บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.0K
3 นาที
7 ตุลาคม 2562
มีเหนื่อย! ธุรกิจ SMEs ปี 2020


ทำธุรกิจไม่ว่ายุคไหนต่างก็ “มีเหนื่อย” อยู่ที่จะ “เหนื่อยมาก” “เหนื่อยน้อย” ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชนเป็นสำคัญ และต้องยอมรับความจริงว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจมีการชะลอตัวอย่างมาก โอกาสเกิดและเติบโตของธุรกิจรายใหม่ๆ หากสายป่านไม่ดีพอ ไม่มีการวางแผนการบริหารจัดการที่ดี ไม่ก้าวทันตามยุคสมัย มีโอกาสเจ๊งไม่เป็นท่าสูง
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ยังมองต่อไปอีกว่าในช่วงรอยต่อระหว่างปี 2019 ไปถึง 2020 คนที่คิดจะเป็น SMEs ก็ยังต้องลุ้นเหนื่อย! ด้วยมีตัวแปรรอบด้านมากมาย
 
คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มทรงกับทรุด


ภาพจาก bit.ly/2IrfPgo

จากผลกระทบของสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยหดตัวลง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 2.8 % จากเดิม 3.1 % ขณะที่คาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2563 คาดว่ามีความเสี่ยงที่จะโตต่ำกว่า 3.0 เปอร์เซ็นต์ จากหลายปัจจัยลบหลายด้าน โดยเฉพาะข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ จะกระทบการส่งออกของไทยในปี 2563 เพิ่มเติมอีก 1,000-2,500 ล้านดอลลาร์ฯ หลังต้องรับรู้ผลกระทบจากการเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าจีนต่อเนื่อง ขณะที่ในปี 2562 คาดการณ์ผลกระทบไว้ที่ 2,100-3,000 ล้านดอลลาร์ฯ
 
ยังไม่นับปัจจัยภายในประเทศที่รู้กันดีในเรื่องการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน แม้ว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อย่าง “ชิม ชอป ใช้” ที่คาดว่าจะหนุน GDP ให้โตขึ้นได้อีกราว  0.02 % แต่ภาพรวมหลักๆ คือกำลังซื้อที่ยังถดถอยต่อเนื่อง ประชาชนรัดเข็มขัดตัวเองมากขึ้น ระวังการใช้จ่ายมากกว่าเดิมคือความจริงที่เป็นปัญหาสำหรับคนทำธุรกิจ ซึ่งหากสินค้านั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องการหรือไม่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตส่วนใหญ่มักจะไม่ประสบความสำเร็จในการเปิดตลาดมากนัก

ไม่นับรวมต้นทุนของผู้ประกอบการเองที่ไม่สอดคล้องกับรายได้ที่ต้องการ เพราะในขณะที่รายได้ยังไม่แน่นอนว่าจะเท่าไหร่แต่รายจ่ายในด้านต่างๆ มีขอบเขตที่ชัดเจนและมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นตามปัจจัยภายนอกที่บอกได้เลยว่า การเริ่มต้นลงทุนทำธุรกิจ SMEs ต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการที่ดีถึงดีมากๆ
 
เผยตัวเลขผู้ประกอบการ SMEs ยังมีกิจการใหม่ “พร้อมเปิดตัว” สู้กระแสเศรษฐกิจ


ภาพจาก bit.ly/2MmNlWb
 
กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยตัวเลขผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2562 จำนวน  6,459 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 จำนวน 5,586 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน  873 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 5,964 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 495 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 รวมมีจำนวนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ค. 62 มีจำนวน 44,681 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. - ก.ค. 61) จำนวน 43,512 ราย โดยเพิ่มขึ้น จำนวน 1,169 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ค. 62 มีจำนวน 140,622 ล้านบาท ลดลง 28,604 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. - ก.ค. 61) จำนวน 169,226 ล้านบาท
 
ในด้านของธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,594 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 จำนวน 1,264 ราย  เพิ่มขึ้นจำนวน 330 ราย คิดเป็นร้อยละ 26 และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 1,688 ราย ลดลงจำนวน 94 ราย คิดเป็นร้อยละ 6  โดยตัวเลข จำนวนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ค. 62 มีจำนวน 8,261 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 284 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ค. 61) จำนวน 7,977 ราย มูลค่าทุน  จดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ค. 62 มีจำนวน 30,615 ล้านบาท ลดลง 14,995 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ค. 61) จำนวน 45,610 ล้านบาท
 
5 เทคนิคทำธุรกิจ SMEs ปี 2020 ให้เหนื่อยน้อยลง!
 
จากความผันผวนและต้นทุนรอบด้านที่สูงขึ้นสวนทางกับกำลังซื้อที่ยังไม่กระเตื้องขึ้นคือปัจจัยสำคัญว่าทำไมการทำธุรกิจในปี 2020 จึงยังไม่ฟันธงว่าจะสดใส อย่างไรก็ตามหากผู้ลงทุนได้ชื่อว่ามีวิสัยทัศน์ที่ดีพอและมีประสบการณ์ในการลงทุนมาบ้างคงจะพอมองออกว่า “หนทางรอดของSMEs ปี 2020” ขึ้นอยู่กับ 5 แนวทางนี้
 
1.มีการวางแผนบัญชี – การเงิน ให้รัดกุม


ภาพจาก bit.ly/31WPuOQ
 
ปัจจัยต้นทุนการเงิน เป็นอีกประเด็นที่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีไทย พึงต้องเตรียมตัวรับมือไว้ให้ดี หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 1.50 % เป็น 1.75 % นั้น แสดงให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นแล้ว และจะส่งผลต่อต้นทุนการเงินของเอสเอ็มอีอย่างแน่นอนเอสเอ็มอี ควรต้องเตรียมพร้อมในการบริหารการเงินอย่างเหมาะสม และมีเครื่องมือต่างๆ ในการปิดความเสี่ยง ซึ่งคงต้องหารือใกล้ชิดกับธนาคารที่ให้บริการอยู่ ที่สำคัญการใช้เงินจะต้องไม่ใช้เงินผิดประเภท มีการจัดทำบัญชีที่ถูกต้องด้วย
 
2.ตามกระแสเทคโนโลยีให้ทัน
 
เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางธุรกิจตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราได้รู้จักกับคำว่า IOT (Internet of Things) หรือว่า Blockchain เพิ่มมากขึ้น ยังไม่รวมเรื่อง AI (ปัญญาประดิษฐ์) หรือ Big Data ที่สามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพงาน เอสเอ็มอีบางส่วนได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้แต่บางส่วนเช่นกันที่ปรับตัวไม่ทันก็จะกลายเป็นผลลบที่อันตรายต่อธุรกิจทันที
 
3.ต้นทุนพลังงานมีแนวโน้มขยับ


ภาพจาก bit.ly/2njycfE
 
ต้นทุนสำคัญของเอสเอ็มอีกก็คือเรื่องของพลังงานที่ในปี 2562 ก็มีการปรับค่า FT ขึ้นมาทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าของผู้ประกอบการนั้นสูงขึ้น เป็นผลมาจากนโยบายของรัฐที่สนับสนุนให้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น ไม่นับรวมเรื่องราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มผันผวนตลอดเวลา โดยเฉพาะในดินแดนตะวันออกกลางที่ราคาน้ำมันเมืองไทยมีการขยับและปรับตามอยู่ตลอดเวลา ในปี 2563 ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องวิเคราะห์ในเรื่องพลังงานเหล่านี้เพราะถือเป็นต้นทุนสำคัญที่มีผลต่อรายได้ของธุรกิจเช่นกัน
 
4.ต้นทุนด้านบุคลากรไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่คือเวลาด้วย
 
3-4 ปีที่ผ่านมา เอสเอ็มอี ต่างประสบปัญหาด้านบุคลากรที่หายากขึ้น หรืออาจไม่ตรงตามสายงานที่ต้องการ ปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะแรงงานไม่มีทักษะ แต่ยังรวมถึงแรงงานที่มีทักษะตามสายงานต่างๆ ด้วย เนื่องจากพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ยุค Gen-Y และ Gen-C ที่หันหลังให้กับงานประจำ นิยมรับงาน Freelance หรือไม่ก็ไปค้าขายออนไลน์ หลายบริษัทเมื่อประสบบัญหาพนักงานรุ่นใหม่ๆ ออกบ่อย ก็หันไปจ้าง Freelance เสียเอง แต่นั่นหมายถึงต้นทุนการบริหารที่สูงขึ้น ซึ่งอาจไม่ได้มาในรูปของค่าจ้างอย่างเดียว แต่เป็นค่าเสียเวลา ดังนั้น เอสเอ็มอีต้องตระหนักถึงบุคลากรในองค์กรให้มากขึ้น มีการอบรมพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน
 
5.ภาพรวมการบริโภคในประเทศผันผวน


ภาพจาก bit.ly/2OofIG4
 
การบริโภคภายในประเทศไทย ยังต้องพึ่งพาเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งรายงานแนวโน้มสินค้าเกษตร แม้จะมีหลายตัวที่อาจจะมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ก็มีหลายตัวที่เป็นผลิตผลหลักๆ ที่ยังต้องเผชิญราคาตกต่ำต่อไป โดยเฉพาะยางพารา ปาล์ม ส่วนดัชนีราคาสินค้าเกษตรคาดการณ์ล่วงหน้าก็ไม่ได้ขยับตัวสูงนัก ทั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความพยายามในผลักดันนโยบายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
 
เมื่อประเมินรวมๆแล้ว SMEs ต้องเข้าใจและใส่ใจในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนอย่าคิดว่าเป็นแค่การลงทุนเล็กๆ ไม่ต้องคิดวิเคราะห์อะไรมากมาย ไม่ว่าธุรกิจเล็กหรือใหญ่ เมื่อลงทุนไปแล้วก็มีความเสี่ยง ยิ่งประเมินสถานการณ์ผิดพลาดไม่มีการควบคุมต้นทุน และบริหารจัดการองค์กรดีพอ จากธุรกิจที่คาดหวังกำไรอาจกลายเป็นไม่มีกำไรและจะทำให้ผู้ลงทุน “เหนื่อยสุดๆ” เลยทีเดียว

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php
ยุคนี้ใครๆ ก็พูดถึง “ธุรกิจออนไลน์”  หลายคนที่เคยเป็นมนุษย์เงินเดือนเกิดเห็นช่องทาง คนอื่นทำแล้วรวย ลาออกจากงานมาทำดูบ้าง บางคนรอด บางคนเจ๊งไม่เป็นท่า นี่คือความเหนื่อยของ ธุรกิจออนไลน์ปี 2020 ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com ยืนยันว่าธุรกิจนี้ยังมีโอกาสแต่ก็ใช่ทุกคนที..
72months ago   2,172  7 นาที
คิดอะไรไม่ออก! เบื่องานประจำ! ไม่มีอะไรทำ! ก็เลือกมาเป็นพ่อค้าแม่ค้า ในยุคสมัยหนึ่งอาชีพพ่อค้าแม่ค้าเคยบูมมาก ยิ่งเศรษฐกิจดีคนมีกำลังซื้อ คนขายของสนุกมากขายมือเป็นระวิงกำไรต่อวันกว่า 1,000 บาท บางคนขายของเดือนเดียวรายได้ดีกว่าทำงานประจำ แต่นั่นคือเรื่องในอดีตที่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยน..
72months ago   2,493  6 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
500
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด