บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.3K
3 นาที
28 ตุลาคม 2564
ส่องแนวโน้ม อาหาร ของกิน แนวไหนมา ปี2022


หลังการแพร่ระบาดของโควิดทุกธุรกิจต้องมีการปรับตัว ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอาหารที่คาดว่าตั้งแต่ปี 2022 จะต้องเน้นเรื่องความสะอาดมากขึ้น และธุรกิจอาหารจะมีความเป็น Self-service ให้ลูกค้าใกล้ชิดกับพนักงานน้อยที่สุด

ยังไม่รวมถึงเทรนด์ของอาหารที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มั่นใจว่าลูกค้าไม่ต้องการเพียงแค่รสชาติอร่อยเท่านั้น หากแต่นี้จะมีเรื่องของสุขภาพ ความสะดวกสบายเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องเข้าใจความต้องการที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ลองมาดูกันว่าในปี 2022 มีเทรนด์อาหารแบบไหนที่น่าสนใจบ้าง
 
1.อาหารตามสั่ง


ร้านอาหารตามสั่งอาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่หลังจากนี้อาหารตามสั่งก็ไม่ใช่แค่ร้านที่จะเปิดขายทั่วไปเท่านั้น หากหวังยอดขายเพิ่มขึ้นต้องมีการอัพเกรดให้ร้านมีมาตรฐานเรื่องความสะอาดของ จาน ชาน ช้อน โต๊ะ สถานที่ รวมถึงพนักงานต้องมีบริการที่ดี หากเป็นไปได้ควรมีการยกระดับร้านอาหารตามสั่งให้ลูกค้ามั่นใจ

ยกตัวอย่าง “เขียง” ร้านอาหารในเครือ Zen ที่ยกระดับอาหารตามสั่งธรรมดาให้ดูน่าสนใจ ใส่กลยุทธ์การตลาดต่างๆ เพิ่มเข้าไป จนสามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว ในรายของผู้ประกอบการธรรมดาที่เงินทุนไม่สูงมากอาจดูข้อดีที่น่าสนใจแล้วเอามาปรับใช้กับร้านตัวเองได้
 
2.อาหารสตรีทฟู้ด
 

สภาอาหารริมทางโลก (World Street Food Congress) ได้ยกให้สตรีทฟู้ดของไทยเป็น 1 ใน 3 ของอาหารที่ขึ้นชื่อมากที่สุด ในปี 2022 จึงเชื่อได้ว่าอาหารสตรีทฟู้ดเหล่านี้จะมีเสน่ห์ที่เพิ่มมากขึ้น ดูได้จากหลายแฟรนไชน์ในขณะนี้ที่ดึงเอาเมนูสตรีทฟู้ดมาสร้างแฟรนไชส์ไม่ว่าจะบะหมี่เกี๊ยว , ผัดกระเพรา , ผัดไทย หรือแม้แต่อาหารปิ้งย่างต่างๆ ซึ่งแต่ละเมนูมีจุดเด่นในตัวเอง การเลือกลงทุนแบบแฟรนไชส์ที่มีระบบบริหารจัดการดี จะทำให้โอกาสสร้างรายได้ของผู้ลงทุนมีมากขึ้น
 
3.อาหารแบบ Meal Kits (พร้อมปรุง)
 

ภาพจาก CJ CheilJedang Corp

Meal Kits คือการขาย วัตถุดิบอาหารที่จัดมาเป็นชุดพร้อมปรุง ที่มีซอสปรุงรส และเครื่องปรุงต่าง ๆ มาคู่กัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถประกอบอาหารเองได้ที่บ้าน และตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการหลีกเลี่ยงการออกจากบ้านไปเจอผู้คน หรือคนที่อาจไม่มีทักษะในการประกอบอาหาร ก็สามารถทำอาหารให้อร่อยคล้ายกับที่ร้านทำได้ จากวัตถุดิบที่ได้คัดสรรมาแล้ว เช่น ชุดส้มตำมะละกอ ชุดสเต็กที่มาพร้อมกับสลัดผัก เป็นต้น

นอกจากนี้ ธุรกิจ Meal Kits ยังสามารถช่วยให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนการรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการได้ ว่าต้องการอาหารประเภทไหนเป็นพิเศษ โดยในบางแบรนด์สินค้า จะระบุโภชนาการที่จะได้รับต่อมื้อ หรือต่อหนึ่งเสริฟ และยังสามารถช่วยวางแผนเมนูอาหารในรายสัปดาห์ว่าต้องการเมนูอะไรบ้าง ปริมาณเท่าไหร่ กรรมวิธีและเวลาในการปรุงอาหารยุงยากหรือไม่ ซึ่งถือว่าสะดวกมาก ๆ สำหรับคนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ
 
4.อาหารทานเล่น
 

กลุ่มอาหารทานเล่นยังคงตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ดีและเชื่อว่าในปี 2022 จะมีสินค้าทานเล่นที่อัพเดทหน้าตาแปลกใหม่มาเป็นตัวเลือกมากขึ้น ที่ผ่านมาเราจะเห็นเฟรนฟรายด์ , วาฟเฟิล , เบเกอรี่ , ไอศกรีม ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีการขายแฟรนไชส์ให้เราเลือกลงทุนได้ไม่ยาก ที่สำคัญราคาในการลงทุนไม่แพง เหมาะกับคนที่อยากมีอาชีพ อยากสร้างรายได้สามารถเลือกลงทุนได้ทันที
 
5.อาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพร
 

จากการปลดล็อคกัญชา กัญชง และใบกระท่อม ก่อนหน้านี้มีการประเมินว่า การปลดล็อกให้ใช้กัญชาและกัญชงเป็นก้าวแรกของการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชเศรษฐกิจใหม่ในอนาคต โดยมีตัวเลขการคาดการณ์แนวโน้มตลาดกัญชาและกัญชงว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.03 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2567 ที่ผ่านมาผู้ประกอบการกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มหลายรายยื่นขอใบอนุญาตสำหรับการใช้สารสกัดจากกัญชา และการอนุญาตเปิดให้ขายในรูปแบบบรรจุขวดได้
 
ยกตัวอย่าง บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่กำลังรอใบอนุญาตจำหน่าย หากได้แล้วก็พร้อมที่จะเปิดตัวรุกตลาดทันที โดยในเบื้องต้นเตรียมเปิดตัวเครื่องดื่มอิชิตัน กรีนแลป ที่มีส่วนผสมของ CBD กับกัญชงออกมา
 
6.อาหารแบบ Tailored-to-Fit Food
 
ภาพจาก https://bit.ly/3Boaq2e

เทรนด์ Tailored-to-Fit Food หรือ อาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ กลุ่มที่ต้องการควบคุมอาหาร, กลุ่มคนออกกำลังกาย, กลุ่มคนสูงอายุ เป็นต้น โดยร้านอาหารหรือธุรกิจอาหารจะให้ความสำคัญมากขึ้นเกี่ยวกับtarget ที่หลากหลาย

ไม่ว่าจะออกแบบเมนูตามสถานการณ์ หรือตามฤดูกาลก็ตาม เพราะนับแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด นิยามของคำว่า อาหารเพื่อสุขภาพ จึงเปลี่ยนไปจากอาหารดีต่อทุกคนทุกเพศทุกวัย มาสู่อาหารเฉพาะบุคคล (Tailored-to-Fit Food) เพราะร่างกายของแต่ละคนมีความต้องการด้านสุขภาพที่ไม่เหมือนกัน
 
7.อาหารเสริม
 
ภาพจาก pixabay.com/

หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ทั้งนี้ ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในทวีปยุโรป ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมังสวิรัติ (Vegan) และมีส่วนผสมของน้ำตาลน้อย (Low Lactose)

ในขณะที่ผู้บริโภคในทวีปอเมริกาเหนือ เน้นผลิตภัณฑ์ที่ไม่สารตกแต่งพันธุกรรม (GMO Free) และผู้บริโภคในทวีปเอเชียนิยมผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและปราศจากสารปรุงแต่ง นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละ 27 ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น หากสินค้านั้นเป็นอาหารเสริมที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง (whole food ingredients) และร้อยละ 35 ต้องการทราบที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์
 
8.อาหารที่ทำจากพืชเป็นหลัก
 
ภาพจาก https://bit.ly/3bkTvmo

ผลิตภัณฑ์เนื้อที่ทำจากพืชไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ ปัจจุบันมีแบรนด์เนื้อที่ทำจากพืช เช่น Beyond Meat และ Impossible Burger เข้ามาเจาะตลาดคนที่ชอบทานเนื้อสัตว์แต่อยากเปลี่ยนมาทานอาหารจากพืชแล้ว ตลาดอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ทั่วโลกมีมูลค่า 69,075 ล้านบาทและเติบโตขึ้นทุกวัน

คาดว่าตลาดนี้จะขยายตัวจนแตะ 118,463 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2570 จึงเป็นตลาดที่น่าเข้ามาอย่างมากสำหรับธุรกิจขายส่งอาหาร โดยมีผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เนื้อเบอร์เกอร์ที่มีลักษณะ กลิ่น และรสชาติเหมือนเนื้อสัตว์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ทดแทนจากพืช เช่น โปรตีนถั่ว เบอร์เกอร์เห็ด และโปรตีนถั่วลูกไก่ ความต้องการอาหารปลอดเนื้อสัตว์จึงเติบโตได้อีกแน่นอน
 
9.อาหารพร้อมทาน
 
ภาพจาก https://bit.ly/3bkTJde

อาหารพร้อมทาน ยังคงครองใจผู้บริโภคชาวเมืองที่มีชีวิตรีบเร่งแข่งกับเวลา โดยคาดว่าตลาดอาหารปรุงสุกพร้อมทานจะเติบโตต่อเนื่องไปจนถึงปี 2024 ร้านอาหารหลายแห่งปรับตัวมาขยายบริการอาหารกลับบ้านทั้ง Take-Out และ Ready-to-Eat เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ Work from Home และกลุ่มที่อยากลดการสัมผัส โดยจากเดิมอาหารพร้อมทานมักเน้นความสะดวก คุ้มค่าราคาและเป็นเมนูที่คุ้นเคย

แต่ปัจจุบันผู้บริโภคกลับมองหา “ประสบการณ์ขั้นกว่า” จากอาหารพร้อมทาน ไม่ว่าจะเป็นรสชาติ เนื้อสัมผัส วัตถุดิบ คุณค่าทางโภชนาการ และการนำเสนอ เพื่อให้รู้สึกเหมือนได้ออกไปทานอาหารในร้านดีๆ
 
10.อาหารแบบ Delivery
 

Delivery เรียกว่าเป็นธุรกิจที่มาแรงตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ช่วงแรกๆ ไทยต้องทำการล็อกดาวน์ ปิดประเทศ ห้ามนั่งกินในร้านอาหาร รวมถึงหลายคนต้อง Work From Home ทำให้การสั่งอาหารผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชัน ได้รับความนิยมอย่างมาก ดังจะเห็นได้จาก ไรเดอร์ของ Delivery แต่ละเจ้า ที่ไปนั่งรอตามหน้าร้านอาหารเพื่อรับออเดอร์ไปส่งยังลูกค้า

แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ดูเหมือนการสั่งอาหารแบบ Delivery จะเป็นความเคยชินของใครหลายๆ คน ซึ่งตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว บางครั้งมีโปรโมชั่นจากแอปพลิเคชัน หรือร้านค้า ทำให้คุ้มค่ากว่าการออกไปรับประทานอาหารที่ร้านเป็นไหนๆ
 
นอกจากเทรนด์อาหารเหล่านี้ “อาหารที่มีโปรตีนสูง” อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ถั่วต่าง ๆ นมถั่วเหลือง และนมอัลมอนต์ ก็เป็นตลาดที่มาแรงเช่นกัน เพราะให้คุณค่าทางด้านโภชนาการสูง และยังพกพาได้สะดวก เป็นแหล่งพลังชั้นดี ร่างกายสามารถดูดซึมอาหารได้โดยตรงและยังมีทางเลือกให้กับคนรักสุขภาพไม่ว่าจะเป็นสายวีแกน หรือสายไดเอทต่าง ๆ
 
และตลาดอาหารสุขภาพนี้คาดว่าในปี 2565 ตลาดจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 213,099 ล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.7 ต่อปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากพฤติกรรมการที่เปลี่ยนไปเพราะการแพร่ระบาดของโควิดทำให้ คนหันมาสนใจสุขภาพ อยากกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มมากขึ้น
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
499
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด