บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
2.7K
3 นาที
2 สิงหาคม 2560
ดันแบรนด์ให้ฮิตด้วยเทคนิค 5 more และ 4P ยุคใหม่

 
ภาพจาก goo.gl/ecEsGw

ทฤษฏีการตลาดยุคใหม่เป็นเรื่องที่คนทำธุรกิจจะต้องศึกษาการกางตำราแบบเดิมเพื่อทำธุรกิจนั้นมีโอกาสเสี่ยงที่จะล้มเหลวสูงมากเนื่องด้วยการตลาดที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง

การปรับตัวเพื่อให้มีข้อมูลใหม่จะส่งผลดีต่อการทำธุรกิจมากกว่า www.ThaiFranchiseCenter.com มีแนวทางการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ที่เรียกว่าเป็นสูตร 5more ที่เราต้องทำให้ได้มากขึ้นกว่าก่อนรวมถึง การตลาดแบบ 4P ยุคใหม่ที่ขอให้ลืมตำราเก่าทิ้งไปแล้วเรียนรู้กลยุทธ์ใหม่เพื่อทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ในยุคนี้

5 ปัจจัยขับเคลื่อนแบรนด์ในยุคใหม่

1. More Moment

 
ภาพจาก goo.gl/D2RTzH

คือการทำให้ผู้บริโภคนั้นเกิดความเชื่อถือในสินค้าและผลิตภัณฑ์รวมถึงสามารถให้ผู้บริโภคปฏิบัติตามการแนะนำได้ นั้นหมายถึงแบรนด์ต้องสร้างความทรงจำที่ถูกต้องหรือ Moment of Truth ขึ้นมากระตุ้นการรับรู้ของผู้คนให้รู้สึกได้ว่าสินค้านั้นจำเป็นแค่ไหนหรือที่จริงแล้วต้องใช้อย่างไรตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้แนวทางนี้

เช่น beng-beng แบรนด์ขนมทานเล่น ที่เลือกใช้วิธีการสร้างความรู้ชุดใหม่ที่บอกว่า “จะทานอร่อยขึ้น ถ้าแช่ตู้เย็นก่อน” ผลปรากฎว่าทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภคสินค้าตัวนี้มากขึ้น สุดท้ายแล้วทำให้เกิดกระแสการซื้อ beng-beng ไปแช่ตู้เย็นไว้คราวละมากๆ นับเป็นวิธีการที่ประสบความสำเร็จเลยทีเดียว

2. More Target
 
คือการขยายฐานลูกค้าออกไปให้กว้างกว่าเดิมแน่นอนว่าการทำแบรนด์ ต้องมีฐานลูกค้าที่ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มใคร อายุเท่าไหร่ รายได้ประมาณไหน แต่สิ่งที่สำคัญเมื่อแบรนด์แข็งแกร่งในระดับหนึ่งแล้ว ต้องขยายฐานลูกค้าออกไปให้มากกว่าเดิมให้ได้ ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์อาหารของเกาหลีใต้ที่ชื่อ Chung Jung One มองเห็นว่าเทรนด์การใช้ชีวิตแบบคนโสดกำลังมาแรง

และที่สำคัญคนโสดเหล่านี้ทำอาหารทานเองที่บ้าน เลยส่งชุดอาหารที่ระบุชัดเลยว่า “อาหารสำหรับทานคนเดียว” ผลที่ได้คือแบรนด์ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะคนที่อยู่เป็นครอบครัวก็สามารถซื้อชุดอาหารนี้ทานได้เช่นกัน
 
3. More Presence

 
ภาพจาก goo.gl/wgKb7H


หมายถึงการนำเสนอสินค้าต้องให้แพร่กระจายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยิ่งสามารถปรากฏอยู่ในทุกๆที่จะเป็นเรื่องที่ดีมากยกตัวอย่างที่น่าสนใจคือแบรนด์ Heinz ที่ขายซอส เหตุเกิดในประเทศจีน เพราะแต่เดิมที่ขายในรูปแบบขวดเท่านั้น

ส่วนใหญ่ขายอยู่ในทางตอนใต้ของจีน แต่ที่นี้ต้องการขยายแบรนด์ให้เกิดการรับรู้และเพิ่มยอดขาย Heinz ในจีนจึงสำรวจตลาดแล้วพบว่า ทางภาคเหนือและตะวันตกมีความต้องการซอสตัวนี้เช่นกัน แต่ไม่สะดวกหากจะต้องซื้อเป็นขวด Heinz จึงทำมาเป็นรูปแบบซอง ผลปรากฎว่า สินค้าได้รับความนิยมถล่มทลาย
 
4. More Categories
 
นั้นคือการมีสินค้าแบบเดียวแบบเดิมอาจไม่เพียงพอสิ่งสำคัญคือการแตกไลน์สินค้าให้แปลกใหม่มากขึ้นแต่คำถามที่น่าสนใจกว่าคือจะขยายประเภทสินค้าอย่างไรให้แบรนด์แข็งแกร่ง

มีตัวอย่างหนึ่งของ Downy ที่แต่เดิมขายน้ำยาปรับผ้านุ่ม แรกๆ คนยังไม่รู้จัก ก็ทำตลาดมาเรื่อยๆ ต่อมาการขยายฐานไปสู่สินค้าตัวใหม่ เช่น สเปรย์ เทียนไข ซึ่งการทำแบบนี้ส่งผลให้ Downy มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 5% ทั่วโลก หรือลูกอมอย่าง Chupa Chups ที่ไม่น้อยหน้าในเรื่องนี้กับการแตกไลน์จากขนมเด็กมาเป็นครีมอาบน้ำเพื่อสร้างการตลาดใหม่และน่าสนใจมากด้วย
 
5. More Needs
 
 
ภาพจาก goo.gl/cPb1yk

เป็นการทำให้สินค้ากลายเป็นสิ่งที่ลูกค้านั้นต้องการใช้ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้นการเพิ่มศักยภาพเรื่องนี้อาจต้องอาศัยความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกันเป็นหลักเช่น Yakult ที่แต่เดิมทำตลาดกับผลิตภัณฑ์นมมาโดยตลอด

ก็ได้หันไปร่วมมือกับ Haru ที่เป็นแบรนด์ทำที่มาร์กส์หน้า โดย Yakult ส่งผักและผลไม้กับ Haru เพื่อนำไปทำมาร์กส์ ถือเป็นการกระโดดลงมาเล่นกับตลาดสกินแคร์ที่สร้างความต้องการใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคนั่นเอง
 
ทั้งนี้ยังมีอีก 2 ปัจจัยคือ การสร้างโปรโมชั่นที่ทำให้เกิดการโน้มน้าวพฤติกรรมของผู้บริโภค แต่วิธีการนี้มีข้อเสียตรงที่ไม่ยั่งยืน เพราะถ้าโปรโมชั่นหมด ผู้บริโภคอาจจะถอยไปได้เหมือนกัน ส่วนอีกปัจจัยคือ การสร้างความแตกต่างให้แบรนด์ ข้อนี้ถือเป็นพื้นฐานที่ทุกแบรนด์ต้องทำอยู่แล้ว เพราะถ้าแบรนด์ไหนทำได้ก็จะอยู่ในความรับรู้ของผู้บริโภคได้นานเท่านั้น

หลักการตลาดแบบ 4P ยุคนี้ต้องปรับปรุงใหม่

นับเป็นการตลาดขั้นพื้นฐานที่เราหลายคนก็รู้จักกันเป็นอย่างดีแต่เมื่อยุคสมัยได้เปลี่ยนไปการจะยึดติดกับแนวทางเดิมๆของหลักการนี้ก็ดูจะไม่สอดคล้องกับยุคสมัยดังนั้นจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้ก้าวล้ำนำหน้าได้มากขึ้น

1. Product ไม่ใช่แค่ไอเดียใหม่แต่วัดกันที่ความเร็วด้วย

 
ภาพจาก goo.gl/EfCCPD

เราเคยเรียนรู้กันว่าสินค้าหากจะครองใจต้องเป็นสินค้าที่มีความแปลกใหม่เป็นสำคัญ แต่ในยุคนี้ความแปลกใหม่อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอแต่ยุคนี้สำคัญที่ “ความเร็ว”

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือแบรนด์ ZARA ที่มีการปรับเปลี่ยนแฟชั่นในร้านเรียกได้ว่าแทบจะทุกสัปดาห์เพื่อมาทดลองตลาดว่าผู้บริโภคต้องการอะไรแบบ แบบไหน และอย่างไร หลังจากนั้นเมื่อทดลองแล้ว ถ้าผู้บริโภคชอบก็ต้องใช้ความรวดดเร็วในการทำตลาด คือส่งสินค้านั้นๆ ลงตลาดอย่างรวดเร็วต่อไป
 
2. Price ต้องเน้นให้ซื้อง่ายขายคล่องที่สุด
 
แต่เดิมการตั้งราคา เรามักจะติดกับดักอยู่ในความคิด 2 แบบคือ ตั้งราคาที่สูงแล้วค่อยลดลงให้ต่ำ หรือตั้งราคาที่ต่ำแล้วค่อยเพิ่มให้สูงขึ้น แต่วิธีการเดิมใช้ไม่ได้ผลแล้วตัวอย่างหนึ่งในเม็กซิโก ที่มีแบรนด์ผงซักฟอกรายหนึ่งไปทำการศึกษาเชิงคุณภาพ พบว่า คนเม็กซิกันส่วนใหญ่มักพกเหรียญไม่เกิน 10 peso เมื่อรู้แบบนี้แล้วแบรนด์เลยส่งผงซักฟอกราคาไม่เกิน 10 peso ลงสู่ตลาด

ผลปรากฎว่าขายดี เพราะซื้อง่ายขายคล่อง อย่างเรื่องนี้จะเห็นได้เลยว่าวิธีคิดเรื่องราคาในเชิงการตลาดต้องเปลี่ยน และสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้คือการทำวิจัยการตลาดเชิงลึกที่มีคุณภาพ
 
3. Place ทำเลที่ดีไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดในการทำการค้าอีกต่อไป


 
ภาพจาก goo.gl/FHfkbm

ในอดีต ถ้าพูดถึงการขายของในวงการค้าปลีก เราจะถูกสอนให้คิดถึงเรื่อง Location แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าค้าปลีกหลายรายในโลกปิดตัวไปเป็นจำนวนมากในขณะที่ค้าปลีกออนไลน์หรืออีคอมเมิร์ซเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ในแง่นี้บอกได้เลยว่า ถ้ายังท่อง 4P กันในแบบเดิมๆ ในยุคนี้ รับรองว่าไปไม่รอดแน่ๆ ทางที่ดีคือเราต้องคิดใหม่ได้แล้วว่า สถานที่เชิงกายภาพไม่ใช่สิ่งจำเป็นสูงสุดในการคิดเรื่องการตลาดในโลกยุคนี้
 
4. Promotion ยุคนี้ต้องให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของชีวิตประจำวัน

 
ภาพจาก goo.gl/BqQ5Wh

โปรโมชั่นคือช่องทางหนึ่งในการสื่อสารสินค้าไปยังผู้บริโภค แต่เดิมเราจะดูว่าสินค้าตัวนี้เหมาะที่จะส่งโปรโมชั่นกับผู้บริโภคกลุ่มไหน แต่ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการใช้ Big Data เข้ามาในแวดวงธุรกิจมากขึ้น ทำให้รูปแบบการส่งเสริมการขายต้องเปลี่ยนไปตัวอย่างหนึ่งคือ ในสหรัฐอเมริกา เวลามีพายุเข้า ค้าปลีกรายใหญ่อย่าง Wal-Mart จะมียอดขาย Pop-Tarts เพิ่มขึ้นประมาณ 7 เท่าตัว

ดังนั้น เมื่อมีข่าวว่าพายุจะเข้า Wal-Mart ก็เลยส่ง Promotion ขาย Pop-Tarts อย่างเต็มที่ และรับประกันด้วยว่ามีของเยอะ ไม่หมดแน่นอน นับเป็นการทำ Promotion ที่ต้องใช้ Big Data เข้ามาช่วยทำให้การตลาดประสบความสำเร็จได้อย่างน่าสนใจ
 
กลยุทธ์ทั้งหลายเหล่านี้คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบความรู้ใหม่ให้ทันกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การท่องจำแต่ตำราเดิมๆ ไม่อาจใช้ได้ผลดีในยุคนี้ เรื่องของการตลาดจึงเป็นสิ่งที่ผู้ทำธุรกิจจะต้องศึกษาให้ต่อเนื่องและอัพเดทความรู้ใหม่ๆตลอดเวลาเพื่อให้แข่งขันกับคู่แข่งที่มีอยู่เป็นจำนวนมากคนที่มีความรู้ด้านการตลาดแข็งแกร่งและสามารถประยุกต์ใช้ในธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพคือคนที่มีโอกาสสำเร็จในด้านการลงทุนมากที่สุดด้วย
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
605
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
496
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
418
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด