บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.3K
2 นาที
15 สิงหาคม 2562
แย่อีกแล้ว ! ตลาดรถอินเดียวิกฤต พนักงาน 1 ล้านตำแหน่งเสี่ยงถูกปลด

 
อุตสาหกรรมยานยนต์ในอินเดียเติบโตอย่างก้าวกระโดด จนอินเดียกลายเป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากข้อมูลขององค์การผู้ผลิตยานยนต์นานาชาติ (Organisation Internationale des Constructeurs d’Automobiles : OICA) พบว่า ในปี 2560 อินเดียมีปริมาณการผลิตรถยนต์ ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เชิงพาณิชย์รวมกันราว 4.8 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2554 ที่มีปริมาณการผลิตรวม 3.9 ล้านคัน
 
ส่งผลให้อินเดียก้าวขึ้นมาเป็นฐานการผลิตยานยนต์อันดับ 5 ของโลก จากที่เคยอยู่อันดับ 10 ในปี 2550 แซงหน้าทั้งเกาหลีใต้ สเปน และบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของโลก ขณะที่ปริมาณการส่งออกรถยนต์ของอินเดียก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประมาณ 5 แสนคันในปี 2554 เป็น 9 แสนคันในปี 2560 หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวเฉลี่ยราว 10% ต่อปี
 
สองปีที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ของอินเดียกำลังเติบโตและผู้เล่นทั่วโลกต่างรีบเร่งที่จะลงทุน วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะพาคุณผู้อ่านไปอัพเดตสถานการณ์ตลาดรถยนต์ของอินเดียซึ่งตอนนี้กำลังเผชิญสถานการณ์วิกฤตแบบพลิกกลับในรอบ 18 ปี ! 


ผู้อำนวยการ วิษณุ Mathur SIAM
ภาพจาก bit.ly/2YQ1BzK
 
โดยตลาดรถยนต์ของอินเดียมียอดขายรถยนต์ลดลง 31% ในเดือนกรกฎาคมจากตัวเลขของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์อินเดีย (SIAM) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มันเป็นเดือนที่เก้าติดต่อกันของการที่ยอดขายนั้นลดลง โดยตัวเลขนั้นชัดที่สุดในรอบ 18 ปี  “นี่เป็นการตกต่ำที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม” ผู้อำนวยการวิษณุ Mathur SIAM อธิบดีบอกกับซีเอ็นเอ็นธุรกิจ
 
อินเดียเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดสำหรับการเป็นผู้ผลิตรถยนต์จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ 5 ปีก่อนหน้ายอดขายรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 33% 
 
ผู้เล่นระดับโลกรายใหญ่อย่างฮุนไดและ บริษัทในเครือ Kia ได้ลงทุนหลายพันล้านเหรียญเพื่อขยายการลงทุนในประเทศและผู้เล่นใหม่อย่างผู้ผลิตรถยนต์ของจีน SAIC ก็พยายามที่จะแย่งชิงพื้นที่ธุรกิจ
 
ก่อนที่จะเกิดภาวะตกต่ำ ทางอินเดียคาดการณ์ว่าจะแซงหน้าเยอรมนีและญี่ปุ่น ให้กลายเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกภายในปี 2563 โดยจะมีเฉพาะจีนและสหรัฐอเมริกาเท่านั้นที่ใหญ่กว่า


ภาพจาก bit.ly/2OZ32HA

แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังพยายามปรับกฎระเบียบใหม่ด้านความปลอดภัย และเรื่องการปล่อยมลพิษ ทำให้ราคาสูงขึ้น ปัญหาในหมู่ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของอินเดียได้ปล่อยสินเชื่อและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในวงกว้างทำให้ผู้บริโภคลังเลที่จะใช้จ่าย
 
Maruti Suzuki ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของรถยนต์นั่งที่จำหน่ายในอินเดียรายงานว่ายอดขายรถยนต์ลดลง 36.7% ในเดือนกรกฎาคม ยอดขายที่ Tata Motors (TTM) ซึ่งเป็นเจ้าของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของอังกฤษ Jaguar Land Rover ลดลง 31%


ภาพจาก bit.ly/2Z5pvXd
 
Mahindra & Mahindra (MAHMF) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของอินเดียประสบปัญหาการตกต่ำถึง 17% ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะมี "วันที่ไม่ผลิต" ในโรงงานหลายแห่งเป็นเวลา 14 วันในไตรมาสนี้เพื่อจัดการและรับมือกับยอดขายที่ลดลง
 
คู่แข่งระดับโลกก็ทุกข์ทรมานเช่นกัน ฮุนได (HYMTF) ของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นผู้เล่นอันดับ 2 ในอินเดียมียอดขายลดลง 10% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ทางโตโยต้ายักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นก็ลดลง 24%
 
งานนับพันตำแหน่งทยอยปลด


ภาพจาก bit.ly/2MihacV
 
การตกต่ำครั้งนี้ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องมีพนักงานที่ตกงานกว่า 330,000 ตำแหน่ง จากการที่มีการปิดตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และลดยอดผู้ผลิตชิ้นส่วน Mathur กล่าวจากข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมที่ควบคุมทั้งสองภาคส่วน
 
สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของอินเดียเตือนในแถลงการณ์เมื่อเดือนที่แล้วว่า "สถานการณ์คล้ายวิกฤต" อาจส่งผลให้ประชาชนกว่าล้านคนถูกปลดออกจากงาน
 
ผู้ผลิตรถยนต์ในอินเดียได้ทำการสำรวจพนักงานชั่วคราวอย่างน้อย 15,000 คน “อุตสาหกรรมหยุดการรับสมัครงานใหม่ทั้งหมด” เขากล่าวเสริม


นายกรัฐมนตรี Narendra Modi ของอินเดีย
ภาพจาก bit.ly/2YYzFZO
 
นั่นเป็นข่าวร้ายสำหรับนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ของอินเดียที่ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งจากการเลือกตั้งถล่มทลายในเดือนพฤษภาคม แต่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าที่สุดของอินเดียในห้าปีและอัตราการว่างงานสูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
 
ตัวแทนอุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยประกันภาคธุรกิจเช่นเดียวกับที่เคยทำมาในอดีต พวกเขากำลังขอลดภาษีและขั้นตอนอื่น ๆ เพื่อให้ตลาดเดินหน้าได้ต่อไป


ภาพจาก bit.ly/2Ty8gZl
 
ตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกของจีนหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองทศวรรษในปี 2561 เยอรมนีซึ่งเป็นที่ตั้งของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกอย่างโฟล์คสวาเก้น (VLKAF), BMW (BMWYY) และเจ้าของเดมเลอร์ (DDAIF) ของเมอร์เซเดส – เบนซ์ยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบจากการปล่อยมลพิษดีเซล และยังมีสถานการณ์ที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปซึ่งแน่นอนว่าเกิดความยุ่งเหยิง
 
อินเดียเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่หลายแห่งที่ต้องเผชิญกับภาวะตกต่ำครั้งใหญ่ เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกต้องเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้า การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีใหม่ และการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ ไม่ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่แค่ไหนก็ต้องปรับตัวเพื่อหาทางรับมือกับพายุใหญ่ครั้งนี้
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 
อ้างอิงข้อมูล
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
799
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
715
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
642
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
532
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
447
เจ้าของธุรกิจกุมขมับ! วิกฤตเด็กไทยเกิดน้อยกระทบธ..
433
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด