บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
2.6K
3 นาที
8 ธันวาคม 2564
วิธีใช้ “กล่องสุ่ม” เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ
 

ใครที่ได้ติดตามข่าวช่วงนี้คงได้ยินชื่อของ “กล่องสุ่ม” แน่นอนว่านี่คือเทรนด์การตลาดที่กำลังมาแรงอย่างมาก และดูจะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆด้วย รูปแบบของกล่องสุ่มคือการขายที่ผู้ขายจะใส่สินค้าต่างๆ ไว้ในกล่อง โดยสินค้ามีทั้งแบบแบ่งเป็นหมวดหมู่และแบบคละสินค้า ผู้ซื้อไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ว่าในกล่องมีอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกค้าได้ลุ้นว่าสินค้าที่จะได้เป็นอะไร โดยที่ข้างในอาจจะมีสินค้าแบรนด์แนม สิ่งของที่มูลค่ามากกว่าหรืออาจจะน้อยกว่าที่จ่ายเงินซื้อไป
 
ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มั่นใจเหลือเกินว่าผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่สนใจในกลยุทธ์ “กล่องสุ่ม” และได้นำมาใช้เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของตัวเองด้วย
 
รู้จัก “กล่องสุ่ม” ให้มากขึ้น!
 

ภาพจาก www.freepik.com

“Mysterious Box” หรือ กล่องสุ่ม เป็นเทรนด์ที่คนไทยเริ่มรู้จักไม่นานนี้แต่ที่จริงต้นกำเนิดกล่องสุ่มมีมาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่าเทรนด์นี้เป็นการตลาดที่เริ่มในประเทศญี่ปุ่นที่มาของกล่องสุ่มใช้หลักการเดียวกับ ถุงโชคดี หรือ Lucky bag (ภาษาญี่ปุ่นใช้คำว่า ฟุกุบุคุโระ) คือ สินค้าที่วางขายโดยการคละสินค้าไว้ในถุง และผู้ซื้อนั้นไม่รู้ว่าข้างในนั้นมีอะไรบ้าง ลักษณะก็คล้ายกับ “กาชาปอง” ที่เป็นของที่ซ่อนอยู่ในลูกบอลพลาสติก โดยโฆษณาขายกล่องสุ่ม เรามักจะเห็นสิ่งแรกที่ถูกพูดถึงคือเรื่องราคา ที่สื่อถึงความคุ้มค่ากับการลุ้น เช่น จ่ายเพียง 399 บาท สามารถลุ้นของที่มีมูลค่ามากกว่า 500 บาท เป็นต้น

สิ่งที่ผู้ขายควรให้ความสำคัญมากๆ คือเรื่องต้นทุนของสินค้าที่จะใส่เข้าไปในกล่องสุ่ม ว่ามีส่วนต่างของต้นทุนกับราคาอยู่ในระดับที่ยังได้กำไรตามเป้าหมาย แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะเลือกสินค้าที่มีดูคุ้มค่าเกินราคา เพื่อทำไม่ทำให้ลูกค้าที่กำลังตั้งตารอผิดหวังในเวลาเดียวกันด้วย
 
จิตวิทยาของ “กล่องสุ่ม” กระตุ้นให้คนอยากซื้อได้
 

ภาพจาก www.freepik.com

Harvard Business Review ได้กล่าวว่า ความตื่นตาตื่นใจหรือความเซอร์ไพรส์ คือเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังโดย “การไม่รู้ และอยากรู้” คือแรงกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพมาก จึงไม่แปลกว่าทำไมคนเราจึงชอบหมุนกาชาปอง ชอบเซอไพรส์วันเกิด และซื้อกล่องสุ่ม ที่ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งของข้างใน

เสน่ห์ของกล่องสุ่ม คือ "ความไม่รู้” ว่าจะได้อะไรส่วนเสน่ห์ของความผิดหวังคือ “ความหวัง” ที่จะได้ลุ้นใหม่อีกครั้ง และได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการซึ่งการขายที่อาศัยเรื่องอารมณ์ความรู้สึกมาเกี่ยวข้องในลักษณะนี้กำลังกลับมาเป็นตัวช่วย "กระตุ้นยอดขาย" ของบรรดาแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างดี โดยที่ผ่านมาเราเห็นหลายแบรนด์ออกมาทำกล่องสุ่มกันอย่างคึกคักทั้ง กล่องสุ่มเบเกอรี่ กล่องกล่องสุ่มอาหารทะเลสด อาหารแช่แข็ง กล่องสุ่มของมือสอง กล่องสุ่มของเล่นเด็ก กล่องสุ่มเครื่องสำอาง หรือแม้แต่กล่องสุ่มของแบรนด์เนม เป็นต้น
 
ข้อดีของธุรกิจที่ใช้ “กล่องสุ่ม” เพิ่มยอดขาย
1. บริหารจัดการสินค้าในสต็อคให้หมุนเวียนได้มากขึ้น
 

ภาพจาก www.freepik.com

ข้อดีในการจัดกล่องสุ่มสำหรับผู้ค้า คือลูกค้าจะไม่รู้ว่าตัวเองจะได้รับของอะไร รู้แค่ว่าของที่ได้มีมูลค่าเท่าไรบ้าง ดังนั้น ในด้านผู้ขายก็สามารถรวบรวมสินค้าใดก็ได้ที่มีอยู่ในสต็อก หมายความว่านี่คือโอกาสขายสินค้าที่ขายไม่ค่อยดี หรือเรียกว่าโอกาสของล้างสต็อกไปในตัวก็ว่าได้
 
แต่สิ่งที่ต้องระวังคือร้านค้าที่ขายของหลายอย่าง สิ่งที่ใส่ไป จะต้องไม่หลุดไปจากธีมสินค้าที่วางไว้ในเรื่องกล่องสุ่ม เพราะอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกยัดเยียดสินค้ามากเกินไป ไม่เป็นผลดีกับผู้ขาย
 
 2. ผู้ประกอบการควบคุมต้นทุนได้ง่ายกว่าเดิม 
 
การทำสินค้าแบบสุ่ม ผู้ขายเป็นผู้ควบคุมต้นทุนด้วยตัวเอง การจัดสินค้าแบบเฉลี่ยราคาสูงต่ำ ช่วยถัวต้นทุนสินค้าได้อัตโนมัติ และยิ่งขายกล่องสุ่มได้เยอะ ยิ่งทำให้มีโอกาสเพิ่มยอดขายในสินค้าหลากหลายประเภทมากขึ้นด้วย
 
 3. สร้างสีสันให้เกิดขึ้นกับธุรกิจ
 

ภาพจาก www.freepik.com

อีกหนึ่งข้อดีของการจับสินค้าใส่กล่องสุ่มแทนการทำโปรโมชั่นอื่นๆ คือ นอกจากช่วยระบายสินค้าที่ขายไม่ดีได้แล้ว ยังสามารถใส่สินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มเดียวกัน ให้กับลูกค้าที่ไม่เคยซื้อหรือใช้ให้ไปทดลองใช้แบบเนียนๆ และนั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นลูกค้าประจำได้ และทำให้ลูกค้ารู้สึกมีสีสันสนุกไปกับธุรกิจของเราได้
 
4.ดึงดูดให้ลูกค้าอยาก “ซื้อ “มากขึ้น
 
การช้ากล่องสุ่มทำให้ลูกค้ารู้สึกถึง “ความคุ้มค่า”เพราะบางครั้ง การซื้อสินค้าทั้งหมด โดยไม่ซื้อผ่านโปรโมชันกล่องสุ่ม ก็อาจมีราคาสูงกว่า ยกตัวอย่างบางแบรนด์ขายกล่องสุ่มในราคา 10,000 บาท แต่มูลค่าสินค้าในกล่องประเมินแล้วไม่ต่ำกว่า 12,000 บาท ลูกค้าจะชอบเพราะรู้สึกคุ้มค่าและอยากกลับมาซื้อสินค้ากับเรามากขึ้น
 
5.ดันธุรกิจให้คนรู้จักเร็วขึ้นในโซเชี่ยล
 

ภาพจาก www.freepik.com

กล่องสุ่มถือเป็นการตลาดโซเชี่ยลอีกแขนงที่ได้ผลดีมากในการทำให้คนพูดถึงสินค้าเรามากขึ้น จะเรียกว่าเป็นกิจกรรมเพื่อโปรโมทผสมผสานกระตุ้นยอดขายในคราวเดียวกันก็ได้ แต่ก่อนที่เราจะทำกล่องสุ่มให้คนสนใจ เราก็ทำการตลาดให้คนรู้จักสินค้าเราเบื้องต้นก่อน เมื่อจัดกล่องสุ่มขึ้นมาจะเรียกลูกค้าได้มากขึ้น และยิ่งลูกค้าประทับใจมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งแชร์ออกไปทำให้เราประหยัดงบในการโฆษณาได้อีกด้วย
 
ตัวอย่าง “ธุรกิจ” ที่ใช้ “กล่องสุ่ม” เพิ่มยอดขาย
1. กล่องสุ่มสายสุขภาพ
 
White Organic Market เป็นธุรกิจสายสุขภาพได้ทำกล่องสุ่มขายในชื่อ O Box มีอยู่ 4 แบบให้เลือกสุ่ม คือ กล่องสลัดออร์แกนิก, กล่องผักสวนครัวออร์แกนิก, กล่องผลไม้ออร์แกนิกและปลอดสาร, กล่องออร์แกนิกรวมทโดยแต่ละกล่องจะเป็นผักและผลไม้ตามฤดูกาล ขายในราคาเหมาๆ กล่องละ 500 บาท กินได้ทั้งสัปดาห์ โดยในกรุงเทพฯ คิดค่าส่งที่ 50 บาท ส่วนต่างจังหวัดเนื่องจากต้องใช้รถควบคุมอุณหภูมิจึงมีค่าส่งสูงขึ้นที่ 190 บาท
 
2.กล่องสุ่มอาหารทะเล

ภาพจาก https://bit.ly/31uKWo1

ยกตัวอย่างเจ้าของร้านทะเลมือถือ-ปลาทะเลออนไลน์ ที่ได้ทำกล่องสุ่มอาหารทะเลผ่านออนไลน์และเพียง 1 สัปดาห์ ทางร้านก็มียอดขายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวโดยมีออร์เดอร์สูงสุดถึง 500 กล่องต่อวัน ทั้งในกรุงเทพฯ เเละต่างจังหวัด ปัจจุบันรายได้ต่อวันถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีผู้ประกอบร้านอาหารทะเลหลายแห่งที่เริ่มใช้กลยุทธ์นี้กันมากขึ้น
 
3.กล่องสุ่มสินค้าอุปโภค
 
ภาพจาก https://bit.ly/307KPOs

สินค้าในเครือ Lion ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคสารพัดแบรนด์ เช่น ผงซักฟอกเปา, ยาสีฟันซอลท์, น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ, สบู่ล้างมือคิเรอิคิเรอิ ฯลฯ มีการจัดกล่องสุ่ม 2 ราคาให้ซื้อเมื่อวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา และจำกัดจำนวนแค่ 2,000 กล่องเท่านั้น โดยแบ่งเป็นกล่องราคา 399 บาท จะได้สินค้ามูลค่าไม่ต่ำกว่า 900 บาท และกล่องราคา 699 บาท ได้สินค้ามูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,600 บาท

4.กล่องสุ่มสินค้าอิเลคทรอนิคส์
 

ภาพจาก https://bit.ly/3EAV1Oq

ร้าน TG FONE จำหน่ายกล่องสุ่มหลายราคาตั้งแต่ 199-999 บาท แต่ของในกล่องจะไม่ได้มีเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีการผสมสินค้าจิปาถะอื่นๆ เข้ามาด้วย ยกตัวอย่างจากลูกค้าที่ซื้อกล่องสุ่ม 199 บาท อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นหูฟังกับสายรัดข้อมือวัดการเต้นของหัวใจ แต่ในกล่องยังมีถุงเท้า ถาดทำน้ำแข็ง ฯลฯ ติดมาด้วย หรือกล่องสุ่ม 999 บาท มีลูกค้าที่ได้ลำโพง โทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกด และของจิปาถะเป็นช้อนส้อม สมุดจด รองเท้าแตะ ฯลฯ ในกล่องเดียว
 
5.กล่องสุ่มหมูกระทะ
 
ภาพจาก https://bit.ly/3oxYI1J

โดยเจ้าแรกที่ทำคือร้านหมูกระทะ พุงแหก เปิดตัวกับกล่องสุ่มราคา 299 บาท แต่ได้วัตถุดิบแบบอิ่มขนาด3-4 คน หรือร้านอลังการหมูกระทะที่ทำกล่องสุ่มออกมาให้ลุ้นเช่นกัน ราคาไม่ต่างกันคือ 299 บาท ในกล่องมีทั้งหมู กุ้ง ปูอัด ไส้กรอก ปลาหมึก ลูกชิ้นต่างๆ รวมถึงผักและน้ำจิ้ม ใครที่เป็นสายหมูกระทะรับรองว่าคุ้มค่ามาก
 
แต่ทั้งนี้จากกระแสกล่องสุ่มที่มาแรงเหลือเกินก็มีคำเตือนออกมาว่าอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและปรับตามอัตรากฎหมายกำหนด รวมถึงผู้ที่ทำกล่องสุ่มควรให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเพราะถ้า
 
สินค้าไม่เหมือนกับที่รีวิวหรือโฆษณา หรือได้สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่าราคาที่จ่ายไปอาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค เนื่องจากมีการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด ความคุ้มค่า การโฆษณา ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง และอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย
 
ติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
422
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด