บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
783
2 นาที
23 กุมภาพันธ์ 2566
“ลาออกจากงาน” เป็นนายตัวเอง ยุคนี้ดีจริงหรือ?
 

ในช่วงหนึ่งของการแพร่ระบาดโควิดเกิดกระแสคำว่า “เป็นนายตัวเอง” พุ่งแรงมาก เมื่อสถานการณ์ผ่านไปทุกอย่างเริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง มาถึงยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูง ต้นทุนค่าครองชีพแสนแพง เกิดเป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า “การเป็นนายตัวเอง” ในยุคนี้จะดีจริงหรือ?

www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าคนที่ลาออกไปสร้างธุรกิจตัวเองมีทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ เคล็ดลับที่เคยได้ยินส่วนใหญ่คือ ให้สร้างธุรกิจตัวเองคู่กับทำงานประจำไปก่อน ถ้าดีจริงค่อยลาออก หรือบางคนก็ถึงขนาดบอกว่า “ใครมีงานประจำควรยึดไว้ให้แน่น” เพราะการเป็นนายตัวเองในยุคนี้ “เสี่ยงสูงมาก” แล้วตกลงว่าเราควรตัดสินใจเลือกแบบไหน ระหว่างเป็น “นายตัวเอง” หรือจะเป็น ลูกน้องตลอดไป
 
ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะจะเป็น “นายตัวเอง”
 
ระหว่างดีจริงหรือไม่ดีจริง สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะจะเป็นนายตัวเอง ลองมาดูว่าคุณสมบัติอะไรที่เราควรมี เพราะถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้แนะนำว่าให้ทำงานประจำต่อไปดีกว่า

1.ไม่มีความอดทน 
 

ต่อให้เป็นคนที่เงินทุนมาสร้างธุรกิจตัวเองก็ไม่ได้การันตัวว่าจะประสบความสำเร็จแบบสิ่งจำเป็นคือต้อง “อดทน” ยิ่งเป็นช่วงเริ่มต้นธุรกิจปัญหาก็ยิ่งเยอะมาก หรือแม้แต่ธุรกิจเริ่มอยู่ตัว ปัญหาในการทำธุรกิจก็มีต่อเนื่อง ดังนั้นต้องมีการวางแผนรับมือและแก้ปัญหาเหล่านี้ รวมถึงต้องมีความอดทนต่อปัจจัยอื่นในการทำธุรกิจที่เราต้องเจอ

2.กลัวความเสี่ยง
 
เราเห็นคนที่ประสบความสำเร็จและอยากทำได้เหมือนเขา แต่รู้หรือไม่ว่าคนเหล่านั้นกว่าจะถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงหลายต่อหลายครั้ง นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มีบุคลิกที่กล้าเสี่ยง กล้าลงทุน ถ้าเรายังไม่มีคุณสมบัติข้อนี้คิดว่าให้เลือกทำงานประจำต่อไปจะดีกว่า
 
3.วางแผนสำรองไม่เป็น
 

เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นอย่างใจคิด บางเรื่องก็เป็นปัญหาฉุกเฉินที่ต้องเจอแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นแผนสำรองจำเป็นต้องมี ถ้าใครวางแผนไม่เป็น ไม่รู้จักคิดเผื่อไปถึงอนาคตในกรณีที่เกิดปัญหา แสดงว่าไม่มีคุณสมบัติของการเป็นนายตัวเอง 
 
เป็นนายตัวเองยุคนี้ มีโอกาสสำเร็จแค่ไหน?
 

หากจะให้วัดผลเป็นตัวเลขก็ไม่คงไม่ชัดเจน เพราะมีอีกหลายปัจจัยในแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน ตัวเลขที่น่าสนใจคือคนทำงาน 51% ตัดสินใจมองหาอาชีพเสริม และ 35% ของคนทำงานจะทำงานอื่นควบคู่กับการทำงานหลัก เช่น รับงานเสริม หรือทำงานพิเศษเพื่อให้มีรายได้เพียงพอสำหรับใช้ชีวิต ซึ่งการก้าวออกจากงานประจำไปสู่การสร้างธุรกิจตัวเองในยุคนี้ยอมรับว่าถ้าไม่วางแผนให้ดี “ความเสี่ยงสูงมาก” ทั้งต้นทุนค่าครองชีพที่สูง การแข่งขันทางธุรกิจที่สูง กำลังซื้อของคนลดลง รวมถึงเรื่องของการตลาดที่มีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ทุกอย่างคือคีเวิร์ดสำคัญของการสร้างธุรกิจตัวเอง
 
ถ้าหากมองที่ข้อดีของการเป็นนายตัวเองก็เช่น มีโอกาสที่การเงินจะเติบโตได้แบบก้าวกระโดด , มีอิสระทางเวลาที่สามารถกำหนดเองได้ รวมถึง สามารถกำหนดทิศทางของธุรกิจได้ด้วยตัวเอง ถ้าคิดจะก้าวไปเป็นนายตัวเองให้ประสบความสำเร็จจึงต้องมีการวางแผนที่ดีเป็นสำคัญ หลายคนที่ก้าวออกไปแล้วสำเร็จสร้างรายได้ชนิดที่น่าอิจฉา ในขณะที่บางคนไปแล้วไม่รอดต้องหวนกลับมาทำงานประจำก็มีไม่น้อยเช่นกัน
 
เป็นนายตัวเองอย่างไรให้เสี่ยงน้อยที่สุด?
 

เอาละ! ถ้าตัดสินใจแน่วแน่ว่างานนี้ฉันต้องเป็นนายตัวเองให้ได้ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการลิสต์ค่าใช้จ่ายตัวเองออกมาให้หมดทั้งค่าผ่อนบ้าน, ค่าไฟ, ค่าน้ำ, ค่าโทรศัพท์, ค่าเดินทาง และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงต้องเผื่อค่าใช้จ่ายฉุกเฉินในแต่ละเดือนอีก 10 – 30% ของรายจ่ายทั้งหมดเข้าไปด้วย จะได้ลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด และเมื่อได้ตัวเลขที่เป็นรายจ่ายคร่าวๆ ก็จะทำให้เรารู้ว่า “แต่ละเดือนเราต้องหาเงินให้ได้เท่าไหร่” ซึ่งแน่นอนว่าการทำธุรกิจในช่วงแรกรายได้อาจไม่เข้าเป้าที่วางไว้

ดังนั้นต้องมาดูอีกว่าเรามี “เงินทุนสำรอง” เพียงพอให้ใช้ได้นานแค่ไหน และระหว่างนั้นเราจะมีรายได้จากธุรกิจมากน้อยเพียงใด และคำนวณดูว่าเมื่อไหร่ที่จะตั้งหลักใช้เงินจากธุรกิจได้โดยไม่ต้องพึ่งทุนสำรอง เราอาจใช้ข้อได้เปรียบจากที่เคยทำงานประจำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เช่น เรียนรู้วิธีการทำงานในฐานะลูกน้อง สะสมคอนเนคชั่นหรือคนรู้จักทางธุรกิจ การทำความคุ้นเคยกับบรรดาซัพพลายเออร์ต่างๆ โดยมีเป้าหมายว่าสักวันหากจะออกไปทำธุรกิจเป็นนายตัวเอง จะได้ให้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
เลือกลงทุนแฟรนไชส์ คือการเป็นนายตัวเองที่เสี่ยงน้อยที่สุด
 

ในกรณีที่มองว่าไม่มีประสบการณ์ไม่มีความรู้ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ที่สำคัญคือกลัวความเสี่ยง การเป็นนายตัวเองที่ดีที่สุดคือ “เลือกลงทุนระบบแฟรนไชส์” ซึ่งเป็นทางลัดสู่ความสำเร็จที่ได้ผลมากที่สุด โดยปัจจุบันมีแฟรนไชส์ให้เลือกหลายรูปแบบ และมีแพคเกจลงทุนให้เลือกได้ตามต้องการ ที่สำคัญทุกแฟรนไชส์มีทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ ที่พร้อมดูแลผู้ลงทุนทุกคนเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างแฟรนไชส์ที่น่าสนใจลงทุนไม่เกิน 5,000 มีให้เลือกหลายแบรนด์เช่น
 
 
แฟทโบร (เฮียอ้วนปิ้งย่าง) ที่ลงทุนเริ่มต้นแค่ 4,999 บาท หรือเป็นแฟรนไชส์ยอดฮิตอย่าง ต.เนื้อย่าง ที่ลงทุนแค่ 3,000 บาท ได้รับเนื้อโคขุนคละรส 500 ไม้ ขายไม้ละ10 บาทมีรายได้จากวัตถุดิบชุดแรกกว่า 5,000 บาท กำไรทันที 2,000 บาท นอกจากยังมีแฟรนไชส์ที่คนไทยรู้จักอย่างดีทั้ง อู้ฟู่ ลูกชิ้นปลาเยาวราช , ไจแอ้น ลูกชิ้นปลาระเบิด , ซูโม่ลูกชิ้นปลาระเบิด ซึ่งจุดเด่นคือมีแพคเกจลงทุนราคาไม่แพงเริ่นไม่เกิน 5,000 บาท แต่สามารถขายได้ทั้งหน้าบ้าน ตลาดนัด ย่านชุมชน ได้อุปกรณ์และวัตถุดิบพร้อมขายและมีทีมงานมืออาชีพคอยดูแลอย่างดี เหมาะสมกับการสร้างอาชีพเป็นนายตัวเองของคนในยุคนี้อย่างมาก
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการลงทุนแฟรนไชส์อาหาร ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3xhWQ0C 

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
10 อาชีพหลังเกษียณ ทำแก้เหงา แถมได้เงิน
793
แฉ! จริงมั๊ย ผู้ผลิตจน พ่อค้าคนกลางรวย
710
ยุคนี้ อยากรวยยาว! เซ็ทธุรกิจตัวเองให้เป็น Desti..
641
20 ไอเดียธุรกิจใหญ่ ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องมีหุ้นส่วน
522
เศรษฐกิจไม่ฟื้น! ไตรมาส 2 ไม่แพ้ไตรมาสแรก 14 ธุร..
441
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! อ.สมเกียรติ อ่อนวิมล
421
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด