บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ไอเดียธุรกิจ
3.4K
2 นาที
11 ธันวาคม 2561
ประเทศตูมี 5 เมนู ชื่อนอกแต่ไทยมี!


นักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อมาเยือนเมืองไทยมักจะมองหาเมนูที่เป็น Signature ที่ขึ้นชื่อลือชาก็ต้องพวก Street Food ตั้งแต่หอยทอด ผัดไท ข้าวผัดกระเพรา ต้มยำกุ้ง เป็นต้น ในทางกลับกันคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศจะโหยหาเมนูแบบไหน คำตอบก็คือเมนูท้องถิ่นที่หากินไม่ได้ในเมืองไทยหรือไม่ก็เป็นเมนูที่มีวัตถุดิบสดๆจากประเทศต้นตำหรับอย่างปลาดิบ พิซซ่า ข้าวแกงกะหรี่ โอเด้ง เป็นต้น
 
ดูเผินๆก็เหมือนจะเป็นเรื่องทีใครทีมันใครอยากกินอะไรก็ต้องไปประเทศนั้นแต่ www.ThaiFranchiseCenter.com มีเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับเมนูอาหารที่บอกได้ว่าเป็น “ThailandOnly”

นั่นคือจะหากินได้เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้นเพราะเมนูต่อไปนี้ชื่อไม่ใช่ของไทยแม้แต่น้อยแต่กลับหากินไม่ได้ในประเทศที่เป็นชื่ออาหาร ที่มาที่ไปของแต่ละเมนูเป็นอย่างไร ทำไมเป็นอย่างนั้น ลองติดตาม
 
1.ขนมโตเกียว 
 
ภาพจาก goo.gl/xEzZwa

ใครที่เป็นสาวกประเทศญี่ปุ่นติดอกติดใจความงามของประเทศนี้ เดินทางไปๆมาก็หลายครั้ง แต่หลายคนไม่รู้ว่าอย่าไปคิดตามหา “ขนมโตเกียว” ในประเทศญี่ปุ่นเป็นอันขาด เพราะแม้จะได้ชื่อว่าเป็น “ขนมโตเกียว” ที่เหมือนจะมาจากเมืองโตเกียวแต่ความจริงแล้วไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับโตเกียวเลยแม้แต่น้อยกระทั่งวัตถุดิบเองก็ไม่ได้นำเข้ามาจากญี่ปุ่นเลยสักนิด

สันนิษฐาณได้หลายเหตุผลว่าทำไมขนมโตเกียวถึงหากินไม่ได้ในโตเกียว บ้างก็ว่า เป็นขนมที่ห้างไดมารูซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าสัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาเปิดบริการเมื่อปี พ.ศ.2507 ได้มีการเอาขนมญี่ปุ่นมาขายแต่คนไทยไม่มีกำลังซื้อจึงได้ดัดแปลงขนมญี่ปุ่นให้ราคาถูกลงและตั้งชื่อให้เหมือนมาจากญี่ปุ่นเลยชื่อว่า “ขนมโตเกียว หรือจะเป็นความเชื่อยอดฮิตที่ว่า เป็นการเรียกเพี้ยนมาจากชื่ออื่น

โดยเชื่อว่าขนมโตเกียวอาจเพี้ยนมาจากคำว่า ขนมโรเนียว อันเกิดจากวิธีการทำที่ต้องวนแผ่นเป็นวงกลมบนกระทะเหล็กเมือนเป็นการโรเนียวแต่เรียกเพี้ยนมาเป็นโตเกียว แต่ไม่ว่าที่มาของชื่อจะเป็นอย่างไรขนมโตเกียวก็หากินได้เฉพาะในเมืองไทยไม่มีในโตเกียวญี่ปุ่นแน่ๆ
 
2.ขนมจีน
 
ภาพจาก  goo.gl/hyKA28

ไปเมืองจีนหลายคนตามล่าหา “ขนมจีน” ซึ่งงานนี้คงต้องผิดหวังเพราะแม้จะได้ชื่อว่า “ขนมจีน” แต่แท้ที่จริงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนจีนเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังตรงกันข้าม “ขนมจีน”  ต้นกำเนิดที่แท้จริงว่ากันว่ามาจากชนชาติมอญ  ที่เรียกขนมจีนว่า “คนอมจีน” ที่หมายถึง “สุก 2 ครั้ง”  หากเอามาแยกคำหว่าง “คนอม” และ “จิน”  คนอม จะหมายถึงจับกันเป็นกลุ่มก้อน ส่วน จิน แปลว่าทำให้สุก

นอกจากนี้ยังสันนิษฐานต่อไปอีกว่า “คนอม” ใกล้เคียงกับคำไทยอย่างคำว่า “เข้าหนม” ที่หมายถึงนำมานวดให้เป็นแป้งก่อนที่จะกร่อนเป็น “ขนม” สรุปในภาพรวมคือ ขนมจีนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับจีนแต่นี่คือเมนูของชนชาติมอญที่แพร่หลายไปในประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยมาตั้งแต่ยุคโบราณ
 
3.กล้วยแขก
 
ภาพจาก goo.gl/bLeNZM

มาถึงแปลกแต่จริงอีกเรื่องใครที่เข้าใจผิดคิดว่า “กล้วยแขก” ต้องมาจากอินเดีย แต่แท้ที่จริงนี่คืออีกหนึ่งเมนูที่ไม่มีในอินเดียและหากินได้เฉพาะในเมืองไทยอีกเช่นกัน ส่วนเหตุผลที่ต้องชื่อว่า “กล้วยแขก” ก็มีการสันนิษฐานหลายแต่ที่ดูน่าจะเป็นไปได้คือเชื่อว่า เมนูกล้วยทอดนั้นเป็นของชาวมาลายูแถบเกาะปีนัง เขาเรียกว่า “ปีซัง โกเร็ง”  หน้าตาเหมือนกล้วยแขก

แต่ในยุคล่าอาณานิคมพวกโปรตุเกสได้แพร่เอาเมนูนี้มาทำเป็นอาหารเช้าและขยายไปยังดินแดนที่ตัวเองไปถึง ก็ทำให้คนไทยซึมซับว่าเมนูนี้คือ “กล้วยแขก” อันหมายถึงต้นกำเนิดจากแขกในมาลายู หรืออีกแนวคิดหนึ่งที่

บอกว่าคือเกิดจาก “จำปาดะทอด” ที่เป็นการเอาจำปาดะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลูกขนุนมาชุบแป้งทอดให้รับประทานง่ายแต่มีคนดัดแปลงเนื่องจากมองว่าจำปาดะทอดไม่อร่อยเลยลองเปลี่ยนวัตถุดิบมาเป็นกล้วยปรากฏว่าอร่อยไปอีกแบบเลยกลายเป็นกล้วยแขกมาถึงทุกวันนี้ 
 
4.ข้าวผัดอเมริกัน
 
ภาพจาก  goo.gl/S6Bfwf

ไปอเมริกาอย่าคิดมองหาข้าวผัดอเมริกัน ในภัตตาคารหรือร้านอาหารในอเมริการับรองว่าไม่มีเมนูนี้ให้เห็น เนื่องจากไม่ใช่เมนูที่เกิดจากคนอเมริกันแต่เป็นเมนูที่เกิดจากการปรุงของพ่อครัวที่ชื่อว่า “โกเจ๊ก” คิดค้นเมนูนี้เพื่อให้บริการแก่ทหารอเมริกันที่ประจำการในโคราชตั้งแต่ครั้งสมัยที่อเมริกันมาตั้งฐานทัพในเมืองไทยตอนสงครามเวียดนาม

ลักษณะก็คือเป็นข้าวผัดเนยใส่ลูกเกดและถั่วลันเตา ปรุงรสด้วยเกลือและซอสมะเขือเทศ แนบด้วยน่องไก่ทอด แฮม ไส้กรอก จนกระทั่งทหารอเมริกันเลิกฐานทัพกลับไปเมนูข้าวผัดอเมริกันก็ยังเป็นที่รู้จักมาถึงปัจจุบันนี้
 
5.ลอดช่องสิงคโปร์

ภาพจาก goo.gl/jRTmqw

มาถึงเมนูของหวานอย่างลอดช่องสิงคโปร์ที่ไปสิงคโปร์ก็หาทานไม่ได้เหมือนกัน ที่มาที่ไปของชื่อนี้ เริ่มจาก พ.ศ.2504  มีการเปิดร้านลอดช่องร้านแรกในประเทศไทยไทยใช้ชื่อร้านว่า “สิงคโปร์โภชนา” ซึ่งตั้งอยู่หน้าโรงภาพยนตร์สิงคโปร์ หรือ ลอดช่องสิงคโปร์” นั้น มาจากเมื่อ พ.ศ. 2504 ร้านลอดช่องร้านแรกในประเทศไทย “สิงคโปร์โภชนา”

ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราช ผู้คนไปรับประทานจึงมักจะเรียกว่า “ลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์” และก็ตามฟอร์มหลังจากที่เรียกชื่อเต็มอยู่ระยะหนึ่งก็มีการตัดทอนชื่อให้สั้นลงจนเหลือแค่ “ลอดช่องสิงคโปร์” ที่เป็นเมนูของหวานในเมืองไทยหากินในสิงคโปร์ไม่ได้
 
ไหนๆก็ไหนๆมาตบท้ายกับเมนูที่ชื่อไม่เหมือนหรือหากินไม่ได้ตามชื่ออย่างเฟรนฟรายที่คำว่า “เฟรน” อาจทำให้เข้าใจว่าเมนูนี้ต้นตำหรับคือ Freanh (ฝรั่งเศส) แต่ที่จริงคือชาวเบลเยี่ยมที่คิดทำมันฝรั่งทอดเป็นชาติแรก คำว่า เฟรนช์ ก็เชื่อว่ามาจากคำกริยา to French ที่แปลว่าฝานเป็นแท่งยาวๆ ส่วนชื่อเต็มก็น่าจะมาจาก frenched and fried potato ก่อนที่จะเหลือแค่ french fries  มาต่ออีกนิดจะจบละที่เมนูสุดฮิตบ้านเราอย่างส้มตำ

แต่มองไปมองมาก็ไม่เคยเห็นจะมีส้มสักลูกมีแต่มะละกอ อธิบายแบบรวดรัดว่า “ส้มตำ” เป็นภาษาถิ่น “ส้ม” แปลว่าเปรี้ยว “ตำ” เป็นคำกริยา  “ส้มตำ” จึงหมายถึง “อาหารรสเปรี้ยวที่ผ่านการตำ” ที่สำคัญส้มตำไม่ใช่อาหารของใครที่ไหนเป็นของประเทศไทยคิดเองทำเองเริ่มตั้งแต่ประมาณ 40 ปีก่อนเท่านั้นถือเป็นอาหารในยุคใหม่ไม่ใช่อาหารโบราณแต่อย่างใด
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S  

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise 

บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
425
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด