บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
3.8K
2 นาที
14 มิถุนายน 2561
3 ธุรกิจเริ่มจากเล็กทาบรัศมีธุรกิจใหญ่ แถมชนะด้วย!
 

การเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่แม้จะได้เปรียบคู่แข่งรายเล็กอยู่มาก แต่ก็ใช่ว่าจะนิ่งนอนใจและคิดว่าธุรกิจที่เกิดใหม่ไม่มีวันที่จะแซงหน้าตัวเองขึ้นมาได้ มีตัวอย่างมากมายในโลกของธุรกิจที่ทำให้เห็นแล้วว่า หากประมาทเพียงนิด หรือมองข้ามคู่แข่งที่แม้จะเป็นแค่ธุรกิจเล็กๆ ก็อาจทำให้ความยิ่งใหญ่ของตัวเองนั้นสั่นคลอนได้เหมือนกัน
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มีกรณีศึกษาจากธุรกิจขนาดเล็กที่เริ่มจากการเป็นฝุ่นเล็กๆก่อตัวใหญ่ขึ้นจนเขย่าบัลลังก์เจ้าของธุรกิจเดิมให้ต้องเดือดร้อน บางทีถึงกับล่มสลายหรือแพ้ไม่เป็นท่าให้กับธุรกิจที่ตัวเองเคยมองข้ามก็มี
 
1.Taobao vs ebay
 
ภาพจาก goo.gl/SSkHnz

เป็นสงครามในตลาด Marketplace ของจีน ขณะนั้น ebay ถือครองความได้เปรียบ กับกลยุทธ์ในการเข้ามาเทกโอเวอร์ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ในฐานะแพลตฟอร์มรูปแบบ C2C ที่มีส่วนแบ่งตลาดในจีนขณะนั้นไปแล้วถึง 90% 

ในปี 2003 Alibaba เริ่มเข้ามาท้ารบกับ ebay แต่เป็นการมาแบบเล็กๆ ด้วยการตั้งเว็บในนาม Taobao.com ที่แม้แต่พนักงานของ Alibaba บางคนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Taobao.com กับ Alibaba มีเจ้าของคนเดียวกัน
 
กลยุทธ์ที่ ebay ใช้ป้องกันคู่แข่งขณะนั้นคือ การทำข้อตกลงกับลูกค้าที่มีสัญญากับ ebay ที่ห้ามโฆษณาหรือลงประกาศจากเว็บ Taobao.com ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลไม่น้อยด้วยความเป็นยักษ์ใหญ่ขณะนั้นใครๆ ก็ต้องเกรงใจเป็นธรรมดา
 
ในส่วนของ Taobao.com ก็ดูจะไม่แยแสกับเรื่องนี้นัก และเลือกต่อสู้ในแบบการตลาดเล็กๆของตัวเอง นั้นคือการเลือกไปลงโฆษณาในเว็บไซต์เล็กๆ หรือเว็บเกิดใหม่ ซึ่งมีอยู่นับพันเว็บในเมืองจีน ซึ่งถือว่าเป็นการเดินตลาดที่ถูกจุดและทำในสิ่งที่ ebay มองข้าม รวมกับการใช้กลยุทธ์เปิดโอกาสให้คนเข้ามาขายและใช้บริการแพลตฟอร์มแบบฟรีๆ ต่างกับ ebay ที่มีค่าธรรเนียมบริการ ค่าบริการฝากร้าน จึงไม่น่าแปลกใจที่เว็บน้องใหม่เล็กๆ

อย่าง Taobao.com จะใช้เวลาเพียงแค่ปีกว่าๆ ก็สามารถเทียบชั้นกับ ebay ได้ ที่สำคัญสามารถแชร์ตลาดไปได้เกินกว่าครึ่ง  ในภายหลัง ebay ที่เริ่มปรับตัวด้วยการยกเลิกค่าธรรมเนียมบริการต่างๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสายเกินแก้ที่ถูกเว็บเล็กๆอย่าง Taobao.com แซงหน้าไปเรียบร้อย
 
2.Facebook vs Google vs Yahoo
 
ภาพจาก goo.gl/AXP9Af

YAHOO คือบทเรียนราคาแพงที่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ควรศึกษา จากบริษัทที่เคยเฟื่องฟูถึงขีดสุดเคยสร้างมูลค่าทางธุรกิจได้กว่า 100,000 ล้านเหรียญในปี 2000 ทั้งที่ขณะนั้นเพิ่งก่อตั้งบริษัทมาได้เพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น แต่เพราะความลำพองเกินไปหรือวิสัยทัศน์ในการบริหารที่ผิดพลาดถึงกับทำให้ YAHOO ถึงกับล่มสลายไปในที่สุด
 
ในปี 1998 Google ได้นำเสนอไอเดียธุรกิจให้แก่ YAHOO ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า PageRank เพื่อจัดลำดับความสำคัญของผลลัพธ์ที่จะได้จากการเสิร์ชหาข้อมูลต่างๆ ในราคาเพียง 1 ล้านเหรียญแต่ทว่ากลับถูก YAHOO ปฏิเสธสิ้นเชิง อาจจะเป็นเพราะ YAHOO มั่นใจในจุดยืนตัวเองที่กำลังเฟื่องฟูจึงไม่เปิดใจรับเอาสิ่งใหม่ๆเข้ามา และสิ่งที่ YAHOO ปฏิเสธไปนั้นก็กลายมาเป็นจุดแข็งของ Google ที่ทำให้เป็นบริษัทอันดับหนึ่งของโลกจนถึงปัจจุบัน
 
จากข้อผิดพลาดของ YAHOO ที่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่น้องใหม่อย่าง Google ยังเป็นบทเรียนไม่มากพอซ้ำยังมาโดน Facebook ซึ่งเป็นอีกธุรกิจน้องใหม่เล่นงานเข้าให้อย่างจัง ทั้งที่ปี 2006 YAHOO เคยยื่นข้อเสนอที่จะซื้อกิจการ Facebook ได้เป็นผลสำเร็จด้วยราคา 1 พันล้านเหรียญสหรัฐแต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบที่กลับไปต่อราคาเหลือ850 ล้านเหรียญทำให้ดีลนั้นล่มไป แม้ว่าในปีต่อมา YAHOO จะกลับไปขอซื้อ Facebook อีกครั้งด้วยเงินจำนวนมหาศาลถึง 1,600 ล้านเหรียญแต่ Facebook ที่ตอนนี้ยืนได้ด้วยตัวเองก็ปฏิเสธดีลนี้กลับไปอย่างสิ้นเชิง
 
จะด้วยความประมาทหรือบริหารงานผิดพลาดสุดท้าย YAHOO ต้องปิดฉากธุรกิจกว่า 2 ทศวรรษเหลือเพียงแค่ความทรงจำ หลังตัดสินใจขายธุรกิจให้กับ Verizon ในราคา 4,480 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าช่วงที่ไมโครซอฟท์เคยเสนอให้ ในช่วงปี 2008 ถึง 10 เท่า 
 
3.Jack Ma vs KFC
 
ภาพจาก goo.gl/nK67HH

ถ้าใครได้ติดตามประวัติชีวิตของ Jack Ma จะทราบดีว่ากว่าจะมาถึงวันนี้เขาต้องเผชิญกับสิ่งที่ท้าทายและการดูถูกจากคนจำนวนมาก นั้นรวมถึงการที่ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกปฏิเสธไม่ได้รับเลือกให้เป็นพนักงานของ KFC ทั้งที่วันนั้นผู้สมัคร 23 จาก 24 คนได้งานทำทั้งหมด
 
อย่างไรก็ตามความผิดหวังในวันนั้นน่าจะเป็นแรงผลักดันสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ Jack Ma เดินหน้าสร้างธุรกิจของตัวเองจนวันนี้ที่ธุรกิจของเขากลายเป็นยักษ์ใหญ่และจะด้วยความหลังฝังใจหรือมองเห็นช่องทางของการทำธุรกิจก็ตามแต่ ทำให้ Jack Ma เข้าซื้อกิจการ KFC ในประเทศจีน ด้วยมูลค่า 460 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.5 หมื่นล้านบาท แม้จะไม่ถึงขนาดล้มยักษ์ด้านฟาสฟู้ดต์อย่าง KFC  แต่งานนี้ก็ทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นคนตัวเล็กที่ขึ้นมาใหญ่ได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
 
ปัจจุบันบริษัท Primavela Capital และ Ant Financial ในเครือของAlibaba เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน Yum China โดย Ant Financial ดูแลระบบ Alipay และแพลตฟอร์มในการชำระเงินของAlibaba ทั้งหมด ซึ่งทำให้ Ant Financial กลายเป็น FinTech อันดับ 1 ของโลกอีกด้วย
 
และหากจะวิเคราะห์เจาะลึกลงไปจริงๆ เชื่อว่าคงมีอีกหลายธุรกิจที่มีลักษณะไม่ต่างกันนี้คือเคยยิ่งใหญ่และเคยสร้างรายได้สูงสุด จนวันหนึ่งกลับถูกคลื่นลูกใหม่ซัดหายไปอย่างไม่เป็นท่า หรือบางทีไม่ถึงกับล่มสลายแต่ก็ถูกทาบรัศมีได้อย่างไม่น่าเชื่อ นั้นคือสัจธรรมทางธุรกิจที่บอกว่าไม่ควรหยุดนิ่งและควรพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันโลกทันสังคม การหยุดอยู่กับที่ก็มีแต่จะถูกแซงหน้าได้ในสักวันหนึ่งเท่านั้น
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
424
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด