บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
8.0K
3 นาที
4 กันยายน 2562
มีเหนื่อย! พนักงานธนาคาร ปี 2020


ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20-30 ปีก่อน อาชีพพนักงานธนาคารถือเป็นอาชีพที่ดูดีมีความมั่นคง รายได้ดี โบนัสก้อนโต สวัสดิการดีงาม ทำให้ใคร ๆ ก็ใฝ่ฝันอยากจะเข้าไปทำงานธนาคารกันมากมาย แต่ปัจจุบันปัญหาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมได้รับผลกระทบ รวมถึงธนาคารด้วย
 
วิกฤตเศรษฐกิจและเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เข้ามา ทำให้จำนวนคนตกงานเพิ่มมากขึ้น จากการปรับโครงสร้างขององค์กร เพื่อให้บริษัทอยู่รอด ซึ่งพนักงานธนาคารก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ก็ได้เจอกับกระทู้ที่พูดถึงอาชีพพนักงานธนาคารว่าเป็นอาชีพที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้ ซึ่งก็อาจจะตรงใจใครหลายคนที่กำลังประสบปัญหาวิกฤตเช่นนี้อยู่ ใครที่ยังคิดว่าอาชีพนี้สบายและเงินดีอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทันที! 
 
พนักงานธนาคาร อาชีพที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้
 
ภาพจากกระทู้ https://pantip.com/topic/39179987
 
“สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่ มีเรื่องอัดอั้นใจจะเล่าให้ฟังครับ 
 
ครอบครัวผมทำงานธนาคาร...(สีม่วง)  ซึ่งได้รับผลกระทบมาก จากภาวะยุคดิจิตอล ที่จะสนับสนุนให้คนหันมาใช้แอพพิเคชั่น ในการเบิกจ่ายเงินแทนการเข้าไปทำรายการในธนาคาร ผมไม่ทราบว่านโยบายนี้เป็นของใคร แบงก์ชาติหรือว่าธนาคารเองแต่มีหลายธนาคารใช้ระบบเดียวกัน 
 
ผลกระทบที่ไม่เป็นธรรมนี้ตกอยู่ที่พนักงาน ธนาคาร (สีม่วง)มีนโยบายลดสาขาลงเป็นจำนวนมาก จะเห็นได้ว่ามีสาขาทยอยปิดตัวไปแล้วมากมาย ในเมื่อลดสาขา พนักงานก็ต้องถูกลดด้วย และมีเป้าปรับลดพนักงานลงจำนวนมาก แต่ธนาคารมีนโยบายที่ไม่เป็นธรรม คือใช้วิธีบีบพนักงาน ให้พนักงานขายผลิตภัณฑ์ของธนาคารในเป้าที่สูง และเร่งรัดทุกวัน พนักงานอยู่แบบหวาดหวั่นและเครียด 
 
คนไหนขายได้ ก็รอดตัวไป คนไหนไม่ได้ ก็ถูกเขตต่างๆเรียกพบบ้าง ประชุมบ้าง ให้มาทำงานเดินตลาดในวันหยุดบ้าง หนักเข้าพอไม่มีผลงานก็จับโยกย้าย ไปไกลๆ บางคนโชคร้าย ย้ายข้ามจังหวัดก็มี บีบทุกวิถีทางให้ลาออกเอง เพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย 

ภาพจาก bit.ly/2jYjF7v
 
โบนัสจากเคยได้ ปีล่ะ 4-6 เดือน ก็ปรับลดแบบน่าตกใจ เหลือไม่ถึงครึ่งแล้วแต่ผลงานคะแนนประเมิน พอร้องเรียนเข้าสหภาพ ก็จะถูกตามสอบสวน อย่างหนัก และถ้ารู้ตัวคืออยู่ไม่ได้ บีบจนต้องทยอยลาออกไปหลายคน ชีวิตพนักงานตอนนี้สิ้นหวังมาก ขาดที่พึ่ง แบงก์ชาติก็ไม่เคยมาดูแล กรมแรงงานก็ไม่เคยมีบทบาท จะตกงานกันวันไหนไม่มีใครรู้ 
 
สหภาพแรงงานก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะต่อรองอะไรได้ สุดท้ายความโชคร้ายตกมาอยู่ที่ครอบครัวพนักงาน เมื่อเสาหลักของบ้านถูกบีบจนต้องลาออกเอง ครอบครัวก็เคว้งคว้างไร้ที่พึ่ง วอนผู้เห็นใจและเกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลช่วยเหลือพนักงานธนาคารให้ได้รับความเป็นธรรมด้วยครับ”
 
ทำไมพนักงานธนาคารต้องเหนื่อย!?
 
ภาพจาก bit.ly/2lwi0qe

จากกระทู้ข้างต้น สาเหตุที่พนักงานธนาคารต้องเหนื่อยเพราะต้องไปทำหน้าที่เพิ่มเติม โดยการขายผลิตภัณฑ์หรือประกันให้ได้ตามเป้า ใครที่ไม่ไหวก็จะรู้สึกเหมือนถูกโดนบีบให้ลาออก เนื่องจากทางบริษัทไม่ต้องการที่จะจ่ายชดเชย บวกกับแอพพลิเคชั่นและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาทำให้หน้าที่การโอนการฝากแทนพนักงานธนาคารได้ ก็ทำให้พนักงานต้องคอตกไปตาม ๆ กัน
 
หากพูดถึงในภาพรวมของเศรษฐกิจโลกตอนนี้ ไม่ใช่แค่พนักงานธนาคารเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับสภาวะวิกฤต ผู้ประกอบการต่าง ๆ ก็ต้องเผชิญปัญหานี้เช่นกัน องค์กรจึงต้องมีการปรับตัวให้มีความกระชับ ตัดต้นทุนค่าใช้จ่าย ลดจำนวนพนักงาน ยุบสาขา 
 
ยุคนี้เข้าสู่ยุคดิจิตอล ผู้คนต้องการความรวดเร็ว ง่าย สะดวกสบาย การที่จะต้องเข้าคิวรอคนเยอะ ๆ แออัดในธนาคารก็คงไม่ตอบโจทย์ลูกค้ารุ่นใหม่ ๆ การทำธุรกรรมการเงินก็ต้องปรับเปลี่ยนพัฒนาไปสู่ระบบดิจิตอลแบงกิ้ง ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปถึงธนาคารก็สามารถทำธุรกรรมได้มากมายหลายประเภท เพียงแค่ปลายนิ้ว
 
ธุรกรรมผ่านแผ่นกระดาษหน้าเคาน์เตอร์มีความจำเป็นน้อยลง ทำให้การจะเช่าพื้นที่แพง ๆ ในห้างใหญ่ ๆ ก็ลดลงเช่นกันเพราะเป็นการประหยัดต้นทุน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นสาเหตุที่สำคัญทำให้พนักงานธนาคารต้องเหนื่อยกายและเหนื่อยใจ แบบที่ไม่รู้อนาคตของตัวเองเลยว่าจะถูกปลดตอนไหนเมื่อไหร่
 
พนักงานธนาคารต้องปรับตัวและรับมืออย่างไร
 
ภาพจาก bit.ly/2lwFtHO

จากข้อมูลที่ www.ThaiFranchiseCenter.com ได้รวบรวมมาก็พอจะเห็นว่าวงการนี้ก็ยังมีทางออกอยู่บ้างสำหรับคนที่ยังอยากทำงานเกี่ยวกับการบริหารการเงิน ก็มีผู้ที่แนะนำว่าให้ลองไปสมัครบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บล. หรือ บลจ.) ที่ขายกองทุนควบคู่กับการวางแผน เพราะบริษัทเหล่านี้แทบไม่มีการขายประกันมาเกี่ยวข้อง มีแต่การขายที่ช่วยลูกค้าในเรื่องของการลงทุนโดยไม่ต้องพยายามปั่นยอด 

แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีกต่อไป กรณีพนักงานธนาคารที่ต้องเผชิญสภาวะวิกฤตนี้ก็สะท้อนให้เราเห็นว่า การเรียนอาชีพสายตรงมานั้นในอดีตอาจทำให้ใครหลายคนเห็นว่ามั่นคงจบมามีงานทำรองรับอย่างแน่นอน แล้วทักษะในวิชาชีพนั้นจะหล่อเลี้ยงเราได้จนวันตาย แต่ปัจจุบันนี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทักษะวิชาชีพที่เราร่ำเรียนมานั้นอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เรารับมือกับเศรษฐกิจที่ผันผวนได้

ดังนั้น www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอ 4 ทักษะที่เราจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อเป็นตัวช่วยในการเอาตัวให้รอดในยุคนี้
 
1. ทักษะทางภาษา
 
หนุ่มสาวชาวออฟฟิศส่วนใหญ่อาจจะยุ่งกับการทำงานจนทำให้ละเลยการพัฒนาภาษาของตนเอง ยิ่งใครที่ทำงานไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาอังกฤษจะยิ่งทำให้การใช้ภาษาอังกฤษในแต่ละครั้งดูจะเป็นเรื่องยาก ใครที่มีทักษะภาษาที่มากกว่า 2 ภาษา แน่นอนว่าช่องทางทำเงินต้องมาแน่นอน
 
2. ทักษะทางเทคโนโลยี
 
ภาพจาก  pixabay.com

แม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะมีการพัฒนาให้ก้าวหน้าไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนวัยทำงานจำนวนไม่น้อยที่มีความรู้ในด้านเทคโนโลยีค่อนข้างจำกัด หลายคนมีประสบการณ์การทำงานนานหลายสิบปี แต่กว่าจะเปิดคอมพิวเตอร์ได้ก็ต้องให้คนมาคอยช่วย 
 
หรือแม้ระบบออนไลน์จะมีประสิทธิภาพมากแค่ไหนก็ตาม แต่น้อยคนนักที่จะใช้อย่างคุ้มค่า แม้แต่ในระดับองค์กรเองบางครั้งยังใช้ประโยชน์จากระบบออนไลน์ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
 
3. ทักษะโปรแกรมคอมพิวเตอร์
 
ภาพจาก bit.ly/2jYkbSZ

นอกจากโปรแกรมพิมพ์เอกสารทั่วไปอย่าง Microsoft Word ยังมีโปรแกรมที่จำเป็นอีกมากมายอย่าง Excel ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระบบระเบียบ มีการคำนวณ เชื่อมโยงสูตร เชื่อมโยงไฟล์ หรือจะเป็นการใช้โปรแกรม Photoshop พื้นฐานให้เป็น เพราะถ้าหากเราทำได้ก็จะมีทักษะที่น่าสนใจ แม้จะตกจากงานเดิมก็จะมีช่องทางใหม่ ๆ
 
4. ทักษะการเรียนรู้คน จิตวิทยาการเรียนรู้และเข้าใจผู้อื่น

ภาพจาก pixabay.com
 
แม้ว่าคุณจะทำงานเก่งมากแค่ไหน มีความสามารถมากเพียงใด แต่ถ้าคุณอ่านคนไม่ออก ควบคุมทีมไม่ได้ บริการจัดการทีมให้มีประสิทธิภาพไม่ได้คุณก็มีโอกาสน้อยมากที่จะก้าวเข้าไปอยู่ในตำแหน่งสูง ๆ 
 
โดยตำแหน่งที่สูงนั้น นอกจากจะต้องรอบรู้ในงานที่ทำ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างดีแล้ว ยังต้องบริหารคนให้ได้ด้วย คุณต้องรู้ว่าจะจูงใจลูกน้องให้ทำงานให้ตรงตามเป้าหมายได้อย่างไร โดยที่ลูกน้องไม่รู้สึกอึดอัดใจ ซึ่งตรงนี้เราสามารถเรียนรู้ได้จากการทำงานทุก ๆ วัน เพราะเราสามารถเรียนรู้ได้จากหัวหน้างาน จากเพื่อนร่วมงาน 
 
เมื่อคุณเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเข้าอกเข้าใจเพื่อนร่วมงาน ได้เรียนรู้เทคนิคจิตวิทยาการจูงใจจากระดับหัวหน้างานต่าง ๆ แล้วนำมาปรับใช้คุณก็สามารถเติบโตไปในงานสายบริหารได้
 
นอกจากทักษะเหล่านี้ที่จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการรอดพ้นภาวะวิกฤตแล้ว ยังมีอีกตัวช่วยที่สำคัญก็คือ การลงทุนทำธุรกิจด้วยตัวเอง ซึ่งการเป็นนายตัวเองนั้นจะทำให้เราสามารถกำหนดเวลาต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง แถมยังเป็นช่องทางที่ทำให้เรามีโอกาสเติบโตได้มากยิ่งขึ้น เพราะอนาคต(อันไม่ไกล)การเป็นพนักงานประจำอาจจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์เกือบทั้งหมดก็ได้
 
www.ThaiFranchiseCenter.com ก็อยากให้ทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้เริ่มฝึกทักษะใหม่ ๆ และวางแผนที่จะลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงยเป็นรายได้ที่ทำชีวิตของเรามั่นคงได้ด้วยตัวเอง เหนื่อยหน่อยแต่คุ้มค่า เพราะนอกจากการได้รับกำไรแล้วเรายังได้ประสบการณ์ที่จะทำให้เราเติบโตมากยิ่งขึ้น ลงมือก่อน เรียนรู้ก่อน เติบโตก่อน
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 
อ้างอิงข้อมูล 

https://bit.ly/2cuGfOU
บริษัทซันโย เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผลิตชิ้นส่วนแม่พิมพ์ แม่พิมพ์ และซ่อมแซมแม่พิมพ์ และชิ้นส่วนโลหะ ประกาศเลิกจ้างพนักงานทุกคนมีผลตั้งแต่ 31 สิงหาคม 2562  ขยับมาอีกหน่อยวันที่ 28 สิงหาคม 2562 บริษัท GM General Motors Thailand ที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรม อิสเทิร์นซีบ..
72months ago   4,484  6 นาที
คิดอะไรไม่ออก! เบื่องานประจำ! ไม่มีอะไรทำ! ก็เลือกมาเป็นพ่อค้าแม่ค้า ในยุคสมัยหนึ่งอาชีพพ่อค้าแม่ค้าเคยบูมมาก ยิ่งเศรษฐกิจดีคนมีกำลังซื้อ คนขายของสนุกมากขายมือเป็นระวิงกำไรต่อวันกว่า 1,000 บาท บางคนขายของเดือนเดียวรายได้ดีกว่าทำงานประจำ แต่นั่นคือเรื่องในอดีตที่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยน..
72months ago   2,493  6 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
500
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด