บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.1K
3 นาที
2 กันยายน 2562
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! iPhone 11


อัพเดทข่าวสารในวงการไอทีซึ่งดูเหมือนว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple เกิดขึ้น ซึ่งจากข่าวตามหน้าเว็บไซต์ระบุว่าจะเป็นการเปิดตัว iPhone 11 ที่แม้ว่ายอดขายในปัจจุบันของ Apple จะไม่ได้ครองแชมป์แถมยังหล่นมาอยู่อันดับ 4 ตามหลัง Samsung , Huawei , Oppo โดยยอดขายของ iPhone มีอยู่ 35.3 ล้านเครื่อง โดยมี Xiaomi ไล่จี้อยู่ที่ยอดขาย 31.9 ล้านเครื่อง
 
นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่ายอดขายไตรมาสแรกของปี 2019 ของ iPhone ยังลดลง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ด้วยฐานผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาที่สูงขึ้นเป็น 189 ล้านเครื่องในปี 2018 ที่ผ่านมา ก็ไม่น่าแปลกใจที่ Apple จะยังคงมั่นใจในผลิตภัณฑ์และราคาของตน
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าเรื่องนี้สัมพันธ์กับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่ดูจะมีผลต่อยอดขายของ iPhone อยู่มากพอสมควร และยิ่งช่วงหลัง Apple มักจะถูกวิจารณ์เชิงลบในเรื่องการพัฒนาสินค้าที่มองว่าตามหลังคนอื่นอยู่เสมอๆ แต่อย่างไรก็ดีสินค้าระดับเรือธงของ Apple อย่าง iPhone ไม่ว่าจะเจอกระแสดราม่าแค่ไหน แต่หลายคนก็ยังอดสงสัยและสนใจว่าสินค้าตัวใหม่ของApple คราวนี้จะมีดีอะไรบ้าง
 
1.เดือนกันยายนเดือนแห่งการเปิดตัวสินค้าของ Apple


ภาพจาก bit.ly/2jVgBsX
 
ถ้าจำกันได้ปีที่แล้ว (12 กันยายน 2018) มีการเปิดตัวมือถือเปิดตัทีเดียวสามรุ่น ได้แก่ iPhone XS, XS Max และ XR และในปี 2019 ก็เช่นกัน ยิ่งชัดเจนหนักขึ้นเมื่อ Apple ส่งจดหมายเชิญสื่อมวลชนรายต่างๆ เข้าร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ คำโปรยรอบนี้คือ By Innovation Only หรือนวัตกรรมล้วนๆ งานจะมีขึ้นวันที่ 10 กันยายนเวลา 10:00 โมงเช้า (ตรงกับเที่ยงคืนวันที่ 11 ตามเวลาประเทศไทย) ที่สำนักงานใหญ่ Apple ที่ห้องประชุม Steve Jobs ซึ่งจากแหล่งข่าวที่หาได้เป็นที่แน่ชัดว่ารอบนี้คือการเปิดตัว iPhone 11
 
2.iPhone 11 มีด้วยกันถึง 3 รุ่น


ภาพจาก bit.ly/2lTykBF
 
iPhone 11 จะมีถึง 3 รุ่นด้วยกัน คือ iPhone 11 , iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max โดยเลือกที่จะไม่ใช้ตัวเลขแบบภาษาโรมันอีกต่อไปแต่ใช้ตัวเลข “11” ชัดๆตรงๆไปเลย  โดยในเรื่องหน้าจอนั้น iPhone 11 6.1 จะใช้จอ LCD แต่ iPhone 11 Pro 5.8 นิ้ว และ iPhone 11 Pro Max 6.5 นิ้ว จะใช้จอ OLED พร้อมกันนี้ยังมีฟังก์ชั่น FaceID สามารถจับภาพใบหน้าเราได้กว้างขึ้น
 
3.กล้องหลัง 3 ตัว แถมถ่ายใต้น้ำได้ลึกขึ้น


ภาพจาก bit.ly/2lTAD7N

iPhone 11 รุ่นที่น่าจับตามองคือ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ที่จะมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวแบบ Ultra Wide Angle ที่จะสามารถถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งมุมกว้าง ถ่ายซูมระยะไกล และถ่ายภาพมาโครเหมือนกับ Huawei หรือ Samsung แต่เรียงทรงใหม่ต่างจากสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ เพราะเรียงกลมๆเป็นสามเหลี่ยมในกรอบสี่เหลี่ยม คาดว่าคงเพิ่มความสามารถในการเก็บรายละเอียดของภาพ หน้าชัดหลังเบลอ การถ่ายแสงน้อย และความสามารถในการถ่ายวีดีโอรวมถึงความสามารถในการถ่ายใต้น้ำได้ลึกมากขึ้นด้วย
 
4.ระบบชาร์จไฟก็แจ๋วยิ่งขึ้น


ภาพจาก bit.ly/2llWa8E
 
iPhone 11 คาดหมายว่าจะมีการพัฒนาขนาดแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความสามารถการชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์ตัวอื่นๆ คล้ายกับฟีเจอร์บน Galaxy S10 และ Galaxy Note 10 ที่สำคัญการชาร์จไฟจะมาในรูปแบบ Fast Charger ที่หวังว่าจะแถม adaptor ชาร์จที่ช่วยชาร์จไฟเร็ว 18W
 
5.iPhone 11 สามารถแบ่งปันแบตเตอรี่ได้


ภาพจาก bit.ly/2jQQDXm
 
Apple ได้พยายามผลักดัน iPhone รุ่นใหม่ให้มีคุณสมบัติ Wireless Power Share คือ สามารถใช้ iPhone เป็นแบตเตอรี่สํารองไร้สายแบ่งปันพลังงานให้กับ iPhone เครื่องอื่นได้ เหมือนกับที่สมาร์ทโฟนอย่าง Huawei และ Samsung ทำได้แล้วตอนนี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับข่าวลือที่ว่า iPhone จะเพิ่มความจุแบตเตอรี่ภายในเพิ่มขึ้นอีก จากเดิมเฉลี่ยการใช้งานจะอยู่ 13 ชม. ได้เพิ่มเป็น 19 ชม.
 
6.สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Apple ที่ใช้คำว่า “Pro” ต่อท้าย


ภาพจาก bit.ly/2lni0Zn
 
Apple ต้องการแยกผลิตภัณฑ์ของรุ่นให้มีความแตกต่างกัน ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ iPhone 11 จะเป็นครั้งแรกที่ใช้คำว่า “Pro” ต่อท้ายชื่อ iPhone และ Apple ยังใช้คำว่า “Pro” ต่อท้ายกับ iPad Pro, MacBook Pro, Mac Pro และ iMac Pro มาแล้ว เพื่อยกระดับความพรีเมียมของสินค้า การดีไซน์ของ iPhone 11 ที่ต่อท้ายคำว่า “Pro” นั้น จะคล้ายกับ iPhone XR ที่มาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว ที่วางอยู่ที่ทรงสี่เหลี่ยมตัวใหม่ ที่ประกอบไปด้วยเลนส์กว้างพิเศษ รวมถึงมาพร้อมกับชิป 7mm A13 และการชาร์จแบบไร้สาย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถชาร์จ AirPods ได้โดยวางไว้ที่ด้านหลังของ iPhone ได้
 
7.iPhone 11 จะยังไม่รองรับ 5G


ภาพจาก bit.ly/2jXkvS6

ปัจจุบันผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในหลายๆ ได้เปิดตัวระบบ 5G อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านสมาร์ทโฟนรุ่นปี 2019 ก็มีการเปิดตัวที่รองรับ 5G เช่นกัน อย่าง Samsung Galaxy S10 5G, LG V50 THINQ และ Xiaomi Mi Mix 3 เป็นต้น แต่ฝั่ง Apple ดูเหมือนจะไม่ได้เปิดตัวรุ่น 5G ในเร็วๆ นี้ คาดว่าเป็นผลมาจากการฟ้องร้องเรื่องชิปประมวลผลกับ Qualcomm และ Intel ไม่สามารถผลิตตัวชิปได้ทันการขายในปีนี้ซึ่งก็รวมถึง iPhone 11 ที่เปิดตัวครั้งนี้ด้วย
 
8.iPhone 11 จะมาพร้อมกับ Apple Pencil


ภาพจาก bit.ly/2lT1q44
 
ผู้ผลิตเคสชื่อดังอย่าง Olixar ได้เผยภาพเคสรุ่นใหม่ล่าสุดจากบริษัทซึ่งเป็นของ iPhone 11 Pro ที่ยังไม่เปิดตัว แต่ที่น่าสังเกตคือตัวเคสเป็นเคสหนังหรูหราที่เปิดพรีออเดอร์แล้วด้วยในราคา 20 ยูโรหรือประมาณ 680 บาทและมาด้วยกันถึง 3 สี รวมถึงที่ใส่ Apple Pencil รุ่นใหม่ตรงด้านหลังของตัวเครื่อง เลยเผยให้เห็นว่าไอโฟนรุ่นใหม่นี้จะรองรับ Apple Pencil อย่างแน่นอน ตัว Pencil ก็เหมือนว่าจะมีด้วยกัน 2 สีคือสีทองโรสโกลและสีเงิน
 
9.คาดการณ์ราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่า 22,900 บาท


ภาพจาก bit.ly/2jX6Avk

คาดว่า iPhone 11 มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 749 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 22,900 บาท  รุ่น iPhone 11 Pro จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 30,500 บาท และรุ่น iPhone 11 Pro Max จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,099 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 33,500 บาท ซึ่งราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีของแต่ละประเทศ และคาดอีกว่าจะเริ่มเปิด
พรีออร์เดอร์ในวันที่ 13 กันยายน และจะวางจำหน่ายในกลุ่มประเทศแรกอย่างเป็นทางการ 20 กันยายน 2562 ทั้งนี้ขอย้ำอีกครั้งว่าราคาดังกล่าวเป็นเพียงแค่คาดการณ์ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับราคาการเปิดตัวที่แท้จริง ซึ่งต้องรอดูข้อมูลจาก Apple กันต่อไป
 
10. iPhone 11 ตั้งเป้าขายดีเหมือน iPhone XS


ภาพจาก bit.ly/2llPirQ
 
Apple คาดการณ์ว่า iPhone 11 จะได้รับความนิยม และขายดีพอๆกับยอดขายที่ iPhone XS เคยทำได้ในปี 2018 โดยมีรายงานว่า ซัพพลายเออร์ของ Apple ในประเทศจีน มีสัดส่วนการผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล iPhone 11 อยู่ที่ประมาณ 75 ล้านเครื่อง ซึ่งตัวเลขดังกล่าว เป็นตัวเลขเดียวกันกับที่ได้มาในปี 2018 ที่ผลิต iPhone XS เคยทำไว้
 
และยังระบุว่า โรงงาน Foxconn เพิ่มเงินเดือนให้พนักงานอีก 10% เพื่อให้แน่ใจว่า จะมีกำลังการผลิตที่เพียงพอ และสามารถสนองความต้องการผลิตของ Apple ได้ โดยตัวเลข 75 ล้านเครื่องนั้น เป็นเพียงเป้าที่ตั้งไว้สำหรับเดือน กันยายน ตุลาคม หลังจากนั้นค่อยปรับเปลี่ยนกำลังการผลิตหลังจากรู้ยอดขายคร่าวๆ ประมาณ 3 เดือนแล้ว จากข้อมูล ทำให้คิดได้ว่า Apple คาดหวังว่า ยอด iPhone ที่ส่งไปขายนั้นจะเท่ากับของเมื่อปีที่แล้ว 
 
ก็ต้องมาตามกันดูว่ายอดขายของ iPhone 11 จะไปได้สวยเหมือนที่ Apple ตั้งใจไว้หรือไม่เพราะต้องไม่ลืมเหมือนกันว่าปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่มีการเก็บภาษีการเปิดกิจการ ทั้งร้านขายสินค้าและการเปิดโรงงานการผลิตในจีน ทำให้ต้นทุนนั้นสูงขึ้น บวกกับค่านิยมของ Tim Cook ที่มองผลิตภัณฑ์เป็นสินค้ากลุ่มพรีเมี่ยม ทำให้มีการตั้งราคาของ iPhone 11 ที่น่าจะสูง ย้อนแย้งกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนักการที่คนจะยอมจ่ายเงินให้กับโทรศัพท์ในราคาที่เกินกว่า 1,000 ดอลล่าร์ (ประมาณ 31,000 บาท) อาจจะดูเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็อาจเป็นได้เพราะชื่อของ iPhone ยังไงก็ยังน่าสนใจ แต่จะขายได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องมาลองลุ้นกันอีกที
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id:
 @thaifranchise
 
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
792
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
709
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
640
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
521
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
432
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
420
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด