บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
288
2 นาที
30 กรกฎาคม 2567
แบบไหนรวยเร็วกว่า! หัวการค้า vs หัวธุรกิจ


คุณสมบัติของคนที่จะรวยสิ่งที่ต้องมีคือ “หัวการค้า” ที่จะต่อยอดไปสู่การเป็น “หัวธุรกิจ” ในอนาคตได้ ก่อนอื่นต้องบอกว่า 2 คำนี้ความหมายคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน
 
หัวการค้า คือผู้ที่ลงทุนอะไรไปแล้วต้องกำไรทันที เช่น การขายสินค้า ซื้อ มา 100 บาท ขาย 150 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วยังต้องกำไร จะกำไรมากหรือกำไรน้อยแต่ก็ขอให้มีกำไร ซึ่งคนหัวการค้าถ้าไม่มีการต่อยอดก็ยังเป็นแค่พ่อค้าทั่วไป
 
หัวธุรกิจ คือผู้ที่ยอมลงทุนก่อนโดยไม่ได้หวังว่าจะต้องกำไรในทันที บางครั้งยอมขาดทุนก่อนเพื่อหวังผลกำไรในระยะยาวและคนหัวธุรกิจจะรู้จักการพัฒนาธุรกิจตัวเองให้เติบโตขึ้นเป็นลำดับขั้น มีการสร้างระบบมีการสร้างทีมงานเพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตสูงสุด
 
ซึ่งนอกจากวิสัยทัศน์ที่แตกต่างและความกล้าได้กล้าเสีย ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่หัวการค้าและหัวธุรกิจ นั้นต่างกันเช่น
 
พ่อค้ามักยึดติดกับตัวเอง แต่หัวธุรกิจเน้นหาคนเก่งมาช่วย
 

พ่อค้ามักไม่ค่อยจ้างพนักงานเพราะมองว่าบริหารด้วยตัวเองจะดีกว่า รวมถึงไม่เชื่อใจคนอื่นว่าจะมาทำงานได้ดีเหมือนที่ตัวเองทำแตกต่างจากนักธุรกิจที่ พร้อมเปิดรับคนมาช่วยทำงานเพราะคนหัวธุรกิจจะมองว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบหรือเก่งเหนือคนอื่นแต่สิ่งที่ต้องมีคือ คิดเร็ว ทำเร็ว มองเกมออก และไม่ได้ทำทุกอย่างเองทั้งหมด อะไรที่ไม่ถนัดก็จ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วย
 
พ่อค้าไม่ได้คิดเรื่องกลุ่มลูกค้า แต่นักธุรกิจให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย
 
คนที่มีหัวธุรกิจจะเน้นกลุ่มเป้าหมายมากกว่าโฟกัสแค่กลุ่มลูกค้า ยกตัวอย่างพ่อค้า 1 คนสร้างร้านค้าใช้เวลา 1 ปีทำให้ 1,000 คนรู้จักร้าน แต่นักธุรกิจอาจใช้เวลา 6 เดือนในการทำให้คนกว่า 10,000 คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้รู้จักธุรกิจจากนั้นจะกลายมาเป็นลูกค้ามากแค่ไหนก็อยู่ที่สินค้าและบริการเป็นสำคัญ แนวคิดของหัวธุรกิจคือยิ่งคนรู้จักแบรนด์ ยิ่งผ่านสายตาคนได้มาก โอกาสขายก็มีมากขึ้นเช่นกัน
 
หัวธุรกิจรู้จักต่อยอดและเปลี่ยนแปลง
 

คนที่มีหัวธุรกิจรู้ดีว่าการค้าขายย่อมมีโอกาสเจอคู่แข่งมาก จำเป็นต้องต่อยอดจากสิ่งเดิมให้ดียิ่งกว่า ในความคิดของหัวธุรกิจมองว่าโอกาสมีอยู่รอบตัวเพียงแต่ใครจะเห็นและคว้ามาก่อน เหมือนอย่างที่ CP ที่ดึงเอา 7-Eleven มาลงทุนในประเทศไทย เปลี่ยนแปลงวงการค้าปลีกเมืองไทยอย่างสิ้นเชิงนั้นคือหนึ่งในการต่อยอดและเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด
 
ดังนั้นถ้าย้อนไปที่คำถามว่า “แบบไหนรวยเร็วกว่า” คำตอบก็ชัดเจนว่า “หัวธุรกิจ” รวยเร็วกว่า
 
ถ้าจะพูดให้เห็นภาพต้องยกตัวอย่าง “คนจีน” ที่มีทั้งหัวการค้าและหัวธุรกิจอยู่รวมภายในตัวเอง ซึ่ง มีผลสำรวจที่น่าสนใจระบุว่า มีคนจีนกว่า 3 ล้านคนที่มีสินทรัพย์เกิน 30 ล้านบาท ในจำนวนนี้ประมาณ 1 ล้านคน มีสินทรัพย์เกิน 50 ล้านบาท โดยคนเหล่านี้อยู่ในวัย 40-50 ปี ในเมืองไทยเองก็มีคนไทยเชื้อสายจีนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอยู่จำนวนมาก เช่น คุณธนินท์ เจียรวนนท์ (แซ่เจี๋ย) , คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี (แซ่โซว) ,ตระกูลจิราธิวัฒน์ (แซ่เจ็ง) เป็นต้น
 
 
ปรัชญาการทำธุรกิจของคนจีนที่จริงสามารถใช้เป็นต้นแบบของความสำเร็จได้อย่างดีเพราะมีทั้งหัวการค้าและหัวธุรกิจรวมไว้ด้วยกันเราจะเห็นว่าคนจีนมักสอนลูกหลานว่าเมื่อมีเงินอย่าไปใช้ฟุ่มเฟื่อย ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้ และต้องมีส่วนที่เก็บไว้ขยายธุรกิจด้วย การขยายธุรกิจแบบจีนใช่จะโตแบบพรวดพราด แต่จะค่อยๆขยาย จากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม 

 
อย่างไรก็ดีการมีหัวธุรกิจก็ต้องสัมพันธ์กับมีหัวทางการเงินด้วย แนวคิดการทำธุรกิจที่ถูกต้องไม่นิยมการนำเงินไปกระจุกไว้ที่เดียว แต่ควรที่จะกระจายความเสี่ยงไปสู่การลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เช่นอสังหาริมทรัพย์ หุ้นส่วนในกิจการอื่น รวมถึงการลงทุนหรือขยายกิจการในต่างประเทศอันเป็นการกระจายความเสี่ยงหากเกิดปัญหากับธุรกิจหลักก็ยังมีรายได้จากทางอื่นหลงเหลืออยู่

จุดเด่นของคนหัวธุรกิจที่ทำให้ร่ำรวยคือ “คิดแล้วทำ” “ทำแล้วตั้งใจ” “ต่อขยายธุรกิจอย่างเป็นระบบ” ซึ่งจุดนี้คนไทยหลายคนก็มีไอเดียธุรกิจที่ดีมีหัวการค้าแต่ต่อยอดไปเป็นหัวธุรกิจไม่ได้เพราะส่วนใหญ่มักไม่พัฒนาให้ต่อเนื่อง หรือมีความกลัวต่างๆนานา เช่นกลัวขาดทุน กลัวไม่มีคนซื้อ กลัวเป็นหนี้ สุดท้ายก็ย่ำอยู่กับที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแม้แต่น้อย

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แค่ใส่ใจ ใช้ให้เป็น Data-Driven Marketing อาวุธล..
2,346
ผู้กำกับ งานหด...สู่ครีเอเตอร์ TikTok ปั้นคอนเทน..
2,049
เศรษฐกิจไร้สัญญาณฟื้น! ทุบธุรกิจไทย เจ๊งแล้ว เจ๊..
1,235
จ่ายเท่าไหร่ ถ้านำสินค้าเข้าไปขายใน 7-Eleven
708
ร้านอาหารไทย หมดแรง กำลังซื้อหด ต้นทุนสูง ปิดตัว..
697
พลิกโฉม! 5 เทคนิค ทำธุรกิจแนวญี่ปุ่น ไม่เคยบอกใคร
669
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด