บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
435
2 นาที
30 กรกฎาคม 2567
แบบไหนรวยเร็วกว่า! หัวการค้า vs หัวธุรกิจ


คุณสมบัติของคนที่จะรวยสิ่งที่ต้องมีคือ “หัวการค้า” ที่จะต่อยอดไปสู่การเป็น “หัวธุรกิจ” ในอนาคตได้ ก่อนอื่นต้องบอกว่า 2 คำนี้ความหมายคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน
 
หัวการค้า คือผู้ที่ลงทุนอะไรไปแล้วต้องกำไรทันที เช่น การขายสินค้า ซื้อ มา 100 บาท ขาย 150 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วยังต้องกำไร จะกำไรมากหรือกำไรน้อยแต่ก็ขอให้มีกำไร ซึ่งคนหัวการค้าถ้าไม่มีการต่อยอดก็ยังเป็นแค่พ่อค้าทั่วไป
 
หัวธุรกิจ คือผู้ที่ยอมลงทุนก่อนโดยไม่ได้หวังว่าจะต้องกำไรในทันที บางครั้งยอมขาดทุนก่อนเพื่อหวังผลกำไรในระยะยาวและคนหัวธุรกิจจะรู้จักการพัฒนาธุรกิจตัวเองให้เติบโตขึ้นเป็นลำดับขั้น มีการสร้างระบบมีการสร้างทีมงานเพื่อพัฒนาธุรกิจให้เติบโตสูงสุด
 
ซึ่งนอกจากวิสัยทัศน์ที่แตกต่างและความกล้าได้กล้าเสีย ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่หัวการค้าและหัวธุรกิจ นั้นต่างกันเช่น
 
พ่อค้ามักยึดติดกับตัวเอง แต่หัวธุรกิจเน้นหาคนเก่งมาช่วย
 

พ่อค้ามักไม่ค่อยจ้างพนักงานเพราะมองว่าบริหารด้วยตัวเองจะดีกว่า รวมถึงไม่เชื่อใจคนอื่นว่าจะมาทำงานได้ดีเหมือนที่ตัวเองทำแตกต่างจากนักธุรกิจที่ พร้อมเปิดรับคนมาช่วยทำงานเพราะคนหัวธุรกิจจะมองว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบหรือเก่งเหนือคนอื่นแต่สิ่งที่ต้องมีคือ คิดเร็ว ทำเร็ว มองเกมออก และไม่ได้ทำทุกอย่างเองทั้งหมด อะไรที่ไม่ถนัดก็จ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วย
 
พ่อค้าไม่ได้คิดเรื่องกลุ่มลูกค้า แต่นักธุรกิจให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมาย
 
คนที่มีหัวธุรกิจจะเน้นกลุ่มเป้าหมายมากกว่าโฟกัสแค่กลุ่มลูกค้า ยกตัวอย่างพ่อค้า 1 คนสร้างร้านค้าใช้เวลา 1 ปีทำให้ 1,000 คนรู้จักร้าน แต่นักธุรกิจอาจใช้เวลา 6 เดือนในการทำให้คนกว่า 10,000 คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้รู้จักธุรกิจจากนั้นจะกลายมาเป็นลูกค้ามากแค่ไหนก็อยู่ที่สินค้าและบริการเป็นสำคัญ แนวคิดของหัวธุรกิจคือยิ่งคนรู้จักแบรนด์ ยิ่งผ่านสายตาคนได้มาก โอกาสขายก็มีมากขึ้นเช่นกัน
 
หัวธุรกิจรู้จักต่อยอดและเปลี่ยนแปลง
 

คนที่มีหัวธุรกิจรู้ดีว่าการค้าขายย่อมมีโอกาสเจอคู่แข่งมาก จำเป็นต้องต่อยอดจากสิ่งเดิมให้ดียิ่งกว่า ในความคิดของหัวธุรกิจมองว่าโอกาสมีอยู่รอบตัวเพียงแต่ใครจะเห็นและคว้ามาก่อน เหมือนอย่างที่ CP ที่ดึงเอา 7-Eleven มาลงทุนในประเทศไทย เปลี่ยนแปลงวงการค้าปลีกเมืองไทยอย่างสิ้นเชิงนั้นคือหนึ่งในการต่อยอดและเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุด
 
ดังนั้นถ้าย้อนไปที่คำถามว่า “แบบไหนรวยเร็วกว่า” คำตอบก็ชัดเจนว่า “หัวธุรกิจ” รวยเร็วกว่า
 
ถ้าจะพูดให้เห็นภาพต้องยกตัวอย่าง “คนจีน” ที่มีทั้งหัวการค้าและหัวธุรกิจอยู่รวมภายในตัวเอง ซึ่ง มีผลสำรวจที่น่าสนใจระบุว่า มีคนจีนกว่า 3 ล้านคนที่มีสินทรัพย์เกิน 30 ล้านบาท ในจำนวนนี้ประมาณ 1 ล้านคน มีสินทรัพย์เกิน 50 ล้านบาท โดยคนเหล่านี้อยู่ในวัย 40-50 ปี ในเมืองไทยเองก็มีคนไทยเชื้อสายจีนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอยู่จำนวนมาก เช่น คุณธนินท์ เจียรวนนท์ (แซ่เจี๋ย) , คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี (แซ่โซว) ,ตระกูลจิราธิวัฒน์ (แซ่เจ็ง) เป็นต้น
 
 
ปรัชญาการทำธุรกิจของคนจีนที่จริงสามารถใช้เป็นต้นแบบของความสำเร็จได้อย่างดีเพราะมีทั้งหัวการค้าและหัวธุรกิจรวมไว้ด้วยกันเราจะเห็นว่าคนจีนมักสอนลูกหลานว่าเมื่อมีเงินอย่าไปใช้ฟุ่มเฟื่อย ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้ และต้องมีส่วนที่เก็บไว้ขยายธุรกิจด้วย การขยายธุรกิจแบบจีนใช่จะโตแบบพรวดพราด แต่จะค่อยๆขยาย จากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม 

 
อย่างไรก็ดีการมีหัวธุรกิจก็ต้องสัมพันธ์กับมีหัวทางการเงินด้วย แนวคิดการทำธุรกิจที่ถูกต้องไม่นิยมการนำเงินไปกระจุกไว้ที่เดียว แต่ควรที่จะกระจายความเสี่ยงไปสู่การลงทุนในรูปแบบอื่นๆ เช่นอสังหาริมทรัพย์ หุ้นส่วนในกิจการอื่น รวมถึงการลงทุนหรือขยายกิจการในต่างประเทศอันเป็นการกระจายความเสี่ยงหากเกิดปัญหากับธุรกิจหลักก็ยังมีรายได้จากทางอื่นหลงเหลืออยู่

จุดเด่นของคนหัวธุรกิจที่ทำให้ร่ำรวยคือ “คิดแล้วทำ” “ทำแล้วตั้งใจ” “ต่อขยายธุรกิจอย่างเป็นระบบ” ซึ่งจุดนี้คนไทยหลายคนก็มีไอเดียธุรกิจที่ดีมีหัวการค้าแต่ต่อยอดไปเป็นหัวธุรกิจไม่ได้เพราะส่วนใหญ่มักไม่พัฒนาให้ต่อเนื่อง หรือมีความกลัวต่างๆนานา เช่นกลัวขาดทุน กลัวไม่มีคนซื้อ กลัวเป็นหนี้ สุดท้ายก็ย่ำอยู่กับที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแม้แต่น้อย

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
เทคนิคสร้างยอดขาย สินค้านิยมต่ำ กำไรสูง
1,675
5 อันดับ โรงงาน OEM รับผลิตครีม ผลิตเครื่องสำอาง..
983
แก่น CJ More ทำธุรกิจกำไรให้กำไร
889
กลยุทธ์ลดราคา! ร้านค้าปลีกปั้น House Brand ถัวเฉ..
598
กลยุทธ์ Hotelling model เปิดร้านข้างคู่แข่ง มีแต..
562
เปิดร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ..
552
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด