บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การบริหารจัดการองค์กร    สร้างความสมดุลของชีวิตกับการทำงาน
1.1K
2 นาที
6 กันยายน 2567
กับดักคนทำงาน GenLost ถูกแช่แข็งแบบตายทั้งเป็น!
 

ยุคสมัยเปลี่ยน! สังคมก็เปลี่ยน! ปัจจุบันมีการแยกกลุ่มประชากรออกเป็น Generation โดยใช้ช่วงปีเกิดในการกำหนด
  • Gen B (Baby Boom Generation) - กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2489-2507 (1946-1964)
  • Gen X - กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2522 (1965-1979)
  • Gen Y (Millennials) - กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ.2523-2540 (1980-1997)
  • Gen Z - คนที่เกิดหลัง พ.ศ. 2541-2565 (1998-2024)
ถ้าดูเผินๆเรื่องนี้ก็ไม่น่ามีอะไรให้ตกใจก็แค่เรื่องของคนรุ่นเก่า – คนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นวิถีทางตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกที่ทั่วโลก
 
แต่ในญี่ปุ่นกลับแตกต่าง มีรายงานน่าตกใจที่ระบุว่าคนญี่ปุ่นวัย 40+ (อยู่ในGen Y) คนกลุ่มนี้หางานได้ยาก สู้เด็กใน Gen Z ไม่ได้ แถมยังเงินเดือนไม่โต และได้โบนัสน้อยกว่าคนวัย 20-30 อีกด้วย
 

ภาพจาก https://elements.envato.com
 
กลุ่มนี้ถูกเรียกกันว่าเป็น “เจเนอเรชันที่สูญหาย” หรือ “lost generation” ถ้าย้อนกลับไปดูจะพบข้อมูลที่น่าเห็นใจคนกลุ่มนี้มากขึ้น เนื่องจากในอดีต พวกเขาคือเด็กจบชั้นมัธยมปลายและมหาวิทยาลัยที่ไม่สามารถหางานทำได้เพราะผลพวงเศรษฐกิจตกต่ำหลังฟองสบู่แตก ตลาดการจ้างงานในช่วงนั้นถูกเรียกว่าเป็น “ยุคน้ำแข็ง” (ice age) ลากยาวตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 จนถึงช่วงทศวรรษ 2000 ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับ “ความไม่มั่นคง” ในการทำงานตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพ
 
แต่พอถึงปัจจุบันในยุคที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัว โอกาสในการจ้างงานมีมากขึ้น ภาคธุรกิจกลับทำในสิ่งที่ตรงข้ามคือเอาใจ Gen Z มากกว่า ทั้งให้โอกาสในการทำงาน , การปรับเงินเดือน เท่ากับว่า Gen Z ในญี่ปุ่นกลายเป็นรุ่นที่ไม่ได้รับการเหลียวแลอย่างที่ควรจะเป็น
 
และตลกร้ายยิ่งกว่าเมื่อมีรายงานที่ระบุว่าคนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นมักนิยมเลือกการทำงานแบบ “ไม่เต็มเวลา” ที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าการมีชีวิตแบบ Satori Generation" ซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบไม่หวังรุ่ง ไม่หวังรวย ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ แถมยังมีความสนใจในการซื้อสิ่งของราคาแพงน้อยลงมาก เช่น รถยนต์ บ้าน และยอมรับราคาขั้นต่ำตามที่ต้องการ "เพื่อความอยู่รอด" เท่านั้น
 
ฟังดูก็เป็นเรื่องย้อนแย้งในขณะที่ภาคธุรกิจพยายามเฟ้นหา คน Gen Z มาร่วมงาน และมองข้าม คน Gen Y ถึงขนาดที่กลายเป็น lost generation แต่คนรุ่นใหม่กลับมีแนวคิดที่เน้นความเรียบง่าย ไม่ขวนขวายหาสำเร็จในชีวิตกันซะอย่างนั้น
 
คำถามคือทำไมคนรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นถึงมีความคิดแบบนั้น?
 

ภาพจาก https://elements.envato.com
 
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า จุดที่มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่น แตกต่างจากประเทศอื่น คือ อุดมคติในเรื่องความทุ่มเทและอุทิศตัวเองให้กับบริษัทอย่างยิ่งยวด เรื่อยไปจนกระทั่งถึงจะต้องจัดลำดับความสำคัญของงานและนายจ้างเหนือสิ่งอื่นใด
 
โดยปกติทำงาน 5-6 วันต่อสัปดาห์ โดยเริ่มทำงานตั้งแต่ 09.00 น. - 17.00 น. หรือ 18.00 น. หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ย 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ดีเป็นที่ทราบกันดีว่า เหล่ามนุษย์เงินเดือนของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังคงต้องทำงานอยู่ในสำนักงานจนถึง 21.00 น. หรือ 22.00 น. เป็นอย่างน้อย
DODA เว็บไซต์บริษัทจัดหางานชื่อดังของญี่ปุ่น ระบุว่า ชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาเฉลี่ยในปี 2022 ของเหล่ามนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นอยู่ที่ 22.2 ชั่วโมงต่อเดือน 
 
ซึ่งถ้าดูจากข้อมูลเหล่านี้ก็ชัดเจนว่าสาเหตุสำคัญอาจมาจาก “ความเบื่อหน่าย” หรือ “ความต้องการที่จะออกจากกรอบชีวิตแบบเดิมๆ” ที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่นิยมการทำงานโดยมุ่งเน้นการประสบความสำเร็จเป็นหลักเหมือนที่เคยถูกปลูกฝังกันมาในอดีต
 
ถ้าไปดูข้อมูลเงินเดือนของคนญี่ปุ่น มีรายงานระบุว่าค่าเฉลี่ยเงินเดือนในประเทศญี่ปุ่น ณ ปี 2023 อยู่ที่ 516,000 เยน (126,094 บาท) หรือ 6,200,000 เยน (1,515,083) ต่อปี สำหรับกลุ่มอาชีพที่มีเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด คือ อาชีพในวงการแพทย์และการดูแลสุขภาพ โดยจะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 9,220,000 เยนต่อปี (2,253,075 บาท) แต่แน่นอนว่าความเครียดสะสมจากการทำงานในสไตล์ญี่ปุ่น นั้นเป็นสิ่งที่เรารู้กันเป็นอย่างดี

ซึ่งถ้ามองในวิถีการทำงานแบบคนไทยแล้วต้องบอกว่า “ห่างกันไกล” แถมนิสัยคนไทยในการทำงานก็เทียบไม่ได้กับคนญี่ปุ่นในเรื่องของวินัย และความรับผิดชอบต่างๆ
 

ภาพจาก https://elements.envato.com
 
อันที่จริงปัญหาระหว่าง Gen y และ Gen Z ในญี่ปุ่น ก็เป็นอีกบริบทที่อาจไม่ได้ส่งผลกระทบกับธุรกิจมากจนเกินไปเพราะความเป็นชาตินิยมของญี่ปุ่น นั้นชัดเจนมาก ภาครัฐของญี่ปุ่นน่าจะหาทางออกในเรื่องนี้ได้ไม่ยาก แตกต่างจากสังคมไทยที่ตอนนี้มองแล้วยังน่าห่วงยิ่งกว่า ไหนจะเศรษฐกิจที่ไม่นิ่ง การเมืองที่ไม่แน่นอน ประชาชนมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ยาก และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นตอนไหนอีกด้วย
 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
642
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
590
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
537
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
482
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
472
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
456
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด