บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
471
2 นาที
12 กันยายน 2568
ไขความลับ ร้านแบบ "Kiosk" ลงทุนน้อย กำไรดี รวยเร็ว จริงไหม?
 

ปัญหาหนักใจของคนส่วนใหญ่ในตอนนี้คือ “รายได้ที่ไม่พอกับรายจ่าย” คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนประมาณ 18,802 บาท และถ้าดูให้ลึกถึงโครงสร้างของรายได้คนไทยจะพบว่า
  • 41.14% ของคนไทยมีรายได้ต่อเดือน ต่ำกว่า 15,000 บาท
  • 30.99% มีรายได้ 15,001-30,000 บาท
  • 16.80% มีรายได้ 30,001-60,000 บาท
  • 6.22% มีรายได้ มากกว่า 100,000 บาท
และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือน ตัวเลขในปี 2567 อยู่ที่ 19,319 และในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 20,982-21,069 บาทต่อเดือน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงอยากมีธุรกิจเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ แต่ก็มีปัญหาอีกว่าเงินทุนที่มีแค่เล็กน้อยหรือแทบจะไม่มีเลยจะไปลงทุนร้านใหญ่ๆ ก็คงยาก สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือร้านขนาดเล็ก เอาสะดวกเอาเร็วที่สุดก็คือ “Kiosk” ที่เป็นเหมือนธุรกิจสำเร็จรูปแบบรับจบครบในที่เดียว หลายๆ แฟรนไชส์ก็มีแพ็กเกจนี้ให้เลือก 


ภาพจาก  ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด 
 
ยกตัวอย่าง ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด ที่มีทั้งชุดทดลองขาย , ชุดเคาน์เตอร์ตลาดนัดพกพา , ชุดเคาน์เตอร์มืออาชีพ เป็นต้น งบลงทุนก็แค่หลักพันประมาณ 3,000 – 12,000 บาท ก็ลงทุนแบบ Kiosk ได้ หรือ ชีสซี่ฟรายสแน็ค ก็มี Kiosk ชุดเริ่มต้น ราคา 28,000 บาท และอีกหลายๆแบรนด์ที่น่าสนใจก็เช่น ธงไชยผัดไทย , ฮิปสเตอร์ สเต็ก , สเต็กเด็กแนว , แซ่บเศรษฐี 
 
จุดเด่นของ Kiosk คือมีร้าน + อุปกรณ์ + วัตถุดิบ พร้อมสอนเทคนิคการขาย คนลงทุนขอแค่มีทำเลมีที่ตั้งร้าน บางคนก็ดีหน่อยมีหน้าบ้านอยู่ย่านชุมชนคนพลุกพล่าน ก็เปิดขายได้เลยไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่สิ่งที่น่าสนใจมันมากกว่านั้น Kiosk ลงทุนน้อยก็จริงแต่คำถามคือ “จะขายดีจริงหรือเปล่า” ในเมื่อยุคนี้คู่แข่งก็เยอะร้านเด่นๆ หรูๆ ก็มีมาก เปิดร้านแบบ Kiosk อาจจะขายได้ก็จริงแต่รายได้จะคุ้มค่าหรือจะมีเหลือมากพอให้เราเอามาเป็นเงินหมุนเวียนใช้ในชีวิตประจำวันได้ไหม
 

ภาพจาก เจปัง
 
ลองมาดูแนวทางการวิเคราะห์ที่น่าสนใจเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินก่อนเลือกลงทุน
  • ประเภทสินค้าที่เหมาะกับการขายในรูปแบบร้าน Kiosk ควรเน้นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง เช่น เครื่องดื่ม (ชา กาแฟ นม) อาหารว่าง (ลูกชิ้น ไส้กรอก) หรือขนม มักสร้างรายได้ดีกว่า เพราะเป็นสินค้า Grab-and-Go ที่ลูกค้าซื้อสะดวก
  • ทำเล: ควรเลือกพื้นที่ขายที่มีคนสัญจรหนาแน่น เช่น ในห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด หรือใกล้สถานที่ทำงาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย
สมมุติว่าลองเลือก Kiosk ขายกาแฟ การบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ + ค่าเช่าก็คือตัวแปรสำคัญของการเปิดร้านว่าจะมีกำไรแค่ไหน ในกรณีของร้านกาแฟ มีต้นทุนวัตถุดิบต่อแก้ว (เช่น เมล็ดกาแฟ นม แก้ว หลอด) ประมาณ 40% ของราคาขาย = 20 บาทต่อแก้ว
 

ภาพจาก มาจิเมะ ชานมไข่มุก
 
ค่าใช้จ่ายคงที่อื่นๆ ก็เช่น
  • ค่าเช่าคีออส: 10,000-20,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับทำเล)
  •  ค่าพนักงาน: 10,000 บาทต่อเดือน (สมมติจ้าง 1 คน)
  •  ค่าน้ำ-ไฟและอื่นๆ: 3,000 บาทต่อเดือน
  •  ค่าซ่อมบำรุง/อุปกรณ์: 2,000 บาทต่อเดือน
คำนวณรายได้ต่อเดือนถ้าเราขายแก้วละ 50 บาท 
  • หากขายได้ 100 แก้ว/วัน x 30 = 150,000 บาท
  • หากขายได้ 80 แก้ว/วัน x 30 = 120,000 บาท
ต้นทุนผันแปรต่อเดือน:
  • 100 แก้ว/วัน x 20 บาท x 30 วัน = 60,000 บาท
  • 80 แก้ว/วัน x 20 บาท x 30 วัน = 48,000 บาท
ค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือน ประมาณ 30,000 บาท (ค่าเช่า , ค่าพนักงาน , ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ)
 
กำไรสุทธิต่อเดือน กรณีขายได้ 100 แก้ว/วัน หักลบค่าใช้จ่ายเหลือประมาณ 60,000 บาท เป็นต้น
 

ภาพจาก เดอะ แบล็ค ดราก้อน
 
แต่ตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ตัวเลขการคืนทุน ก็ขึ้นอยู่กับว่าลงทุนในเบื้องต้นไปเท่าไหร่ สมมุติลงทุนไปในครั้งแรก 100,000 บาท จุดคุ้มทุนประมาณ 1.7 เดือน แต่หากลงทุนน้อยกว่านี้ มีรายได้น้อยกว่านี้ตัวเลขก็ต้องมาคำนวณกันใหม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการลงทุนของแต่ละคนที่อาจแตกต่างกัน
 
โดยสรุปแล้ว การลงทุนเปิดร้านแบบ Kiosk ยังมีโอกาสเติบโตและสร้างรายได้ดีคีเวิร์ดสำคัญที่อาจช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ Kiosk คือ การเลือกทำเลที่ดี , การออกแบบคีออสให้สะดุดตา , การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ , การเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการใช้ตลาดออนไลน์ร่วมด้วย

จากข้อมูลที่เราเคยสอบถามบางร้านเช่น ร้านกาแฟเล็กๆ ที่เปิดในตลาดเจ้าของธุรกิจบอกว่าหลังจากหักค่าเช่า + ค่าน้ำค่าไฟ + ค่าวัตถุดิบ + ต้นทุนทุกอย่าง ก็มีเงินเหลือมากกว่าทำงานประจำคือขั้นต่ำก็เหลือไม่ต่ำกว่า 10,000 – 15,000 แต่รายได้นี้ก็ไม่ได้สม่ำเสมอในทุกเดือนขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้า สภาพอากาศ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่สำคัญต้องขยันเปิดร้านทุกวัน อย่าเปิดๆ ปิด การเปิดร้านเล็กๆ ลงทุนอาจไม่มาก แต่ต้องขยันให้มาก รายได้แม้อาจไม่ได้ทำให้รวยในทันที แต่ก็พอมีเงินให้ไปหมุนเวียนใช้ได้มากขึ้น

ตัวอย่างแฟรนไชส์ ร้านแบบ "Kiosk
  1. มาจิเมะ คลิก https://citly.me/5TVzI
  2. เจปัง คลิก https://citly.me/OeJbM
  3. เดอะ แบล็ค ดราก้อน คลิก https://citly.me/NIhvC

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 มาจิเมะ ชานมไข่มุก
ทางบริษัท มาจิเมะ จะมีกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษอยู่เรื่อยๆ ลูกค้าสามารถติดตามผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้Facebook : มาจิเมะชานมไข่มุก – แฟ...
ค่าแฟรนไชส์ 24,599 บาท
 เดอะ แบล็ค ดราก้อน
แฟรนไชส์มาแรง! เข้าถึงง่ายทุกวัย ราคาจับต้องได้ อัดแน่นด้วยคุณภาพคับแก้ว คุ้มค่ากับราคา คำนึงถึงลูกค้าเสมอ รักษามาตรฐานและคุณภาพให...
ค่าแฟรนไชส์ 99,900 บาท
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนค..
904
เทรนด์การตลาดส่งท้ายปี 2025 เมื่อผู้บริโภค “คิดเ..
778
Gong Cha(貢茶) กงชา ทวงความยิ่งใหญ่ 23 ประเทศ 2.1 ..
672
5 ปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ปรับสมดุลชีวิตเพื่..
575
เจาะลึกกรณีศึกษา SMEs ที่ใช้ปั้มแชร์แล้วได้ผลลัพ..
522
ทำเลทองของ “คาเฟ่ร้านกาแฟ” เปิดที่ไหน กำไรดีที่..
508
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด