บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    กฎหมาย SMEs
2.7K
2 นาที
15 มิถุนายน 2560
พ.ร.บ.คอมฯ กับการดำเนินธุรกิจ SMEs

 
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ 2560 หลายคนตั้งคำถามว่า พ.ร.บ.คอมฯฉบับนี้จะเป็น ซิงเกิล เกตเวย์ (Single Gateway) เพื่อลวงเอาข้อมูลประชาชนหรือไม่ ซึ่งในตัวกฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้ แต่ประเด็นเหล่านี้อาจจะกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้า SMEs ถ้าคุณเป็นผู้ประกอบการคุณควรรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณไปล้วงลึกและดูว่า พ.ร.บ.คอมฯ ฉบับปี 2560 จะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs และขาของออนไลน์ มาดูพร้อมๆ กันเลยครับ  
 
ต้องบอกว่า พ.ร.บ.คอมฯ ฉบับปี 2560 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการจัดการกับปัญหาเดิมๆ ที่ยังค้างคาไม่ชัดเจนในพ.ร.บ.คอมฯ ฉบับเก่าเมื่อปี 2550 และผลกระทบที่หนักสุดเห็นจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าทางออนไลน์ ที่ต้องใช้สติให้ดีในการแชทคุยกับลูกค้า 
 
ความสุจริตใจในการประกอบอาชีพ รวมไปถึงการใช้เครื่องมือออนไลน์อย่างถูกต้องตามหลักจริยธรรม ซึ่งเรื่องที่ SMEs บนแพลทฟอร์มออนไลน์ของไทยต้องระวังมี 2 ประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้
 
1.จริยธรรมของผู้ประกอบการ

 
ในอดีตการหมิ่นประมาท การทำให้เสียชื่อเสียงการปลอมแปลงเว็บไซต์ การปลอมแปลงตัวตนบนโลกออนไลน์ และก่อให้เกิดความอับอาย จะอยู่ในมาตรา 14(1) ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท จึงทำให้มีการอ้างมาตรานี้ฟ้องร้องคดีกันเต็มไปหมด

ส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต หรือกระทบต่อกลไกการตรวจสอบ แต่พ.ร.บ.คอมฯฉบับปี 2560 จะเข้าไปแก้ไขเกี่ยวกับความรัดกุมของกฎหมาย ถึงการหลอกลวงขายของ 
 
การที่ผู้ซื้อโอนเงินแล้วไม่ได้รับสินค้า การไลฟ์สดขายของละเมิดลิขสิทธิ์  การปลอมแปลงสินค้าหรือหมิ่นประมาทต่างๆบนออนไลน์ โดยให้ไปใช้สิทธิ์ในกฎหมายอาญาแทน เพราะเนื่องจากไม่สามารถยอมความกันได้ จึงเป็นกฎหมายใหม่ที่เข้มงวดกับการควบคุมผู้ค้าผู้ขายทางโลกโซเชียล เพื่อไม่ให้ทำผิดกฎหมาย
 
2.หยุดการซื้อขายจนน่ารำคาญ

 
 
ภาพจาก goo.gl/NfnLiG

เรื่องของสแปม (Spam) ในพ.ร.บ.คอมฯฉบับเก่าระบุว่า ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ไปให้บุคคลอื่นแล้วมีการปลอมแปลง IP Address หรือที่มาของข้อมูล ซึ่งในอดีตเราจะไม่ปลอมแปลง แต่เป็นการส่งไปตรงๆ เลย เช่น การขายตรงผ่าน SMS, Line ฯลฯ เพื่อการขายตนสินค้าต่างๆ ในอดีตมีการส่งกันอย่างหนัก ทำให้กฎหมายใหม่ต้องออกมาบอกว่าห้ามส่ง
 
หากต้องการส่งจริงๆ ต้องได้รับอนุญาตจากปลายทางก่อน ผู้บริโภคต้องสามารถกดยอมรับหรือปฏิเสธได้ หากไม่ได้รับอนุญาตแล้วส่งไป หลังจาก 24 พฤษภาคม 2560 จะมีโทษปรับการส่งสแปมไปในอีเมลล์หรือไลน์ ข้อความละ 200,000 บาท

แต่หากผู้รับยอมตกลงให้ส่งได้ ผู้ให้บริการต้องมีข้อตกลงหรือจุดหรือปุ่มให้ผู้รับบริการสามารถบล็อกหรือยกเลิกการส่งข้อความ รูปภาพหรือวีดีโอนั้นได้ (กฎหมายบอกต่อว่าโดยง่าย นั่นหมายถึงต้องสามารถยกเลิกสแปมได้ไม่ซับซ้อนและหลายขั้นตอนเกินไป) ณ ตอนนี้มีการเขียนว่าห้ามส่งสแปมทั้งในและต่างประเทศ 
 
ส่วนสิ่งที่กฎหมายไม่ระบุให้เป็นสแปมก็คือ การส่งที่สืบเนื่องมาจากสัญญาข้อตกลง “นิติสัมพันธ์” เช่น ไปสมัครขอเงินกู้จากธนาคาร ธนาคารก็มีสิทธิจะส่งข้อมูลต่างๆ มาให้คุณได้ ซึ่งในแง่ของธุรกิจการให้บริการถือว่ากระทบอย่างมาก เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจรายใหญ่หรือรายเล็ก ก็จะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
 
ได้เห็นแล้วว่ามีประเด็นอะไรบ้าง ที่ผู้ประกอบการ SMEs ไทยต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง หลังพ.ร.บ.คอมฯ มีผลบังคับใช้ เพราะประเด็นเนื้อหาการปรับปรุง เพื่อมุ่งเน้นในการคุ้มครองผู้บริโภคและหลักศีลธรรมอันดีของผู้ใช้ 
 
อีกทั้งยังช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ค้าขายกันอย่างสุจริตใจ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค จนทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ นอกจากนี้ก็จะช่วยทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการซื้อของทางออนไลน์ยิ่งขึ้น 
 
อ่านบทความ SMEs อื่นๆ goo.gl/uiiGA7

อ้างอิงข้อมูลจาก goo.gl/8BQPUE
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
651
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
601
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
548
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
499
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
494
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
459
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด