บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
16K
2 นาที
20 ธันวาคม 2565
ข้าวกล่อง 7–Eleven สีแดง-ดำ-ขาว ต่างกันอย่างไร?
 

เมื่อ 7-Eleven แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเรา ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ในแต่ละวันเราอาจใช้บริการ 7-Eleven มากกว่าวันละครั้ง หนึ่งในสินค้าขายดีที่ www.ThaiFranchiseCenter.com เห็นชัดเจนคือบรรดาข้าวกล่องและอาหารพร้อมทานต่างๆ ซึ่งบางทีด้วยความที่คุ้นชินจนเราไม่สังเกตเลยว่าแท้ที่จริง “ข้าวกล่อง 7-Eleven” เหล่านี้มีสีที่แตกต่างกันคือ แดง-ดำ-ขาว ทีนี้ก็เกิดเป็นเรื่องน่าสงสัยว่าเป็นข้าวกล่อง 7-Elevenเหมือนกันแต่ทำไมสีต่างกันมีที่มาที่ไปของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ลองมาหาคำตอบพร้อมกัน
 
ความแตกต่างของ ข้าวกล่อง7 –Eleven สีแดง-ดำ-ขาว?
 

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนคือปัจจุบัน (2565) สาขาร้าน7-Elevenทั่วประเทศมี 13,660 แห่ง แบ่งเป็นต่างจังหวัดสัดส่วน 57% และกรุงเทพฯ 43% มีลูกค้าใช้บริการรวมประมาณ 11 ล้านต่อวัน แต่เฉลี่ยรายสาขาอยู่ที่ 928 คนต่อวันต่อสาขา และยอดใช้จ่ายอยู่ระดับ 82-84 บาท/บิล ซึ่งกลยุทธ์ด้านการตลาดของ 7-Eleven ในหมวดหมู่อาหารเน้นการนำเสนอสินค้าประเภทอาหารแบบครอบคลุมตั้งแต่ของทานเล่น มื้อหลัก และของหวาน ทั้งที่เป็นอาหารแช่แข็งและแช่เย็น จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในแต่ละวันได้
 
โดยเฉพาะบรรดา “ข้าวกล่อง” ที่มีหลากหลายเมนูให้เราเลือกซื้อได้ตามต้องการทั้งข้าวผัด , กระเพราหมูสับ , ผัดซีอิ๊ว , ข้าวไก่กระเทียม , สปาเก็ตตี้ เป็นต้น อาหารแต่ละเมนูอยู่ในกล่องที่มีสีต่างกันซึ่งมีความแตกต่างดังนี้
 
1.แหล่งผลิตที่ต่างกัน
 
-“ข้าวกล่องสีแดง”
 

ผลิตโดย บริษัท ซีพีแรม (cpram) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ CP ALL ทำหน้าที่ในการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน และเบเกอรีอบสด ส่งตรงให้กับร้าน 7-Eleven โดยกระบวนการผลิตข้าวกล่องของซีพีแรมนั้น จะใช้กระบวนการผลิตอาหารสด แล้วแพคในภาวะปลอดเชื้อมีกำลังการผลิตอาหารพร้อมรับประทาน 1.4 ล้านถาดต่อวัน 
 
ในจำนวนนี้ กว่า 90% ป้อนให้กับเซเว่น อีเลฟเว่นที่เหลือเป็นการส่งขายไปยังต่างประเทศ
 
-“ข้าวกล่องสีดำ”
 

ผลิตโดย ซีพีเอฟ (CPF) ในเครือ CP ALL  เน้นการผลิตอาหารสดส่งให้ 7 –Eleven  มีหลายแบรนด์ที่รู้จักกันดีเช่น Ezy Choice และ Ezy GO จัดจำหน่ายครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ มีปริมาณขายรวม 116 ล้านกล่องต่อปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,040 ล้านบาท โดยในประเทศมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 80% และต่างประเทศมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 20%โดยกระบวนการผลิตจะแพคสินค้าและนำไปนึ่งฆ่าเชื้ออีกรอบก่อนจัดส่ง
 
-“ข้าวกล่องสีขาว”
 

เป็นกลยุทธ์ของ7-Eleven ในการนำเมนูขายดี มา Level up จากถาดแดง และถาดดำ ด้วยการเพิ่ม Value บางอย่างเข้าไป เช่น เพิ่มปริมาณเนื้อสัตว์ เพิ่มปริมาณบรรจุ เพิ่มความจัดจ้านของรสชาติ เพื่อให้อร่อยมากขึ้น และจำหน่ายในราคาสูงขึ้น
 
2.อายุในการเก็บรักษา(shelf life)ต่างกัน
 

โดยข้าวกล่องสีแดงที่เป็นอาหารสดใหม่มากที่สุดเก็บไว้ได้ 3-4 วัน ส่วนข้าวกล่องสีดำที่เป็นกลุ่มอาหารแช่เย็น เก็บได้นานประมาณ 7 วัน  ซึ่งทั้ง 2 สีคือแดงและดำ จะต้องเก็บภายใต้อุณหภูมิประมาณ 2-6 องศาเซลเซียส และสำหรับข้าวกล่องสีขาวคือข้าวกล่องที่เก็บได้นานมากที่สุดคือ 6 เดือนเพราะเป็นอาหารแช่แข็ง แต่ก็มีเงื่อนไขว่าต้องเก็บภายใต้อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส
 
3.เมนูขายดีของข้าวกล่องเเต่ละสี
 

เริ่มจากข้าวกล่องสีแดง เมนูฮิตที่สุดคือ “กระเพราหมู” ที่มีปริมาณการใช้กระเพรามากว่า 1ตันต่อวัน ถัดมาคือข้าวกล่องสำดำที่มีเมนูเด่นคือข้าวผัดไก่เกาหลี / สปาเกตตี้ ที่ขายดีมาก และสุดท้ายคือข้าวกล่องสีขาวที่มีเมนูยอดฮิตคือ ข้าวผัดปู ทั้งนี้เมนูข้าวกล่องทั้ง 3 สีรวมกันมีไม่ต่ำกว่า 30 เมนูเลยทีเดียว
 
อนาคตอาจได้เห็น “เมนูข้าวกล่องเพื่อสุขภาพ”
 

ปัจจุบันกระแสรักสุขภาพและรักษ์โลก กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้อาหารประเภท Plant Based Food หรือ อาหารที่ทำมาจากพืช ผัก ผลไม้ เน้นใช้โปรตีนจากพืช ข้อมูลระบุว่ามูลค่าตลาดของ Plant Based Food นั้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องคาดว่าในปี 2030 จะมีมูลค่าประมาณ 5,300,000 ล้านบาท และแน่นอนว่า 7-Eleven ที่มุ่งมั่นและต้องการจะเป็นมากกว่าแค่ร้านสะดวกซื้อ ที่ได้มีการพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ามาต่อเนื่องย่อมไม่พลาดที่จะก้าวตามในเรื่องนี้ แม้ในปัจจุบันเราจะเห็นเมนูเพื่อสุขภาพขายใน 7-Eleven กันบ้างแต่คาดว่าในอนาคตจะยิ่งมีมากขึ้น

ทั้งกลุ่มอาหารเจ อาหารวีแกน อาหารมังสวิรัติกับนม อาหารมังสวิรัติกับไข่ อาหารมังสวิรัติกับนมและไข่ เป็นต้น และจากความได้เปรียบทั้งในเรื่องกำลังการผลิต แหล่งวัตถุดิบ การบริหารจัดการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจึงเชื่อได้ว่าหากกระแสของ Plant Based Food ยิ่งมาแรงเราจะได้เห็นเมนูข้าวกล่องเพื่อสุขภาพให้เลือกรับประทานได้อีกหลายเมนูใน 7-Eleven
 
จากการบริหารงานอย่างมืออาชีพและวิสัยทัศน์ด้านการตลาดที่ดีเยี่ยมจึงไม่น่าแปลกใจที่7-Eleven จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจค้าปลีกที่ยังจะครองใจคนไทยทั่วประเทศได้อีกยาวนาน รวมถึงการขยายสาขาที่จะเพิ่มมากขึ้นพร้อมการปรับรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนได้ทุกยุคสมัย
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
598
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
484
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
461
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
407
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
399
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
390
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด