บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
406
2 นาที
27 ธันวาคม 2567
ไม่ต้องเก่งทีเดียว! ขอดีขึ้นวันละ1% ครบปี เก่งกว่าเดิม38 เท่า
 

ใกล้จะถึงปีใหม่ 2568 เชื่อว่าใครๆก็มีความตั้งใจว่าชีวิตในปีหน้า “ฉันจะต้องดีกว่าเดิม” แต่ตัวเลขที่ไม่น่าเชื่อคือคนที่ทำสำเร็จได้จริง เปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างที่ต้องการนั้นมีไม่ถึง 10% 

ถ้าเทียบกับคนที่ไม่สำเร็จนั้นสูงกว่า 90% แถมบางคนล้มเลิกความคิดตั้งแต่ช่วง 3 เดือนแรกของปีใหม่ หนักกว่านั้นคือบางคนล้มเลิกความคิดตั้งแต่สัปดาห์แรกของปีใหม่อีกด้วย
 
 
เหตุผลง่ายๆที่ตั้งใจแล้วทำไม่สำเร็จเพราะบางทีเรา “คิดใหญ่” เกินไป
 
มีคำกล่าวน่าสนใจที่ใช้ได้จริงเขาบอกว่า “ไม่ต้องเก่งทีเดียว! ขอให้ดีขึ้นวันละ 1% 
 
เชื่อไหมว่าเมื่อครบปี เราจะเก่งกว่าเดิมถึง 38 เท่า
 
คำถามคือแล้วอะไรที่เรียกว่าเก่งขึ้นวันละ 1 % เราต้องทำแบบไหน?
 
 
เริ่มต้นกันแบบง่ายๆ คือ ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในทุกวัน แล้วทำมันให้สำเร็จ ก่อนที่จะเพิ่มเป้าหมายขึ้นทีละน้อยในวันถัดไป ซึ่งหากทำได้ต่อเนื่องแบบนี้ติดต่อกันก็เท่ากับว่าเราพัฒนาขึ้น เก่งขึ้น ถ้ายังมองไม่เห็นภาพลองดูตัวอย่าง
  • อยากลดน้ำหนัก จำเป็นต้องออกกำลังกายทุกวัน อาจเริ่มที่วันละ 1-2 นาที แล้วค่อยเพิ่มไปเรื่อยๆ 
  • อยากจะอ่านหนังสือให้ได้มากขึ้น ก็เริ่มจากการอ่านวันละ 1-2 หน้าแล้วเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ 
  • อยากออกกำลังด้วยการวิ่งก็เริ่มจากการวิ่งแค่ 100 เมตร แล้วเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ 
  • อยากมีธุรกิจของตัวเอง ก็เริ่มจากลองทำร้านเล็กๆที่พอทำได้ขายไปเรื่อยๆ เก็บประสบการ์ 
  • อยากมีเงินสะสมมากๆ ก็เริ่มจากเก็บเงินทีละ 10 -20 บาท และพยายามเก็บทุกวันสะสมมากขึ้นไปเรื่อยๆ 
แต่หลายคนก็บอกว่าเรื่องนี้พูดง่ายแต่ทำยาก เอาเข้าจริงๆ เดี๋ยวก็เหมือนไฟไหม้ฟาง เป็นอารมณ์ชั่ววูบ ฮึกเฮิมแค่ปลายปี พอต้นปีก็ไม่เอาอีกแล้ว เหตุผลหลักๆที่คนส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นอุปนิสัยที่ดีได้นั้นส่วนใหญ่มักใช้เวลามากกว่า 2 นาทีขึ้นไป แต่รู้หรือไม่ว่ามีอุปนิสัยที่ดีที่ใช้เวลาในการทำในแต่ละครั้งน้อยกว่า 2 นาที ก็ใช้ได้เช่นกัน และแน่นอนว่าอุปนิสัยคนเราก็มีทั้งด้านดีและไม่ดี และเราก็มักชอบทำอะไรตามใจตัวเอง การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นมันคือการฝืนจากตัวตนเดิมที่เราเป็นอยู่ 
 
 
จึงเป็นเรื่องยากที่จะก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราให้เวลากับการเปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น เราจะเริ่มละทิ้งอุปนิสัยเดิมและกลายเป็นคนใหม่ที่ก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ คล้ายกับ “ทฤษฎี 21 วัน” ของ Dr. Maxwell Maltz ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน ที่บอกว่าคนเราจะเปลี่ยนนิสัยได้เมื่อทำต่อเนื่องติดต่อกันได้ถึง 21 วัน เพียงแต่ระยะเวลาในการสร้างนิสัยหรือเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่ 18-254 วัน โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 66 วัน จึงจะถือว่าสามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยหรือพฤติกรรมใหม่ได้อย่างสมบูรณ์
 
อย่างไรก็ดีการพัฒนาตัวเองนั้นไม่ได้ง่ายแน่ ต้องอาศัยความพยายามสูงมาก บางคนไม่สามารถพัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้น 1% ได้ตามเป้า หรืออาจจะทำได้แย่กว่าด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เราต้องทำคือแค่ลืมมันไป ลืม 1% ที่เราแย่ลงเพื่อเริ่มต้นใหม่ในวันพรุ่งนี้กับ 1% ที่จะทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม 
 
แม้ว่าการเก่งขึ้นวันละ 1% ที่ว่านี้อาจไม่ได้เห็นผลในทันทีแต่ก็ไม่ต่างจากการเก็บเล็กผสมน้อยจากที่ไม่เห็นผลก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ขั้นแรกเราต้องมาวางแผนชีวิตตัวเองก่อนว่า ในปีใหม่ 2568 นี้เราอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองด้านใด อยากทำอะไรให้สำเร็จมากที่สุด โฟกัสมาแค่เรื่องเดียวก่อน แล้วทำเรื่องนั้นให้ได้ พอปีนี้เราทำเรื่องนี้ได้ปีหน้าก็ค่อยหาเรื่องใหม่มาพัฒนาตัวเองต่อไป บางทีเริ่มต้นได้ช้าก็ยังดีกว่าการไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
500
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด