฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เกี่ยวกับตำแหน่งที่สามารถจ้างงานได้ จากรายงานทราบว่ามีตำแหน่งงานที่สามารถจ้างงานได้อีก 600,000-700,000 ตำแหน่ง รองรับจากปัจจุบันที่มีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 750,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะมีการรวบรวมและจัดแสดงข้อมูลการจัดงานจ๊อบแฟร์ในสถานที่ต่างๆ จากบริษัทจัดหางานและจัดหาบุคลากรเพื่อเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆ
 
กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก


ภาพจาก bit.ly/33BMxFm
 
คุณกรณ์ ยังบอกต่อว่า ปัจจุบันประเทศไทยพึ่งพาการค้าการลงทุนกับต่างประเทศได้ยาก เนื่องจากทุกประเทศทั่วโลกต่างมีปัญหาเช่นเดียวกัน รัฐบาลต้องเน้นโครงการ “พึ่งพาตัวเอง” เช่น โรงไฟฟ้าชุมชนที่รัฐบาลลังเลมายาวนาน โครงการนี้เปิดโอกาสให้มีการกระจายการผลิต ไปที่ผู้ประกอบการรายเล็กทั่วประเทศ เป็นการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน และที่สำคัญเป็นแหล่งรายได้ยั่งยืนให้กับเกษตรกร การเร่งช่วยประชาชนต้องนึกเสมอว่า “ยิงกระสุนนัดเดียว ช่วยคนได้หลายกลุ่ม”
 
ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาล ควรถือโอกาสในการทบทวนปัญหาการทำมาหากินของคนไทยหลากหลายอาชีพ เนื่องจากนโยบาย และข้อกฎหมายของรัฐบาลในอดีต ไม่ว่าจะเป็นประมงชายฝั่ง ผู้ค้า Street food สุราพื้นบ้าน ฯลฯ เหล่านี้ถูกจำกัดด้วยกฎหมายล้าสมัย ซึ่งหากกฎหมายทันสมัยเพียงพอ ประชาชนจะมีช่องทางทำกินอีกมาก
 
เราต้องจับตาดูว่า รัฐบาลไทยจะสามารถจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยขนาดไหน หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมามีผลสำเร็จ จะส่งผลให้อัตราการว่างงานในช่วงปลายปี 2563 ไม่ถึง 1.5 ล้านคน แต่หากปลายปี 2563 เศรษฐกิจประเทศไทยยังไม่ฟื้นกลับมา มีโอกาสที่จะเห็นอัตราการว่างงานสูงถึง 2 ล้านคน ตามรายงานมหาวิทยาลัยหอการค้า
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
อ้างอิงข้อมูล
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
713
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
529
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
447
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด