บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.2K
2 นาที
16 สิงหาคม 2567
เรียบร้อยโรงเรียนจีน แบรนด์ญี่ปุ่นถูกแซงไม่เหลือ!
 

สมัยก่อนแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Sony, Hitachi, Sharp, Mitsubishi Electric, Panasonic ครองตลาดและได้รับความอย่างมากในบ้านเรา แทบจะทุกบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ 
 
แต่มาระยะหลังเริ่มเห็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนอย่าง Haier, TCL, Hisense, Lenovo, Xiaomi มาตีตลาดในเมืองไทย และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะราคาถูก บางคนซื้อไปใช้แล้วทนทาน ก็เหมือนถูกหวย 
 
ส่วนแบรนด์ญี่ปุ่นค่อยๆ นิยมน้อยลง ไม่ใช่เฉพาะแบรนด์เครื่องไฟฟ้าอย่างเดียวที่จีนทำได้ดี ยังลามไปถึงแบรนด์รถยนต์ที่ตอนนี้จีนส่งออกแซงหน้าญี่ปุ่นไปแล้ว โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD, CHANGAN, GWM, MG ทำให้ Toyota, Honda กำลังตกที่นั่งลำบาก เห็นได้จากตลาดรถยนต์ในเมืองไทย แบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นยังเตรียมย้ายฐานการผลิตแล้ว 

 
ภาพจาก www.facebook.com/GWMThai 
 
อยากรู้หรือไม่ว่า ทำไม? แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์จากจีน ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ มาแรงจนอาจถึงขั้นแซงหน้าแบรนด์ญี่ปุ่นไปแล้วก็ได้ แล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน มาดูปัจจัยทำให้แบรนด์จีนมาแรงกันครับ
 
สมัยก่อนเมื่อหลาย 10 ปี แบรนด์ญี่ปุ่นถือเป็นผู้นำเรื่องคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เรียกได้ว่าแต่ละขั้นตอนการผลิตมีความพิถีพิถันกันเลยทีเดียว ทำให้ต้นทุนสูง ราคาขายก็สูงตามไปด้วย ทำให้ผู้บริโภคมองว่าราคาแพงเกินไป พอแบรนด์จีนรู้คนชอบของดี แต่ราคาถูก เลยเข้ามาผลิตสินค้าคุณภาพเป็นรองนิดหน่อย แต่ราคาถูกกว่าแบรนด์ญี่ปุ่น ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าคุณภาพปานกลาง ราคาไม่แพงที่เป็นแบรนด์จีนแทน 
 
อีกปัจจัยที่ทำให้แบรนด์จีนมาแรงเร็วมาก คือ การลอกเลียนแบบเทคโนโลยีจากคนอื่น อย่างกรณีแบรนด์โทรทัศน์จีน Hisense เป็นผู้รับจ้างผลิตโทรทัศน์ให้กับแบรนด์อื่นมาก่อน จากนั้นเรียนรู้การผลิต จนผลิตโทรทัศน์ของตัวเองขายเอง หลายๆ แบรนด์ของจีนก็ใช้วิธีเดียวกัน ลอกเลียนแบบ แล้วทำขายเอง 

ภาพจาก https://www.facebook.com/HisenseThai/
 
เมื่อได้เงินทุนมาก็เอาไปลงทุนใน R&D และพัฒนาสินค้าต่อไป เพื่อให้สินค้าของตัวเองมีคุณภาพมากขึ้น จับกลุ่มผู้บริโภคได้กว้างขึ้น คนที่ซื้อไปใช้เกิดความพอใจ ราคาก็ถูก ทนอีกต่างหาก ทำให้คนหันมานิยมใช้แบรนด์จีนมากขึ้นเรื่อยๆ 
 
อีกแบรนด์จีน คือ Haier สินค้าหลักๆ ตู้เย็น, เครื่องใช้ในครัว, เครื่องซักผ้า และอื่น ๆ สินค้ากลุ่มนี้สร้างรายได้ให้กับพวกเขาจนติดอันดับ 100 แบรนด์ดังโลกเมื่อปี 2019 อย่างในไทย Haier ขยายการเติบโตทางธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ เตรียมลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งแรกในไทย รองรับความต้องการของตลาดเครื่องปรับอากาศที่ยังเติบโตต่อเนื่อง บนพื้นที่กว่า 324,000 ตร.ม. ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 ชลบุรี 

ภาพจาก www.facebook.com/HaierThailand
 
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของจีน ได้รับความนิยมและเติบโตอย่างรวดเร็ว คือ การโหมทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออย่างมโหฬาร มีหลายๆ แบรนด์เป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ๆ ทั้งในและต่างประเทศมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น TCL หรือ Haier ทำให้ทั้ง 2 แบรนด์ได้รับความนิยม โด่งดังรวดเร็ว 

ภาพจาก https://www.facebook.com/TCLThailand/
 
นอกจากแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จีนที่ไล่บี้แบรนด์ญี่ปุ่น ยังมีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD ในปี 2566 ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ทั่วโลกกว่า 3 ล้านคัน แซง Tesla ที่เป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามาก่อน ส่วน Toyota ผู้นำรถยนต์ญี่ปุ่น ขายทั่วโลกกว่า 10 ล้านคัน ห่างจาก BYD แค่ 3 เท่า แต่ Toyota เกิดมาก่อนเกือบ 100 ปี 
 
ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์รถยนต์จีนมาแรง แซงทางโค้ง ส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลจีน ผลักดันอุตสาหกรรม EV ของตัวเอง เพื่อเป็นที่ 1 ของโลก เช่น การอุดหนุนราคารถไฟฟ้าในประเทศ การสร้างสถานีชาร์จรถไฟฟ้าทั่วประเทศ การสนับสนุนเงินให้บริษัทที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ และการเข้าครอบครองแหล่งแร่ที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่ 

ภาพจาก https://www.facebook.com/BYDReverThailandOfficial/
 
ทำให้รถยนต์จีนได้เปรียบด้านต้นทุนและราคา ประกอบกับเปิดให้โรงงานผลิตรถยนต์ต่างชาติตั้งฐานผลิตในจีน หลังจากนั้นก็ลอกเลียนแบบการผลิตจนมีคุณภาพและเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ขายราคาถูก แต่คุณภาพก็ไม่ได้ต่างจากแบรนด์ประเทศอื่นๆ เท่าไหร่นัก แถมแบรนด์ดังจากประเทศอื่นๆ มีการผลิตที่ประเทศจีนอีกต่างหาก 
 
ยังมีข้อมูลรายงานว่า บริษัทรถยนต์ของจีนได้ขยายการส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทั้งเวียดนาม ไทย ลาว เขมร และพม่า ซึ่งเป็นประเทศที่แบรนด์ญี่ปุ่นครองส่วนแบ่งการตลาดขนาดใหญ่ แต่การเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปภายใน ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าของญี่ปุ่นนั้นล่าช้าเกินไป ทำให้ในภูมิภาคนี้รถยนต์ญี่ปุ่นมีส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลง
 
ต้องดูกันต่อไปว่า แบรนด์จีนกับแบรนด์ญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเชื่อว่า “อดีต” กับ “อนาคต” คงไม่เหมือนเดิม อีกทั้งยังมีข่าวว่าญี่ปุ่นขายโรงงานให้จีนเยอะมากแล้ว 

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
649
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
598
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
540
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
491
ยอดวิวคือพลังการตลาด! ปั้มวิว TikTok ให้แฟรนไชส์..
488
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
458
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด