บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
444
2 นาที
9 กันยายน 2567
“การตลาด ณ จุดขาย” เพิ่มพลังการซื้อได้ถึง 20%
 

กำไรจากการขายสินค้าโดยหลักการแล้วควรอยู่ที่ 10 – 20 % จากราคาขาย
 
ถ้าไปดูที่สูตรการหากำไรจะพบว่า
  • กำไรขั้นต้น = ราคาขาย – ต้นทุนสินค้า (สินค้าคงคลัง)
  • กำไรสุทธิ = รายได้รวม – ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
สิ่งเหล่านี้คือทฤษฏีเบื้องต้นที่เชื่อว่าคนทำธุรกิจหลายคนทราบดี และสิ่งที่รู้ลึกกันยิ่งกว่าคือการเพิ่มขึ้นของยอดขายเพียงแค่เล็กน้อย ก็หมายถึงยอดเงินที่เข้าสู่ธุรกิจได้มากขึ้น
 
แต่คำถามก็คือ “จะทำแบบนั้น ได้อย่างไร?”
 
คำว่า “การตลาด ณ จุดขาย” แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เชื่อได้เลยว่ามีอีกหลายคนยังไม่รู้เช่นกันว่าวิธีนี้สามารถเพิ่มพลัง การซื้อได้ถึง 20%
 
 
ในยุคที่คู่แข่งทางธุรกิจมีอยู่รอบด้าน เราเคยพูดคุยผู้คร่ำหวอดในวงการแฟรนไชส์ที่ให้ทรรศนะเรื่องการตัดสินใจซื้อไว้อย่างน่าสนใจโดยได้กล่าวว่า “ สิ่งสำคัญคือเราต้องให้ลูกค้า ตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อสินค้าอะไรตั้งแต่ออกจากบ้าน ถ้าเราทำได้ในระหว่างทางลูกค้าจะไม่โลเลไปกับสินค้าแบรนด์อื่นที่เป็นคู่แข่งกับเรา”
 
สะท้อนให้เห็นว่าสมัยนี้กลยุทธ์การขายในยุคนี้มีลูกเล่นที่แพรวพราวมาก ซึ่งมีตัวเลขที่น่าสนใจที่เราควรรู้คือ
  • การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค มีมากถึง 70% ที่เป็นการตัดสินใจซื้อ ณ จุดขาย
  • ผู้บริโภคถึง 20% ที่ตัดสินใจซื้อแบบเฉียบพลันโดยไม่ได้มีการวางแผนไว้ก่อน
  • ผู้บริโภค 1 ใน 10 คนจะเปลี่ยนใจไม่ใช้แบรนด์เดิมแต่เปลี่ยนไปใช้แบรนด์ใหม่ที่ถูกใจกว่า

สิ่งเหล่านี้อาจเรียกได้ว่าเกิดจากจิตวิทยาการขาย (Psychology of Selling) ที่มีหลายกลยุทธ์ที่แบรนด์นำมาใช้อย่างได้ผล เริ่มตั้งแต่ใช้ป้ายหรือสื่อโฆษณาที่น่าสนใจ เช่น
  • ป้าย Head Board ที่ตั้งอยู่ด้านบนสุดของชั้นวางจำหน่ายสินค้า หรือบนตู้แช่ในร้านสะดวกซื้อทั่วไป เพื่อดึงความสนใจจากลูกค้าให้เข้ามาดูสินค้าที่ชั้นวาง 
  • ป้าย Side Board ที่มีลักษณะเป็นป้ายโฆษณาขนาบด้านข้างของชั้นวางสินค้า ดึงดูดสายตาจากลูกค้าได้ดีในกรณีที่ลูกค้าเดินมาจากทางด้านข้าง
  • ป้าย Standee ที่ทำที่ใช้แนะนำสินค้าง่าย ๆ หรือไดคัทเป็นรูปดาราศิลปินเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
ไม่นับรวมเรื่องกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบอื่นๆที่เชื่อว่าเราก็คุ้นเคยกันดี โดยเฉพาะตามร้านสะดวกซื้อที่นิยมใช้ได้แก่
  • Up-Selling คือ กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย ที่เน้นการจูงใจ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายต้องการซื้อสินค้าหรือบริการในราคาที่สูงขึ้น แต่แลกมาซึ่งคุณภาพที่ดีกว่าเดิม
  • Cross-Selling คือ การแนะนำให้ลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพิ่มเติมหรือที่เรียกว่าการขายพ่วง โดยสินค้าแนะนำให้ซื้อเพิ่มเติมอาจมาจากหมวดหมู่หรือประเภทที่แตกต่างกัน แต่มีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หลักที่ลูกค้าตั้งใจจะซื้ออยู่แล้ว 
ทั้งนี้มีสินค้าอีกกลุ่มที่เรียกว่าสินค้า Impulse Purchase หรือกลุ่มสินค้าที่ลูกค้าไม่ได้วางแผนว่าจะซื้อ แต่เห็นสินค้า ณ จุดขาย แล้วจึงเกิดความอยากซื้อ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ หรือตรงแคชเชียร์ คิดเงิน ที่เป็นเสมือนจุดกระตุ้นเตือนให้ลูกค้าอยากจะซื้อสินค้าก่อนที่จะออกจากร้านค้า
 
 
อีกวิธีที่น่าสนใจมากในการเพิ่มพลังการซื้อ ณ จุดขาย คือการพัฒนา แพ็คเกจจิ้งให้น่าสนใจ เพราะมีตัวเลขน่าสนใจระบุว่า
  • 65% คือลูกค้าใหม่ที่ตัดสินใจซื้อสินค้าครั้งแรกจากแพ็กเกจจิ้ง
  • 55% คือลูกค้าเดิมที่ซื้อสินค้าซ้ำเพราะประทับใจในแพคเกจจิ้ง
และแน่นอนว่าต้องไม่ลืมเรื่อง “โปรโมชัน” ที่ควรนำมาใช้ให้ถูกต้องเหมาะสม ซึ่งทุกวิธีที่กล่าวมาหากนำมาผสมผสานใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นการเพิ่มพลัง ณ จุดขายที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
เทคนิคสร้างยอดขาย สินค้านิยมต่ำ กำไรสูง
1,685
5 อันดับ โรงงาน OEM รับผลิตครีม ผลิตเครื่องสำอาง..
993
แก่น CJ More ทำธุรกิจกำไรให้กำไร
899
กลยุทธ์ลดราคา! ร้านค้าปลีกปั้น House Brand ถัวเฉ..
608
กลยุทธ์ Hotelling model เปิดร้านข้างคู่แข่ง มีแต..
575
เปิดร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ..
563
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด