ปัจจุบันต้องยอมรับว่า Social Media ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตในการดำเนินชีวิตของเราเรียบร้อยแล้ว รวมถึงการดำเนินธุรกิจของเราด้วย เราอาจไม่จำเป็นต้องขับรถไปประชุม หรือนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศเพื่อไปประชุม ซึ้งต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูง เราสามารถใช้ไอทีอย่าง Skype, Hangouts, Video Call ในการประชุมกันได้  
 

ลูกค้าไม่ต้องไปที่ Shop เพื่อขอความช่วยเหลือจากแบรนด์ เพียงแค่โพสต์ไปยัง Facebook Page ของแบรนด์ เดี๋ยวแบรนด์ก็จะมาตอบเอง เราไม่จำเป็นต้องรีบกลับบ้านดูข่าวทางที่วี เพราะอยู่ที่หน้าจอมือถือของเรา ทุกที่ ทุกเวลาแล้ว
 

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปดูพฤติกรรมการใช้ Facebook ที่เปลี่ยนแปลงไปของคนไทย ซึ่งเป็นการนำเสนอการวิจัยโดย บริษัท กันตาร์ เวิร์ลดพาแนล (ไทยแลนด์) บริษัทวิจัยด้านพฤติกรรมผู้บริโภค ไปดูกันว่าพฤติกรรมการใช้ Facebook ของคนไทยที่เปลี่ยนไป จะส่งผลดีต่อธุรกิจ SMEs อย่างไรบ้าง 

 

ภาพจาก goo.gl/BR0UJe

ผลการวิจัยแนวโน้มและพฤติกรรมใช้สื่อ ที่มีผลต่อการจับจ่ายและวางแผนด้านสื่อของแบรนด์สินค้า ซึ่งเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 4,000 รายทั่วประเทศเพื่อวิเคราะห์ว่า ผู้รับสื่อแต่ละช่องทางมีพฤติกรรมการใช้งานและไลฟ์สไตล์อย่างไร ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ผู้ลงโฆษณาได้ตรงกว่าการวิจัยแบบเดิม ที่เน้นข้อมูลอย่างเพศ อายุ รายได้เท่านั้น
 

โดยหนึ่งในตัวอย่างผลวิจัยที่น่าสนใจ คือ เรื่องพฤติกรรมการใช้งานเฟสบุ๊กของคนไทยที่เปลี่ยนไปในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงานอายุ 18-34 ปี เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าดูหน้าเพจของแต่ละแบรนด์ ดูและคลิกโฆษณา รวมถึงคลิกลิงค์ที่เชื่อมโยงไปยังร้านค้าของแบรนด์นั้นๆ อีกด้วย
 

แตกต่างจากเดิมที่เน้นการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ด้วยกัน อย่างไทม์ไลน์หรือแชต รวมถึงการอ่านข่าวและดูภาพวิดีโอเป็นหลัก ในขณะที่กลุ่มวัยกลางคนและสูงวัยอายุ 45-60 ปี กลับไม่ค่อยสนใจแบรนด์และโฆษณามากนัก
 

สำหรับพฤติกรรมการใช้ Facebook ของคนไทยในปี 2559 เมื่อเทียบกับปี 2558 สามารถสรุปลักษณะการใช้เป็นเปอร์เซ็นต์ ได้ดังนี้

นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมการใช้ Facebook ของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป จึงน่าจะเปิดโอกาสให้ธุรกิจ SMEs สร้างธุรกิจ สร้างแบรนด์ สร้างยอดขายผ่าน Facebook ได้ไม่ยากในยุคปัจจุบัน  
 

จากเทรนด์ใหม่การใช้ Facebook ของผู้บรโภคคนไทย น่าจะเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการ SMEs ในการใช้ Facebook สร้างโอกาสสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขาย

เนื่องจาก Facebook เอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกอบการใช้เป็นช่องทางในการทำธุรกิจ ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนกระบวนการการสร้างยอดขาย ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก, การให้ข้อมูลสินค้า

ในรูปแบบต่างๆ ทั้งที่เป็นตัวอักษร, รูปภาพ, ตลอดจนคลิป VDO ที่ผู้บริโภคจะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อ จนกระทั่งกระบวนการสุดท้ายคือการสั่งซื้อสินค้า ที่ผู้บริโภคก็สามารถทำได้บน Facebook เช่นกัน

 

เทคนิคการสร้างแบรนด์ สร้างยอดขายผ่าน Facebook 
 

Facebook Page เปรียบเสมือนหน้าร้านของธุรกิจ การสร้าง Facebook Page ให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และมีช่องทางที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถติดต่อกับผู้ขายได้สะดวก จะช่วยให้กลุ่มลูกค้าบนโลกออนไลน์เข้าถึงสินค้าและธุรกิจของเราได้ง่ายและรวดเร็ว

รวมถึงการใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ในหัวข้อ About อย่างครบถ้วน เช่น ที่ตั้งร้านค้า เวลาทำการ ข้อมูลติดต่อกลับ ประวัติที่มาของธุรกิจ ตลอดจนสินค้าต่างๆ ก็จะช่วยทำให้ Facebook Page ธุรกิจนั้นดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
 

ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ก็สามารถต่อยอดกลายมาเป็นแฟน Facebook Page ของธุรกิจได้เช่นกัน หากผู้ประกอบการโปรโมท Facebook Page ของธุรกิจร่วมกับเว็บไซต์

ด้วยการติดตั้ง Facebook Like Box และ Social Bottom ภายในเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ติดตามข่าวสารต่างๆ ที่ธุรกิจอัพเดทขึ้น Facebook ผ่านเว็บไซต์ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กด Like และ Share ข้อมูลของธุรกิจได้อย่างสะดวก ซึ่งยังส่งผลให้เพื่อนของผู้เยี่ยมชมเห็นข้อมูลธุรกิจเหล่านั้นอีกด้วย
 

 

เนื้อหาภายใน Facebook Page ที่ดี ช่วยเรียกความสนใจ และปฏิสัมพันธ์จากกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะภาพสวยๆ, คลิป Video สั้นๆ, เทคนิค เคล็ดลับดีๆ หรือโปรโมชั่นของธุรกิจ

รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ธุรกิจจัดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีเนื้อหาที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการต้องโพสต์เนื้อหาเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ และควรเป็นในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป จนมองไม่เห็นสินค้าของธุรกิจ หรือไม่น้อยเกินไป จนผู้บริโภครู้สึกว่า Facebook Page นี้มุ่งเน้นขายของเพียงอย่างเดียว รวมทั้งยังต้องพยายามสรรหาเนื้อหาที่ตรงใจ ตรงกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจมาโพสต์
 

เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับผู้ดูแล Facebook Page ดังนั้น ในการตอบคำถาม ข้อสงสัย หรือ comment ต่างๆ ที่ลูกค้าบนโลกออนไลน์ส่งมาใน Facebook Page ไม่ว่าจะเป็นในหน้า Page, ใต้โพสต์, ในโฆษณา, และในกล่องข้อความ (Inbox)

ผู้ดูแลควรตอบอย่างสุภาพ จริงใจ ไม่แข็งทื่อ และไม่เป็นระบบมากเกินไป นอกจากนั้น ผู้ดูแลยังควรรีบข้อความต่างๆ ในทันที หรือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้พลาดการสร้างยอดขายได้
 

 

นอกจากข้อมูลธุรกิจ และเนื้อหาที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการ SMEs ควรที่จะโพสต์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การขายตามช่องทางต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ใน Facebook Page ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ให้ลูกค้าคลิกซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ธุรกิจ, สั่งซื้อสินค้าได้ภายในโพสต์ได้เลย หรือว่าให้ติดต่อเข้ามาผ่านกล่องข้อความ รวมถึงข้อมูลติดต่อธุรกิจผ่านช่องทางอื่นๆ อีก 
 

ได้เห็นแล้วว่า พฤติกรรมผู้บริโภคไทยที่ใช้เวลาอยู่กับสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดียสุดฮิตอย่าง Facebook ได้กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่เป็นโอกาสและความท้าทายของแบรนด์สินค้าแต่ละแบรนด์ ที่จะต้องทำการศึกษาและวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้เกิดประโยชน์ เพื่อนำมาวางกลยุทธ์เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย