บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
2.5K
4 นาที
27 กันยายน 2565
15 ข้อ ถ้าตอบไม่ได้! อย่าเปิดร้านชานมไข่มุก
 

ถ้าถามว่าตอนนี้มีเงินลงทุนแล้วอยากเปิดร้านอะไร? คำตอบส่วนใหญ่ต้องพูดถึง “ร้านชานมไข่มุก” สอดคล้องกับข้อมูลที่ระบุว่าตลาดชานมไข่มุกในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดรวมราว 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.43 แสนล้านบาท โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 9.3% ต่อปี ข้อมูลยังชี้ชัดลงไปอีกว่าคนไทยใช้จ่ายเงินกับการซื้อชานมไข่มุกกว่าปีละ 749 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท) 

แต่ทั้งนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com อยากให้ใครก็ตามที่คิดจะเปิดร้านชานมไข่มุกควรพิจารณาปัจจัยให้รอบด้านวิธีการที่ง่ายสุดคือการตั้งคำถามและตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนเปิดร้านของเราจะไม่สูญเปล่าและสามารถสร้างรายได้สมกับที่ตั้งใจไว้
 
1.มีใจรักอยากทำธุรกิจแค่ไหน?
 

บางคนอยากเปิดร้านเพราะเห็นว่าขายดี บางคนอยากเปิดร้านเพราะไม่รู้ว่าจะขายอะไรดี สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากใจรักแต่เพราะมองเห็นและทำตามคนอื่นที่เขาขายดี ซึ่งการเปิดร้านชานมไข่มุกปัจจุบันเราต้องเจอคู่แข่งจำนวนมาก การแข่งขันก็สูง ในโซนเดียวกันอาจเจอร้านชานมไข่มุกมากกว่า 3-4 ร้าน และลูกค้าก็มีตัวเลือกได้ตามต้องการบางวันยอดขายดี บางวันยอดขายไม่ดี สิ่งเหล่านี้จึงต้องมีพื้นฐาน “ใจรัก” ที่จะทำให้ธุรกิจเราอยู่รอดและเดินหน้าต่อได้
 
2.ตั้งเป้าเปิดร้านต้องการให้เติบโตถึงระดับไหน?
 

การเปิดร้านก็ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการให้เติบโตไปถึงระดับไหน จะได้เลือกวิธีการลงทุนได้อย่างชัดเจน เป็นแผนการแบบขั้นบันได เช่นถ้าคิดจะทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่มก็อาจไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องคิดจะขยายร้าน ไม่ต้องหาทำเลที่ค่าเช่าราคาสูง แต่ถ้ามองว่าจะลงทุนเพื่อให้เติบโตเป็นธุรกิจก็ต้องมีจุดเด่น มีคอนเซ็ปต์ร้าน มีการสร้างแบรนด์ให้คนรู้จัก การลงทุนอาจต้องมากขึ้น เป็นต้น
 
3.มีความรู้เรื่องเรื่องชานมไข่มุกมากพอหรือไม่?
 

ชานมไข่มุกเห็นคนอื่นชงก็ดูเหมือนง่าย พอมาทำเองยากกว่าที่คิด ดังนั้นเราต้องมีความรู้มากพอ ทั้งการเลือกชาแต่ละประเภท การต้มไข่มุก สูตรในการชงชาแต่ละเมนู ถ้ายังไม่มีความรู้ดีพอ แนะนำว่าควรไปเรียนรู้ให้มากขึ้นปัจจุบันมีคอร์สอบอบรมให้เลือกมากมาย หรือบางคนอาจลองดูจากYoutube และฝึกทำตาม และก่อนที่จะเปิดร้านก็ควรทดลองทำชานมไข่มุกให้คนในครอบครัวชิม ให้เพื่อนชิม จะได้นำมาพัฒนาเรื่องรสชาติให้ดียิ่งขึ้น
 
4.รู้วิธีการคำนวณต้นทุน-กำไรหรือเปล่า?
 

ถ้าคิดเปิดร้านชานมไข่มุกเพราะคิดว่าสร้างรายได้ดี เราก็ต้องรู้วิธีคำนวณต้นทุน-กำไรที่ถูกต้อง หลักการทั่วไปคือ ต้นทุนต่อแก้ว = ราคาซื้อ X (ปริมาณที่ใช้จริงต่อแก้ว / ปริมาณน้ำหนักต่อถุง) คิดแยกวัตถุดิบออกมาทีละชนิดแล้วค่อยมาบวกรวมกัน เช่นถ้าคิดต้นทุนต่อแก้วอยู่ที่ประมาณ 13 บาทราคาขายปลีกก็ไม่ควรต่ำกว่าแก้วละ 25 -30 บาท เพื่อให้มีกำไรประมาณ 50% จากราคาขายต่อแก้ว เอาไว้หักลบกับต้นทุนผันแปรและต้นทุนจิปาถะภายในร้านจะได้มีส่วนต่างที่เหลือเป็นกำไรได้มากขึ้น 
 
** เป็นการยกตัวอย่างของต้นทุนโดยประมาณ ต้นทุนที่แท้จริงขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละร้านค้าเป็นสำคัญ**
 
5.คอนเซ็ปต์ของร้าน/ ชื่อร้านคืออะไร?
 

บางคนคิดว่าชานมไข่มุกก็คือชานมไข่มุก ทำไมต้องมีคอนเซ็ปต์ให้วุ่นวาย แต่อย่าลืมว่ายุคนี้คู่แข่งร้านชานมเยอะมาก ลูกค้ามีสิทธิเลือกซื้อร้านไหนก็ได้ ดังนั้นเราต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ร้านเราเป็นที่รู้จักและถูกใจ ซึ่งก็คือ “คอนเซ็ปต์” ของร้านที่ควรมีชัดเจน เพราะจะไปสัมพันธ์กับชื่อร้าน ที่สื่อถึงจุดขายได้ เช่น “ชานมไข่มุกเพื่อสุขภาพ” “ชานมไข่มุกสูตรโบราณ” เป็นต้น ข้อดีของการมี “คอนเซ็ปต์” คือทำให้เรามีแนวทางในการต่อยอดสร้างแบรนด์ให้เป็นเอกลักษณ์ได้ง่ายขึ้น
 
6.เมนูเครื่องดื่มมีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไร?
 

เมื่อมีคอนเซ็ปต์ เราต้องรู้ว่าในร้านเราจะขายเมนูอะไรบ้าง การมีเมนูให้เลือกหลากหลายก็ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น แต่ก็ทำให้เรามีความยุ่งยากในการจัดเตรียมวัตถุดิบมากขึ้นเช่นกัน สิ่งที่เราต้องโฟกัสคือหาเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านชนิดที่พูดถึงคนรู้จักทันที และเมื่อมีเมนูเด่นก็จะทำให้ลูกค้าสนใจเมนูอื่นเพิ่มมากขึ้น และที่ต้องไม่ลืมคือการพัฒนาเมนูใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อไม่จำเจและสร้างสีสันได้ตลอดเวลา
 
7.กลุ่มลูกค้าหลักที่ต้องการขายสินค้าคือใคร?
 

ก่อนเปิดร้านต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าหลักของร้านชานมไข่มุกเราคือใคร เพื่อให้จัดรูปแบบร้าน พัฒนาเมนูให้สอดคล้อง โดยทั่วไปลูกค้าชานมไข่มุกมี 3 กลุ่มหลักคือ
  • กลุ่ม Mass ลูกค้าทั่วไป ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 19 - 40 บาท
  • กลุ่ม Medium ลูกค้าที่พอจะมีกำลังซื้อ ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 40 - 70 บาท
  • กลุ่ม Premium เน้นสินค้าเกรดพรีเมี่ยม ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 70 - 200 บาท
การโฟกันกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนทำให้เราร้านดูว่ามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสามารถทำการตลาดได้ง่าย
 
8.ทำเลเปิดร้านอยู่ที่ไหน?
 

สิ่งที่ต้องตอบคำถามให้ได้คือ “เราจะเปิดร้านที่ไหน” การเลือกทำเลมีผลต่อการขายแน่นอน ยิ่งเลือกกลุ่มลูกค้าของร้านได้แล้วก็ต้องเลือกทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าของเราอยู่เยอะ เช่นกลุ่ม Mass ลูกค้าทั่วไปทำเลก็ควรอยู่หน้าโรงเรียน โรงงาน ตลาดนัด ย่านชุมชน หรือ กลุ่ม Medium ก็อาจเป็นทำเลคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ หรือถ้าเน้นแบบพรีเมี่ยมก็ควรเป็นทำเลห้างสรรพสินค้า เป็นต้น หรือบางคนต้องการลงทุนแบบใช้ทำเลหน้าบ้านตัวเองก็ต้องตอบคำถามให้ได้ว่าหน้าบ้านเราจะเน้นขายให้ใคร มีลูกค้ามากน้อยแค่ไหน จะได้โฟกัสเรื่องการลงทุนได้ง่ายขึ้น
 
9.มีเงินสำหรับการลงทุนแค่ไหน?
 

เพราะบางครั้งการเปิดร้านแม้จะขนาดเล็กก็ต้องมีเงินทุนเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 5,000 – 10,000 บาท เงินทุนที่จะใช้เปิดร้านชาไข่มุกหลักๆ แล้ว เป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าอุปกรณ์จัดร้านที่รวมถึงอุปกรณ์ทำเครื่องดื่มและวัตถุดิบต่างๆ ค่าแรงพนักงาน (ถ้าไม่ได้ขายเอง) และค่าการตลาด ซึ่งเงินทุนจะมากน้อยเพียงใดนั้นผันแปรไปตามขนาดของธุรกิจ เช่น การเช่าพื้นที่เล็กๆ หน้าโรงเรียน ใช้อุปกรณ์มือสอง หาซื้อวัตถุดิบได้ในราคาถูก และชงขายเอง โดยไม่ได้จ้างพนักงาน ต้นทุนของก็จะน้อยกว่าการไปเช่าพื่นที่ในห้างใหญ่และจ้างพนักงานทำงาน เป็นต้น 
 
10.อยากลงทุนเอง หรือต้องการลงทุนระบบแฟรนไชส์?
 

ในยุคนี้มีการลงทุนแฟรนไชส์ให้เลือกเริ่มต้นได้ทันที มีหลายแฟรนไชส์น่าสนใจเช่น ชาฟูมิโกะ , แอม ที , ดาคาซี่ , ชีกกี้ มังกี้ คาเฟ่ , ฮ็อป ชาเฟ่ , โอชายะ สตาร์อัพ , ชาไข่มุก ไอ-ฉะ , โมโม่ฉะชานมไข่มุกไต้หวัน เป็นต้น ข้อดีของการลงทุนแฟรนไชส์คือมีแพคเกจลงทุนให้เลือก มีทีมงานมืออาชีพให้คำปรึกษา มีการสอนเทคนิคเปิดร้าน การสนับสนุนวัตถุดิบอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน สามารถต่อยอดสร้างรายได้ทันที ในกรณีที่ต้องการลงทุนเองมีข้อดีคือสามารถสร้างจุดเด่น เอกลักษณ์สินค้าได้ตามต้องการ และในอนาคตมีโอกาสต่อยอดพัฒนาให้เป็นระบบแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ของตัวเองได้
 
11.มีรูปแบบร้านและการจัดแต่งร้านแบบไหน?
 

การกำหนดรูปแบบร้านที่ชัดเจนทำให้เรารู้ได้ว่าในร้านจะมีการจัดวางอุปกรณ์แบบไหนอย่างไร เช่นกาน้ำร้อน หม้อต้มไข่มุก ชั้นวางแก้ว เครื่องซีลฝา เป็นต้น ถ้าหากเราไม่กำหนดรูปแบบร้านที่ชัดเจนว่าจะเป็นรูปแบบไหน สไตล์ไหน ขนาดร้านเล็กหรือใหญ่ จะทำให้เราเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมได้ยาก เมื่อร้านมีการจัดวางไม่เป็นระเบียบทำให้การหยิบจับใช้เครื่องมือก็ทำได้ยาก และอาจเป็นปัญหาในระหว่างการเปิดร้านหรือเมื่อมีออร์เดอร์มาก ๆ จะทำให้ร้านยุ่งและวุ่นวายได้
 
12.จัดหาวัตถุดิบและอุปกรณ์จากที่ไหน?
 

ถ้าคิดจะเปิดร้านในกรณีที่ไม่ได้ซื้อแฟรนไชส์เราก็ต้องรู้ว่าแหล่งวัตถุดิบนั้นอยู่ที่ไหน ที่สำคัญต้องคุณภาพดีและมีราคาเหมาะสมกับเรามากที่สุด วัตถุดิบหลักๆ เช่น ผงชา ไข่มุก ผงผลไม้ นม เป็นต้น การมีแหล่งวัตถุดิบที่ชัดเจนทำให้เราควบคุมคุณภาพสินค้าได้ตามต้องการและควบคุมต้นทุนของร้านได้ดีกว่า รวมถึงอุปกรณ์ภายในร้านก็ควรมีแหล่งจำหน่ายที่ทำให้เราซื้อได้ง่ายๆ หรือสั่งแล้วได้ในทันที มีผลอย่างยิ่งต่อการขายสินค้ายิ่งเป็นร้านใหญ่มีลูกค้ามากแหล่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ยิ่งต้องชัดเจนเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไม่มีสะดุด
 
13.เข้าใจเรื่องการโปรโมทร้านและกลยุทธ์การตลาด ดีพอไหม?
 

สมัยนี้ถ้าคิดจะเปิดร้านแต่ไม่รู้จักวิธีโปรโมทและการทำตลาดโอกาสอยู่รอดนั้นยากมาก โดยเฉพาะการใช้โซเชี่ยลที่มีผลกับการสร้างแบรนด์ สิ่งที่ควรรู้คือการทำตลาดผ่าน Facebook , LINE , Instagram รวมถึงการใช้บริการแอพเดลิเวอรี่ต่างๆ ที่ล้วนแต่มีผลต่อการสร้างยอดขาย และเป็นช่องทางในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น
 
14.จะขายเองหรือว่าจ้างพนักงาน?
 

บางทีก็เป็นเรื่องต้องตัดสินใจว่าร้านชานมไข่มุกของเราอยากจะทำเอง หรือจ้างพนักงานช่วยขาย ถ้าเลือกขายเองก็หมายความว่าเราต้องมีเวลามากพอที่จะบริหารจัดการเองได้ทั้งหมด เหมาะกับคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ แต่ถ้าเลือกจ้างพนักงานขายก็เหมาะกับคนที่อาจต้องการสร้างรายได้เพิ่ม แต่การเลือกพนักงานมาช่วยขายก็ต้องให้ไว้ใจที่จะฝากร้านให้ดูแลได้ ข้อดีของการทำเองขายเองคือการใส่ใจกับลูกค้าดูแลลูกค้าควบคุมคุณภาพได้เต็มที่ แต่หากจ้างพนักงานขายถ้าได้ลูกจ้างที่เอาใจใส่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากในการเปิดร้าน
 
15.มีแผนสำรองในกรณีฉุกเฉินอย่างไรบ้าง?
 

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงแม้เราจะมีแผนการตลาดอย่างดี สำรวจข้อมูลก่อนเปิดร้าน มั่นใจในสินค้าและบริการอย่างมาก แต่เมื่อเริ่มดำเนินธุรกิจย่อมต้องมีปัญหาตามมาเช่นการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ , กำลังการซื้อที่ลดลง , การตัดราคา , การถูกโจมตีจากคู่แข่ง รวมถึงปัญหาอื่น ๆ อีกมากสิ่งเหล่านี้ควรต้องมีแผนสำรองเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นการคิดและเตรียมแผนเผื่อไว้ล่วงหน้าในกรณีที่เกิดปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
 
คำถามเหล่านี้ล้วนแต่สำคัญและจำเป็น คนอยากเปิดร้านชานมไข่ควรมีคำตอบของคำถามเหล่านี้อยู่ในใจ และไม่ใช่แค่นั้นการลงทุนเปิดร้านก็ควรมีวิสัยทัศน์มีมุมมองการตลาด มีแนวคิดในการต่อยอดที่ดี เพราะทุกการลงทุนมาคู่กับความเสี่ยง จะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ก็อยู่ที่แผนดำเนินธุรกิจที่เราควรชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น
 
สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านค้าขาย , ร้านค้าขนาดเล็ก, SMEs, แฟรนไชส์" และสนใจเช่าพื้นที่ "หน้าโลตัส/ Lotus's" ทั่วประเทศ คลิก https://forms.gle/V4r1VYTWVU8zdEsWA 
 
หรือธุรกิจใดต้องการสร้างระบบภายในร้าน สามารถใช้บริการ FoodStory คลิก https://forms.gle/NXsbPMRY9UfitLNM9 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3SolzsK , https://bit.ly/3DV4DGe , https://bit.ly/3SfSZKl , https://bit.ly/3BN2f1F 
 
ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในปี 2565 มีแนวโน้มเติบโต 5.4% ด้วยมูลค่า 3.85 แสนล้านบาท ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกลงไปพบว่า การเปิดร้านอาหารคือธุรกิจที่คนสนใจมากที่สุดเพราะอาหารคือหนึ่งในปัจจัยดำรงชีวิตที่สำคัญ แต่ใช่ว่าคิดเปิดร้านอาหารแล้วจะมีกำไรได้ทุกคน www.ThaiFranchiseCenter.com ต้องการให้วางแผนดีๆ ค..
27months ago   1,756  9 นาที
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
เทคนิคสร้างยอดขาย สินค้านิยมต่ำ กำไรสูง
1,685
5 อันดับ โรงงาน OEM รับผลิตครีม ผลิตเครื่องสำอาง..
993
แก่น CJ More ทำธุรกิจกำไรให้กำไร
899
กลยุทธ์ลดราคา! ร้านค้าปลีกปั้น House Brand ถัวเฉ..
608
กลยุทธ์ Hotelling model เปิดร้านข้างคู่แข่ง มีแต..
575
เปิดร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ..
563
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด