บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
272
2 นาที
2 กรกฎาคม 2567
ตลาดเดือด! สมูทตี้สุขภาพ ใครจะรอด
 

ข้อมูลน่าสนใจที่เราควรทราบคือ คนไทย 1 ใน 4 ให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหาร และคนไทยกว่า 65% ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหาร-เครื่องดื่มที่ต้องเน้นเรื่องสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีถึง 41% ที่ใส่ใจในเรื่องเรื่องฉลากโภชนาการบนสินค้า เมื่อจะซื้อสินค้าหรือบริการ ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง “เทรนด์สุขภาพ” ที่เติบโตได้อย่างชัดเจน
 
ถ้ามองในภาพรวมมูลค่าตลาดอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพปี 2567 คาดว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 34,000 ล้านบาท ที่สำคัญมองในเรื่องของคู่แข่งตอนนี้ถือว่ายังน้อยมาก แสดงว่านี่คืออีกธุรกิจที่น่าสนใจลงทุนยุคนี้ แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น เพราะคีย์เวิร์ดของธุรกิจนี้เน้นที่ “สุขภาพ” ดังนั้นเรื่อง “คุณภาพ” จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

 
ภาพจาก www.facebook.com/erewhonmarket
 
ดูในต่างประเทศ “Erewhon” คือซูเปอร์มาร์เก็ตทางเลือกเพื่อสุขภาพ เจ้าแรกในสหรัฐอเมริกา ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้อย่างมาก ปัจจุบันมีสาขากว่า 10 แห่ง อยู่ในเมืองดังต่าง ๆ ของรัฐ California เช่น Beverly Hills, Calabasas หรือ West Hollywood เป็นต้น จุดขายของ Erewhon คือวางตำแหน่งแบรนด์ เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ขายสินค้าราคาสูง เพราะมั่นใจว่าแบรนด์เน้นขายสินค้าที่มีคุณภาพ และมีความแตกต่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเครื่องดื่มสมูทตี้ของที่นี่ราคาต่อแก้วถ้าคิดเป็นเงินไทยก็เริ่มตั้งแต่ 600 - 1,000 บาท หรือพวกผักสดผลไม้ใน Erewhon ก็ราคาสูงกว่าที่อื่น 4-5 เท่า 
 

ภาพจาก www.facebook.com/erewhonmarket
 
เหตุผลที่ขายแพงแต่ขายดีก็ง่ายๆ เพราะลูกค้ามั่นใจใน “คุณภาพสินค้า” ไล่ตั้งแต่กระบวนการผลิต การบอกแหล่งที่มา หรือแม้แต่ใบประกาศนียบัตรที่รับรองคุณภาพสินค้าอย่าง Certified Organic Retailer และ Certified B Corp ก็มีให้เห็นครบถ้วน สอดคล้องกับข้อมูลน่าสนใจอีกว่าคนที่อาศัยอยู่ในรัฐ California ติดอันดับสุขภาพดีที่สุด เนื่องจากมีอัตราการกินอาหารดีสูงถึง 62.4% รวมถึงมีจำนวนสถานที่ออกกำลังกายและสถานที่ด้านการดูแลสุขภาพเยอะกว่ารัฐอื่นๆ

ภาพจาก www.facebook.com/plantiful.bkk
 
กลับมาดูตลาดเครื่องดื่มสุขภาพของเมืองไทย หลายแบรนด์ก็เลือกตามรอยของ Erewhon ยกตัวอย่าง Plantiful คาเฟ่ออแกนิก ที่มีคอนเซปต์คือ “Eat Right. Eat with Purpose” โดยเมนูเกือบทั้งหมดเป็นสไตล์แพลนต์เบส (Plant-based) ทำจากวัตถุดิบที่ดีเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ปราศจากคอเรสเตอรอล แคลอรีต่ำ ในกลุ่มเครื่องดื่มสมูทตี้ราคาประมาณ 150-240 บาท เน้นเลือกทำเลอยู่ในย่านหรูที่มีกำลังซื้อสูงอย่างสุขุมวิท 61 หรือในเกสรอัมรินทร์

ภาพจาก FB : Ohjuice.thailand 

หรืออีกแบรนด์ที่น่าสนใจคือ Oh! Juice ในเครือเดียวกับ โอ้กะจู๋ ที่เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 2 ชูจุดเด่นอร่อยได้ประโยชน์ ไม่เติมน้ำตาล ใช้วัตถุดิบพรีเมียม เรตราคาเครื่องดื่ม 85 – 270 บาท เน้นเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ เช่นกัน
 
และก็ยังมีแบรนดังอย่าง Boost จากออสเตรเลียที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถขยายสาขาไปแล้วกว่า 580 แห่ง ใน 14 ประเทศ หรืออีกแบรนด์คือ ลูกก๊อ ที่มีเรตราคาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเฉลี่ย 65 – 185 บาท มีหลายสาขาเช่นที่เซ็นทรัลเวิลด์ , เซ็นทรัลลาดพร้าว , เดอะมอลล์บางแค เป็นต้น
 
 
แต่หลายคนอาจสงสัยว่าในยุคนี้เครื่องดื่มราคาแพงๆ แก้วละ 150 – 200 มันสวนทางกับกำลังซื้อของคนยุคใหม่เกินไปไหมหรือนี่จะเป็นเพียงแฟชั่นฉาบฉวย มาลองเพื่อให้รู้เท่านั้น น้ำปั่นเพื่อสุขภาพราคาระดับ luxury ยังไงก็ไปต่อไม่ได้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เราต้องไม่ลืมคือ การที่ใครสักคนยอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่อสินค้าสุขภาพ สิ่งที่มองไม่ใช่แค่การซื้อมาดื่มดับกระหายหรือเพื่อสุขภาพ แต่มันเป็นความแปลกใหม่ที่ตัวเองได้เป็น “Trend Setter” หรืออาจจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวเองด้วยว่า เราได้รู้จักอะไรใหม่ๆ ได้ลองอะไรใหม่ๆ ก่อนคนอื่น ตรงนี้เป็นคุณค่าที่คนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อมา
 
แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วคีย์เวิร์ดความสำเร็จก็ต้องย้อนไปที่ “คุณภาพสินค้า” ดังจะเห็นได้ว่าแบรนด์เหล่านี้มีการเน้นที่วัตถุดิบเป็นพิเศษ และแสดงออกชัดเจนในการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นการยืนยันได้ว่าทุกแก้วสมูทตี้นั่นดีต่อสุขภาพของลูกค้าอย่างแท้จริง 

คนที่ซื้อสินค้าในกลุ่มนี้เข้าใจดีว่านี่ไม่ใช่ยารักษาโรคแต่เป็นเครื่องดื่มเพื่อบำรุงสุขภาพ ที่ลดภาวะเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ และน้ำผักผลไม้เหล่านี้มีส่วนสำคัญที่ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง การแลกเงินเพื่อให้ได้สุขภาพดีจึงเป็นการแลกเปลี่ยนที่ดูจะสมเหตุสมผล จึงทำให้ธุรกิจนี้ยังการันตีว่าเติบโตได้มาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับไอเดียการตลาด กลยุทธ์การบริหารจัดการ รวมถึงการรักษาคุณภาพสินค้าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดด้วย
 
รู้หรือไม่!
 
เครื่องดื่มน้ำผักสดและผลไม้ ช่วยลดความดันและไขมันในเลือด อีกทั้งอาจช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
จับเทรนด์ยุคใหม่ เลิกกลัว AI แย่งงาน แต่ให้กลัวค..
2,628
รวมธุรกิจเสือลำบาก ปี 2567/2024 โหดจัด ไปไม่รอด!
1,314
เศรษฐกิจทรุดครึ่งปี! เลิกจ้างงานนับหมื่น บริษัทฯ..
519
รวมวิธีคิดเหนือชั้นทำให้รู้ว่า “ธุรกิจติดตลาด” ห..
517
10 ไอเดียแคมเปญโปรโมชั่น ร้านอาหาร เพิ่มยอดขาย ฉ..
455
นักธุรกิจ vs นักธุรโกย ต่างกันอย่างไร
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด