บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
370
2 นาที
26 กรกฎาคม 2567
ทุนหนาเจ๊งได้หลายรอบ กับ ทุนบางเจ๊งได้ครั้งเดียว ใครมีโอกาสสำเร็จมากกว่า?
 

เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากทำธุรกิจแล้วเจ๊ง แต่ในความเป็นจริงการทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยงเสมอ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้วันนี้ ล้วนแต่ประสบกับความความล้มเหลวและเจ๊งมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่พวกเขากระตือรือร้น ล้มแล้วต้องลุกขึ้นให้เร็ว ใจต้องกล้าที่จะก้าวข้ามผ่านปัญหา และมีกำลังใจที่ยืนหยัดสู้ต่อไปจนพบกับความสำเร็จ
 
ถ้าถามว่าในสภาพเศรษฐกิจแบบทุกวันนี้ คนที่มีเงินทุนทำธุรกิจสามารถเจ๊งได้หลายๆ รอบ กับ คนทุนน้อยทำธุรกิจสามารถเจ๊งได้แค่ครั้งเดียว ใครจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่ากัน 
 
คำตอบ ทั้งสองคนมีโอกาสประสบความสำเร็จและล้มเหลวได้เท่าๆ กัน ซึ่งตามหลักความจริงคนที่มีเงินทุนมากจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนมีเงินทุนน้อย เพราะถ้าเจ๊งก็ลงทุนใหม่ได้อีก ส่วนทุนน้อยพอเจ๊งก็ไม่มีเงินทุนไปต่อได้ 
 
#ลงทุนสูงให้ดัง ไม่ปังเสมอไป 
 

ภาพจาก https://elements.envato.com

หลายๆ คนเริ่มทำธุรกิจมักมองว่า ต้องทำธุรกิจให้ใหญ่โตไปเลย ใช้เงินสร้างชื่อให้โด่งดัง ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ แต่รู้หรือไม่การที่จะทำเรื่องเหล่านี้ได้ ส่วนใหญ่ต้องใช้เงินลงทุนที่สูงมาก เช่น การจัดงานเปิดตัวสินค้าใหญ่โต หรือเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่เปิดเป็นร้านอาหาร แต่พอมาเจอวิกฤตอย่างโควิดหรือภาวะเศรษฐกิจฝืดในปัจจุบันก็จอดสนิทได้เหมือนกัน
 
ส่วนคนที่มีทุนน้อย รู้จักวางแผนค่อยเป็นค่อยไป ก้าวเดินไปทีละนิดทีละหน่อย เช่น หากเปิดร้านอาหาร ก็อาจเริ่มจากการรับทำอาหารส่งที่ทำงาน หรือที่บ้านแบบเดลิเวอรี่ โดยไม่ต้องมีหน้าร้านให้เปลืองค่าเช่า หรือถ้าอยากขายสินค้า แทนที่จะต้องเปิดร้านใหญ่โต ก็นำสินค้ามาวางขายบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ การเริ่มต้นธุรกิจแบบนี้เหมือนเป็นการชิมลาง ทดลองตลาด เพื่อค่อยๆ ขยายให้ใหญ่โตขึ้น ถ้าหากผลการตอบรับไม่ดี ก็สามารถหยุดได้เลยโดยไม่เจ็บตัว 
 
ยกตัวอย่างอีกกรณี หลายคนเปิดร้านอาหาร อยากทำร้านดีๆ หรูๆ ใช้เงินลงทุนจำนวนมาก จ่ายค่าเช่าแพงๆ ขายถูกเอาใจลูกค้า เก็บเงินคนละ 35-50 บาท ช่วงเปิดร้านตอนแรกๆ คนเยอะ พอผ่านไปเดือนที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 แทบไม่มีคนเลย
 
ส่วนอีกคนมีเงินทุนน้อย แต่ทำอาหารอร่อย ขายราคาเท่าๆ กัน เริ่มแรกเปิดเป็นรานเล็กๆ ลงทุนน้อยๆ แต่มีลูกค้าประจำมาใช้บริการจำนวนมาก พอเปิดได้สัก 1 ปี หรือ 2 ปี เริ่มขยายการลงทุนเพิ่มตามกำลัง ตามเงิน และรายได้ที่มีเข้ามา
 
ล้ม...แล้วลุกไว เรียนรู้ข้อผิดพลาด  
 

ภาพจาก https://elements.envato.com

ไม่ว่าใครจะมีทุนมากหรือทุนน้อย แต่ถ้าทำธุรกิจแล้ว "ล้มเหลว" ต้องลุกให้ไว ต้องมองว่าความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาในโลกธุรกิจ ตราบใดที่ยังมีแรง และความสร้างสรรค์ ก็สามารถกลับมาเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ได้เสมอ
 
ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คน ต่างประสบกับความล้มเหลวมาหลายครั้ง พวกเขาล้มแล้วลุกไว เรียนรู้ข้อผิดพลาดที่ทำให้ธุรกิจเจ๊ง เช่น การบริหารจัดการทางการเงิน ภาษีต่างๆ ต้องแยกกระเป๋าเงินธุรกิจกับกระเป๋าส่วนตัว ถ้าไม่แยกก็จะไม่รู้รายได้ที่แท้จริง ทำให้เกิดปัญหา ขาดเงินหมุนเวียนไปจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเงินเดือนพนักงาน สุดท้ายก็ขาดทุน ดังนั้น ถ้าไม่อยากเจ๊งในการทำธุรกิจ ควรแยกกระเป๋าเงินส่วนตัวกับธุรกิจออกจากกัน
 
สุดท้าย ขอฝากคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำธุรกิจ อย่างแรกอย่าทำธุรกิจตามกระแส ควรศึกษาและเรียนรู้กับธุรกิจที่จะทำก่อน และดูว่าเหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ ต้องมีความอดทน มีความพยายาม รู้จักการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ที่สำคัญต้องมีใจรักในธุรกิจที่ทำ เชื่อว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นกับคุณมากกว่าที่จะล้มเหลวอย่างแน่นอน

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,818
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,514
โหดจัด! ฟาสต์ฟู้ดจีน ไล่แซงแบรนด์ตะวันตก
754
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
672
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
600
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
535
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด